ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า1ปี เมื่อ ๑๘ ก.พ.๕๖

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า1ปี

เมื่อเวลา 10.45 น. ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่ากี่วัน ว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ต้องยึดตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ดังนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี ถึงจะมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้ ไม่ใช่มีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ เนื่องจาก มาตรา 3 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ระบุว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพ.ร.บ.นี้แก่การเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วนั้น ให้ยกเลิกกฎหมายที่ขัดหรือแย้งต่อพ.ร.บ.นี้ทันที

"กกต.ยืนยันว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี และอยากขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนช่วยตรวจสอบรายชื่อของตัวเองด้วย ดังนั้นคนที่ออกมาระบุว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ จะต้องอยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วันนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นกฎหมายเก่า ที่ยกเลิกไปแล้ว ผมคิดว่าคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้อาจจะสับสนเพราะเคยใช้กฎหมายเก่า และคงคิดว่าน่าจะเหมือนกับการเลือกตั้งส.ส.ทั่วไป" นายสมชัย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการย้ายประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื่อให้มีสิทธิเลือกตั้งการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ นายสมชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบก็ยังไม่พบว่าจะมีการย้ายมาเพื่อสิทธิในการเลือกตั้ง มีแต่เพียงย้ายเข้ามาเพื่อสิทธิประโยชน์อื่น เช่น การรักษาพยาบาล หรือสิทธิในการเข้าโรงเรียนของบุตร และการย้ายในช่วงนี้เป็นการย้ายตามปกติ แต่ทั้งนี้หากใครตรวจสอบแล้วพบว่ามีการย้ายคนเข้ามาในทะเบียนบ้านที่ผิดปกติ เช่น มีการย้ายคนเข้ามาเกิน 10 คน ภายใน 2 ปีก่อนการเลือกตั้ง โดยที่เจ้าบ้านไม่อนุญาตนั้น ก็จะมีความผิดได้ ดังนั้นผู้พบเห็นสามารถยื่นร้องมาได้ที่กกต.กทม. เพื่อขอให้ตรวจสอบได้