|
พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยานายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ให้สัมภาษณ์ว่า
สำหรับทรัพย์สินกว่า 60 ล้านที่ได้เปิดเซฟออกไปจากธนาคารก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์สินตายตัวเนื่องจากเพิ่งเสร็จจากงานศพ เพียงแต่เบื้องต้นตนและครอบครัวได้แยกแยะว่าทรัพย์สินส่วนใดที่นำมาจากบิดาของตนก็จะคืนไป แต่ในส่วนทรัพย์สินที่ตนและนายจักรกฤษณ์หาร่วมกันมาจะไม่ได้คืนกลับไปจะเก็บไว้ส่วนหนึ่ง ในจุดนี้จะแยกอย่างชัดเจนเพราะทุกคนย่อมรู้อยู่แล้วว่าทรัพย์สินแต่ละคนมีอะไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ตำรวจตั้งประเด็นการสืบสวนสอบสวนสาเหตุหนึ่งมาจากความขัดแย้งในครอบครัว พญ.นิธิวดี กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด เพียงแต่ยอมรับว่าตกใจกับประเด็นดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็เห็นใจการทำงานของตำรวจ ซึ่งต้องทำหน้าที่ปิดทุกประเด็นเพื่อไขข้อข้องใจให้กับประชาชน ประกอบกับ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตนมีปัญหากับนายจักรกฤษณ์ อาจทำให้น้ำหนักของคดีพุ่งมาที่เรื่องนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตามยังมองในแง่ดีว่าสักวันหนึ่งความจริงจะปรากฏว่าอะไรเป็นอะไร
"ขอยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุสถานการณ์ภายในครอบครัวทุกอย่างเริ่มดีขึ้น เราทั้งสองคนมีโอกาสกลับไปมีครอบครัวได้อีกครั้งหนึ่ง ดีขึ้นถึงขนาดที่ตอนนี้มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์เด็กอีก 1 คนแต่ยังไม่แน่ใจ เพราะประจำเดือนขาดไป 1 เดือน แต่ยังไม่ได้ไปตรวจกับแพทย์ เนื่องจากอยากรอให้แน่ใจเสียก่อนว่าเป็นเพราะความเครียดหรือจะตั้งครรภ์ พี่เอ็กซ์ก็ทราบเรื่องนี้ และได้ช่วยกันตั้งชื่อลูกไว้ก่อนแล้ว ว่าจะให้ชื่อ "น้องชมชนะ" สาเหตุที่ต้องรีบออกมาบอกก่อนว่าอาจมีน้องกับพี่เอ็กซ์นั้น เพราะหากปล่อยเวลาให้ล่วงออกไปอีก 2 สัปดาห์อาจกลายเป็นประเด็นถูกกล่าวหาว่าไปยุ่งกับคนอื่นหลังจากที่นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ได้ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหา เราทั้งคู่ก็ไปมาหาสู่กันตลอด เพียงแต่ยังไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นครอบครัวด้วยกันอย่างจริงจังเท่านั้น"พญ.นิธิวดีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับประเด็นที่ตำรวจตั้งเอาไว้ว่าสาเหตุอาจมาจากปัญหาครอบครัว ได้พูดคุยกับญาติพี่น้องบ้างหรือไม่ พญ.นิธิวดี กล่าวว่า ไม่ได้คุยกับญาติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเลย เนื่องจากมั่นใจว่าครอบครัวของตนและครอบครัวนายจักรกฤษณ์เข้าใจกันดี ทั้งสองครอบครัวไม่มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งรุนแรงแต่อย่างใด และรู้ว่าอะไรคืออะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากข้อมูลทราบว่าในวันเกิดเหตุ(19ต.ค.)ช่วงกลางวันในวันเกิดเหตุได้พบกับนายจักรกฤษณ์ก่อนแล้ว แต่เหตุใดจึงนัดพบกันในช่วงค่ำอีก พญ.นิธิวดี กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากนายจักรกฤษณ์ต้องการพาลูกไปดูห้องนอนที่ตกแต่งปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ช่วงกลางวันแล้ว เพราะหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงกันที่แมคโดนัล ระหว่างนายจักรกฤษณ์ขับรถกลับออกมาจะพาลูกไปดูห้องเลย แต่เนื่องจากตนมีงานค้างอยู่ที่บ้าน จึงขอกลับไปทำงานที่บ้านก่อน แล้วตอนเย็นจะเป็นคนขับรถพาลูกไปหานายจักรกฤษณ์เอง แต่พอถึงช่วงเย็นขณะตนและลูกกำลังจะออกจากบ้าน นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดานายจักรกฤษณ์ กล่าวทักขึ้นว่าค่ำแล้วอย่าออกไปเลย ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์หานายจักรกฤษณ์พร้อมบอกว่าเดี๋ยวค่อยนัดพบกันวันจันทร์(21ต.ค.)เนื่องจากลูกสาวปิดเทอมแล้ว จะพาไปดูห้อง และขาดเหลืออะไรจะได้ไปซื้อของกันเลย
"แต่เนื่องจากพี่เอ็กซ์เป็นคนติดลูกมาก คิดว่าคงทนคิดถึงลูกไม่ไหว เขางอแงจะมาพบลูกเลย พี่เอ็กซ์จึงบอกว่าจะขับรถมากินข้าวเย็นด้วย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทุกวันนี้ดิฉันยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ในวันนั้นเพราะทั้งๆที่เป็นหมอ พอเกิดเหตุก็ยังขาดสติ หากเพียงแต่โทรศัพท์เรียกรถฉุกเฉินตั้งแต่ทราบเหตุขณะอยู่ที่บ้าน พี่เอ็กซ์อาจจะมีโอกาสรอด แต่ดิฉันกลับเลือกไปที่เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยโทรเรียกรถพยาบาล ดิฉันจึงทำได้เพียงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก"พญ.นิธิวดีกล่าว
| 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น