วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อำมาตย์แดงขย้ำไพร่ แย่งกันใหญ่สั่ง' กลุ่ม29มกราฯ'หุบปาก!ซัดเป็นพวกประชาธิปัตย์ เมื่อ 3 ก.พ.56 หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์



อำมาตย์แดงขย้ำไพร่ แย่งกันใหญ่สั่ง' กลุ่ม29มกราฯ'หุบปาก!ซัดเป็นพวกประชาธิปัตย์


          นครราชสีมา - แดงอำมาตย์โชว์ศักยภาพ เปิดโรงเรียนถล่มแดง 29 มกราฯ ยับ "เหวง" ติดหนวด สั่งพวกจะสถาปนาตัวเองเป็นแกนนำแดงแข่งหุบปาก โทษฐานเอาท่าทีศัตรูมาใช้กับมิตร เอาปืนมายิง เอาหอกมาแทงพวกเดียวกันเองเท่ากับเป็นพวกประชาธิปัตย์ แก้ตัวอ้างเพื่อไทยไม่ได้เหยียบศพคนเสื้อแดง เคาะกะลาลั่นเวที อยากให้ผู้ใหญ่กลับบ้านต้องประคับประคองรัฐบาล "ธิดา" ไปไกล อำมาตย์คือพวกบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนและยังสมคบกับต่างชาติ
          ที่สนามลิปตพัลลภฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ
          80 พรรษา ต.ปรุใหญ่ อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)และประธานโรงเรียน นปช. เป็นประธานเปิดโรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 32 อำเภอ ร่วมกิจกรรมการเปิดโรงเรียน นปช.ที่ จ.นครราชสีมา กว่า 1,000 คน และ แกนนำคนเสื้อแดงเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ,นางวิสา คัญทัพ,นายก่อแก้ว พิกุลทอง,นางไพจิตร อักษรณรงค์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์
          ทั้งนี้ เป็นการเปิดอบรมหลักสูตรผู้ปฏิบัติงานระดับตัน ปี 2555-2556 ครั้งที่ 9 และบรรยายพิเศษหัวข้อ เป้าหมายยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี หลักนโยบาย ภาระหน้าที่ การนำวิธีคิด วิธีทำงาน หลักประชาธิปไตยรวมศูนย์ รวมทั้งหัวข้อปัญหาการทำงานทำงานมวลชนและจัดตั้งองค์กร,หัวข้อเครือข่ายช่วยระบอบอำมาตย์ในประเทศไทย หัวข้อการต่อสู้ของประชาชนภาคอีสานในอดีตและการต่อสู่ของประชาชนภาคอีสานในอดีตและการต่อสู้กับระบอบอำมาตต์ในปัจจุบัน หัวข้อ นปช.กับการเมืองไทย เป็นต้น
          นางธิดากล่าวเปิดงานว่า การเปิดโรงเรียน นปช.ของเราจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะยกระดับงานทั้งปริมาณและคุณภาพของมวลชนคนเสื้อแดง และเราต้องการที่จะสร้างกองหน้าของเรา เราต้องการให้คนในพื้นที่ทั้งหลายนั้นได้เห็น มีแกนนำในพื้นที่ที่พร้อมจะทำงาน เพราะคำว่าผุ้ปฏิบัติงานในชื่อของโรงเรียนนี้เป็นหลักสูตรผู้ปฏิบัติงาน แปลว่าเราต้องการคนทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เราจะมาผลิตนักปราศรัย
          ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า ปีนี้ต้องทำ 4 เรื่องให้เสร็จ คือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2.เอาคน เสื้อแดงออกจากคุก 3.เอาฆาตกรมาลงโทษในภายในและต่างประเทศ 4.กหมายที่เผด็จการต้องแก้ไขให้ได้
          เขายังพูดถึงกลุ่ม 29 มกราฯ ซึ่งเป็นคนเสื้อแดงที่ไปยื่นหนังสือให้ น.ส.ยิ่งลักาณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า"ผมยังมองเขาเป็นเพื่อน แต่ต้องแยกมิตรแยกศัตรูให้ถูก มีความเห็นอะไรที่แตกต่าง อย่าเอากระสุนมายิงพวกเดียวกัน เอาปืนมายิงผมตาย แบบนี้เป็นมิตรหรือไม่ เอาหอกเอาดาบมาฟันเป็นมิตรหรืเปล่า"
