วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สุเทพแถลงปัดโกงงบสร้างโรงพักอ้างโครงการยุคสมชาย 7 ก.พ. 56 12.04 น




สุเทพแถลงปัดโกงงบสร้างโรงพักอ้างโครงการยุคสมชาย

 | เปิดอ่าน 318 | ความคิดเห็น 16font-dec font-inc Print พิมพ์หน้านี้

4



สุเทพแถลงปัดโกงงบสร้างโรงพักอ้างโครงการยุคสมชาย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเอกสารสัญญาการประมูลแถลงข่าวชี้แจง กรณีปัญหาทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพักและแฟลตตำรวจ โดยยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต ซึ่งลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การเสนอโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เริ่มตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับเจ้าของ หรือ ผู้บริหาร บริษัท PCC Development and construction จำกัด ที่ได้รับการประมูลในครั้งนี้อย่างไรก็ตาม การออกมากล่าวหา ถือเป็นการใส่ร้ายและได้ใช้สิทธิ์ฟ้องกลับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว ทั้งนี้ การที่ออกมาชี้แจงล่าช้า เนื่องจากอยู่ในช่วงการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพราะเป็นฝ่ายค้าน ทำให้ยากต่อการจัดเอกสาร 'ถวัล'ยันทำคดีสร้างโรงพักไม่กลั่นแกล้งทางการเมือง พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงปฏิเสธ เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลสร้างโรงพัก และมองเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง ว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนสนใจ ดีเอสไอจึงดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีใครที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ อย่างไร ยังไม่ได้มีการเรียกผู้ใดมาแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนการเรียก อดีต ผบ.ตร. ทั้ง 3 คน มาสอบสวนนั้น เนื่องจากเกี่ยวข้องในการลงนามอนุมัติโครงการ โดยในสมัยของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นั้นเป็นผู้เสนอแนวทางการประมูล ว่าควรกระจายไปตามภาคต่างๆ แต่พอมาช่วงของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ กลับมาเสนอแนวทางเป็นแบบรวมภาค จึงต้องการทราบว่า ทำไมเหตุผลจึงขัดแย้งกัน ส่วนสมัยของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อยู่ช่วงลงนามสัญญา แต่ไม่ได้ลงนามเอง จึงอยากทราบจ้อเท็จจริง ว่ามีส่วนในการอนุมัติโครงการอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่หนักใจ แม้จะถูกมองว่าการทำคดีนี้เป็นการหวังผลทางการเมือง เพราะคดีนี้เกี่ยวข้อง และได้รับผลกระทบหลายฝ่าย พร้อมยืนยันว่า ทำคดีตามหน้าที่ บริสุทธิ์ใจ ไม่หวั่นไหวต่อข้อกล่าวหา ซึ่งการจะใส่ร้ายใครคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการทำคดีต้องยึดหลักกฎหมาย ทุกอย่างต้องยึดไปตามขั้นตอน จึงเป็นไปไม่ได้ที่เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ชูวิทย์จี้เพรียวพันธ์รับผิดชอบคดีสร้างโรงพัก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงถึงกรณีการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ที่ขณะนี้ได้ถูกนำมาเป็นประเด็นการเมืองในการโจมฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยได้กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความไม่ถูกต้องในการทำสัญญา จึงควรจะยกเลิกสัญญาในทันที แต่กลับพบว่ามีการต่อสัญญาให้ขยายเวลาการก่อสร้างออกไปถึง 3 ครั้ง อีกทั้งครั้งล่าสุด ได้มีมติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2555 ให้มีการขยายสัญญาเพิ่มเติมไปอีก 60 วัน จนสิ้นสุดในวันที่ 14 มีนาคม ในปีนี้ โดยมี พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามในสัญญา ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นการบริหารสัญญาผิดพลาด รวมถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น อีกทั้งเพื่อให้การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควรเชิญ นายชูวิทย์ พร้อม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนปัจจุบัน เข้าให้ข้อมูล พร้อมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังได้แสดงร่างทีโออาร์ โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน ตั้งแต่ปี 2552 เพื่อชี้ให้เห็นว่า หากสัญญาไม่ถูกต้องผู้รับผิดชอบ ร่างสัญญา คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการร่างสัญญา ต้องมีความผิดด้วย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น