วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เหยื่อมัสยิดไอย์ปาแย รับเงินเยียวยากว่า 31 ล้านบาท โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2556 18:35 น.


เหยื่อมัสยิดไอย์ปาแย รับเงินเยียวยากว่า 31 ล้านบาท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์20 กุมภาพันธ์ 2556 18:35 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น





ยะลา - เหยื่อเหตุการณ์รุนแรงที่มัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอย์ปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เข้ารับเงินเยียวยาจาก ศอ.บต. จำนวน 19 คน เป็นเงินกว่า 31 ล้านบาท
       
       เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ห้องโถง อาคารศูนย์อำนวยการบริชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ทายาทผู้เสียชีวิต จากกรณีเหตุการณ์ที่มัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552
       
       โดยการจ่ายเงินครั้งนี้ คณะกรรมการช่วยเหลือเยียวยาได้มีมติให้ช่วยเหลือ รายละ 4 ล้านบาท โดยให้มีการหักเงินที่ทางราชการได้ช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้ในจำนวนผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย มีทายาทที่มาขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา รวมจำนวน 19 คน เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 31,632,000 บาท 
       
       นายสมาน ปะเงาะห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ในฐานะตนเป็นตัวแทนของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่มัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย วันนี้ได้นำผู้ได้รับผลกระทบฯ และทายาทมารับเงินเยียวยาจากทาง ศอ.บต. ซึ่งการเดินทางมารับเงินเยียวยานี้ จะทำให้ผู้ได้รับผลกระทบได้มีกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไป ถึงแม้ว่าจะสูญเสีย สามี ลูก วันนี้ภาครัฐก็มีการเยียวยาให้ ผู้ที่มารับเงินเยียวยาก็ภูมิใจ และขอขอบคุณทางภาครัฐ และ ศอ.บต.ที่ได้ให้ความสำคัญ และช่วยเหลือในครั้งนี้
       
       “ซึ่งเงินที่ได้รับครั้งนี้ ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบก็จะได้นำไปใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งจะทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าไม่มีเงินในส่วนนี้ก็ทำให้ครอบครัวลำบาก พอได้เงินส่วนนี้เขาก็สามารถนำไปดำเนินชีวิต ไปประกอบอาชีพได้ สำหรับชาวบ้านไอร์ปาแย ส่วนใหญ่จะมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง บางวันก็ได้เงินบ้าง บางวันก็ไม่ได้เงิน พออยู่ได้เท่านั้น บางคนมีบุตรหลานหลายคน รายได้ก็ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในแต่ละวัน พอมีเงินส่วนนี้ทำให้ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบฯ อยู่ดีกินดีขึ้น สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้นั้น ในความเป็นจริงชาวบ้านทุกคนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น พอเกิดเหตุการณ์ครั้งหนึ่งก็ส่งผลกระทบหลายอย่าง ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ชาวบ้านจะได้ไปประกอบอาชีพอย่างปลอดภัย” นายสมานกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น