          "บางคนอาจสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นแกนนำ แล้วถีบเสื้อแดงเยเลย อย่างนี้เป็นแกนนำหรือเปล่า มิตรทั้งหลายถ้าคุณไม่พอใจมิตรด้วยกัน อย่าเอาปืนยิงมิตร ไอ้พวกนี้เป็นเสื้อแดงด้วยกันจะมายิงกันเอง ไอ้พวกนี้ทำไงดีครับ เตือนก่อนมั้ยครับ อย่าเอาท่าทีกับศัตรูมาใช้กับมิตร อย่าโกหกใส่เพื่อน ไม่สำรวจ ไม่มีสิทธิ์พูด ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า"
          เขายังกล่าวว่า ขณะนี้มีแนวโน้มบางอย่าง มีการโจมจีว่าพรรคเพื่อไทยเหยียบศพคนเสื้อแดงแบบนี้พูดไม่ถูก เพราะมีทางเลือก 2 ทาง ถ้าคุณตีพรรคเพื่อไทยตายพรรคประชาธิปัตย์ก็กลับมาใช่หรือไม่ เท่ากับพวกคุณเป็นพวกประชาธิปัตย์ไม่ทรงตรงก็ทางอ้อมต้องเข้าใจพรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดง เราเอาใจใส่เพื่อนทุกคนในคุก เราไม่ได้ห่างเหินการเอาใจใส่นักโทษ
          นางไพจิตร อักษรณรงค์ โฆษกเวทีเสริมต่อว่า คนเสื้อแดงต้องจำไว้ อย่าด่าพวก อยากให้ผู้ใหญ่กลับบ้าน ต้องประคับประคองรัฐบาล
          ย้อนรอย 'เหวง'
          ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ในงานเปิดโรงเรียนนปช.ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นพ.เหวงได้ปราศรัยโจมตีกลุ่มเสื้อแดงกันเองว่า "เพราะมีแดงบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย แต่ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณมีความคิดเห็นต่างจาก นปช.แต่อย่ามาสร้างความแตกแยก อย่ามาวิจารณ์ถึงขั้นทำลาย อย่ามาด่ากัน สนอควมเห็นกันได้ แต่อย่ามาด่าออกหนังสือพิมพ์ มีอะไรพูดคุยกัน แดงด้วยกัน
          มีแดงบางกลุ่มโจมตี นปช.ก่อนหน้านี้ โจมตีหนักที่สุดว่า ไม่สนใจเพื่อนที่อยู่ในคุก จตุพร ณัฐวุฒิ อาจารย์ธิดาไม่สนใจ แต่ความจริงพวกเราดูแลอยู่หมดครับ ตอนหลังๆ เสียงโจมตีก็ค่อยๆ เบาไปนี่ไม่ใช่เพียงไม่มีวินัยนะ แต่สร้างความแตกแยก ทำลายครับ แล้วตัวเองก็ต้องการสร้างการนำขึ้นมาเรื่องการชิงการนำไม่มีปัญหา ถ้าคุณต้องการเป็นแดงกลุ่มใหม่ แล้วคุณต้องการมีแนยทางนโยบายอะไร ไม่เป็นไรครับ คุณต้องประกาศตัวออกมา แล้วประชาชนจะตัดสินใจเองว่าประชาชนจะเลือกข้างไหน"
          ช่วงท้ายมีการเปิดโฮกาสให้คนเสื้อแดงตั้งคำถาม โดยแกนนำเสื้อแดงเป็นผู้ตอบ เช่น คำถามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังคงมีการยืนยันจากเวทีคนเสื้อแดง ว่า ให้โหวตวาระ 3 ทันที ไม่ต้องทำประชามติ ส่วนอำมาตย์นั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในประเทศ แม้กระทั่งห้องน้ำ
          นางธิดายกตัวอย่างว่า อำมาตย์คือการบังคับให้เด็กตัดผมเกรียน  และยังบอกว่าอำมาตย์เป็นคนไทยสมคบกับต่างชาติ ส่วน นพ. เหวงบอกว่าสิ่งที่อำมาตย์ทำให้ประเทศนี้คือทำรัฐประหาร
          มีคำถามว่าเมื่อไหร่จะไม่มีอำมาตย์ นางธิดาตอบว่า ต้องทำอำนาจของประชาชนให้แข็งแกร่งกว่าอำมาตย์ ไม่มีทางที่อำมาตย์จะคืนอำนาจให้ประชาชนง่ายๆ การมีรัฐบาลมีอำนาจเพียงเล็กน้อยเพราะอำมาตย์ยังเปิดแนวรุกจากศาลได้
          นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนกลุ่ม นปช.ให้สัมภาษณ์ว่ากรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุถึงการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมว่าต้องให้กฤษฏีกาศึกษา และต้งอรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายก่อนั้น ตนเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ในมุมของนปช.เห็ยว่าผู้ที่สูญเสียอิสรภาพ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องเวลา เพราะเราเองผ่านการจับกุมคุมขังมา ยิ่งเนิ่นนานเท่าไหร่ยิ่งทำร้ายจิตใจโดยเฉพาะในส่วนของประชาชน ซึ่ง 3 แนวทางคือ การออก พ.ร.บ. พ.ร.ก. หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการสรุปซึ่งแนวทางหลังจากที่กฤษฏีกาศ฿กษาน่าจะทำได้ทันทีคือการออก พ.ร.ก. ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร และในอดีตที่ผ่านมาการใช้ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมก็เป็นโทษประหารชีวิตและกบฏ เป็นส่วนใหญ่ มีเพียงกรณีนี้ที่จะนิรโทษกรรมเฉพาะประชาชน ดังนั้นวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องหยุดบิดเบือนเพราะจะไม่มีการนิรโทษกรรมให้แกนนำแม้แต่คนเดียว จะเป็นส่วนของประชาชนทุกสีเสื้อ
          เมื่อถามถึงกรอบระยะเวลาที่ควรออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เขาตอบว่า หลังกฤษฏีกาได้พิจารณาเพราะไม่ได้ซับซ้อนอะไร เราเห็นถ้าเป็น พ.ร.ก.สามารถจะทำได้ปัญหามีนิดเดียวคือรัฐธรรมนูญ 184 ว่าความหมายของเร่งด่วนคืออะไร การที่ประชาชนถูกคุมขังมา 3 ปี อย่างนี้ยังเร่งด่วนพอที่จะปล่อยเขาอีกหรือ ตนคิดว่าจากนี้ควรให้กฤษฏีกาดูว่า พ.ร.ก.นี้ต่างจากอดีตอย้างไร เมื่อดูรอบคอบแล้ว ถ้าเหมือนกันแล้วเห็นว่าเป็นอำนาจฝ่ายบริหารที่จะทำได้ ก็เป็นเรื่องข้อกฏหมาย เชื่อว่าการนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่ายในส่วนของประชาชนไม่ควรจะมีใครมาขัดข้องลองติดคุกดูบ้าง
          ชักว่าอายุรัฐบาลชุดนี้ควรจะทำให้ได้ใช่หรือไม่ นายจตุพร ตอบว่า ไม่ทราบว่าเหตุการณ์วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราเห็นประชาชนที่มาร่วมการต่อสู้ ต่างต่อสู้ในความเชื่อของตัวเอง ดังนั้นได้เวลาหรือยังที่จะมาปลดปล่อยประชาชนของตัวเอง รวมถึงเรื่องคดีความ
          เมื่อถามย้ำว่า อย่างนี้จะปล่อยให้เวลาเลยไปถึงรัฐบาลชุดหน้าหรือไม่ นายจตุพรสวนทันที ว่า ก็ลองไปติดคุกดูบ้าง ตนเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาเรื่องนี้ด้วยความเข้าใจ เพราะประชาชนไม่ควรจะมาเจอชะตากรรมอย่างนี้
          นายนิสิต สินธุไพร ผู้อำนวย การโรงเรียน นปช. จำเลยที่ 8 คดีการก่อการร้าย กล่าวว่า การที่นายกฯ จะส่งให้คณะกรรมการกฤษฏีกาก็ถือเป็นขันตอนที่ควรปฏิบัติ ไม่ใช่การยึดเวลา และเชื่อว่าพอไปถึงมือคณะกรรมการกฤษฏีกาแล้วก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องความเห็นขัดแย้งเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเช่นนั้น แต่กฤษฏีกาจะช่วยแนะนำในเรื่องตัวบทกฏหมาบมากกว่า ไม่ใช่การยื้อเวลาแน่
          ส่วนที่ทางคณะกรรมการกฤษฏีกา กล่าวว่า ไม่เคยรู้เรื่องหรือรับทราบเรื่อง พ.ร.ก.นิรโทษกรรม "จากนายกฯ หรือการประชุม ครม.เลยนั้น คงเป็นเพราะเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอน แค่การให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เป็นตัวแทนไปหารือกับนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ยังไม่มีการยื่น พ.ร.ก.ตัวจริงแต่อย่างใด
          เมื่อถามว่า ที่มีการเร่งดำเนินการยื่น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมนี้เพราะในช่วงหลังมีคำพิพากษาจากศาลอาญาที่ชี้ให้เห็นและลงโทษ นปช.ในคดีที่มีอาวุธสงครามในครอบครองอันจะทำให้การชุมนุมไม่ชอบด้วยกฏหมายใช่หรือไม่ นายนิสิต กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้ก็มี พ.ร.บ.ปรองดองมาแล้ว แต่กลับถูกแช่ในสภา ส่วน พ.ร.ก.ฉบับนี้ก็จะระบุชัดเจนว่าจะไม่นิรโทษฯ แกนนำกับผู้สั่งการส่วนการจำแนกก็จะระบุชัดเจนว่าจะไม่นิรโทษฯ แกนนำกับผู้สั่งการส่วนการจำแนกก็จะดูตามพฤติการณ์ที่ปรากฏออกมา ซึ่งมีกฏหมายรองรับ แต่ที่เร่งออกกฏหมายนี้เพื่อลดความขัดแย้ง ได้ประโยชน์ทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลืองจะกล้าหรือไม่ที่จะไม่ได้รับการนิรโทษฯ
          วันเดียวกันนี้ นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้หารือกับเพื่อน ส.ว.ทั้งสายสรรหา และสายเลือกตั้ง และรวบรวมราย ชื่อได้ประมาณ 20 คน เพื่อเสนอต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธาน วุฒิสภา ในวันที่ 4 ก.พ.นี้ ให้ใช้อำนาจประธานวุฒิสภาแต่งตั้งคณะกรรมการปรองดองและติตดามสถานการณ์บ้านเมือง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ศึกษาผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ประชาชนกลุ่มมวลชนต่างๆ ถูกดำเนินคดีโดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวให้ออกมาสู้คดี ซึ่งวุฒิสภาจะดูเฉพาะในส่วนของประชาชน ไม่เกี่ยวข้องกับบรรดาแกนนำ เชื่อว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายได้
          เขาบอกว่า จะติดตามประเด็นการเสนอนิรโทษกรรมด้วยช่องทางต่างๆ อาทิ ข้อเสนอของกลุ่ม คณะนิติราษฏร์ ข้อเสนอของนาย อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) กลุ่ม นปช. และกลุ่มอื่นๆ รวมถึง ประเด็นการเมืองที่จะนำไปสู่ข้อขัดแย้งของคนในชาติ อย่างกรณีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร โดยจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือแก้ตัวให้"ปู"
          ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ นสพ.นิวยอร์ก ไทมส์เขียนกล่าวหารัฐบาลไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยตัวจริงว่า ถือเป็นการเสนอข่าวที่ใช้จินตนาการสูงเกินความจริง มากกว่าที่จะแสวงหาพยานหลักฐานหรือเหตุผลมา นำเสนอข่าวตามจรรยาบรรณสื่อมวลชน เพราะวันนี้เห็นได้ชัด เจนว่านายกฯ หญิงเก่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ทั้งการประชุม ครม. ประชุมส่วนงาน ราชการ รับฟังปัญหาของประชาชนและทุกภาคส่วน อีกทั้งนิตรยสารระดับโลกจำนวนมากยังยกย่องให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้นำสตรีที่มีความขยันขันแข็ง มีวิสัยทัศน์ สร้างความเชื่อมั่นในระดับโลก ระดับเอเชีย และระดับอาเซียน และนำพาประเทศไทยในช่วง 1 ปีมานี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน
          รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตนเป็นแฟนคลับ นิวยอร์ก ไทม์ที่เป็นนิตยสารระดับโลกมานาน เพราะเชื่อมั่นในแหล่งข้อมูลความเป็นจริงที่น่าเชื่อถือ แต่วันนี้เรียนตามตรงว่าหมดศรัทธาเพราะนักเขียนจากนิวยอร์กไทมส์ที่ประจำในประเทศไทยชื่อ นาย โธมัส ฟูลเลอร์ เป็นคนคนเดียวกันกับที่ยืนสัมภาษณ์เสธ.แดงขณะที่ถูกลอบสังหารนั้น ก็ยิ่งแปลกใจ ว่าเหตุใดนักข่าวคนนี้จึงไม่ค่อยขุดคุ้ยว่าใครเป็นผู้ลงมือ  หรืออยู่เบื้องหลังการลอบสังหารเสธ.แดง หรือผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งการสังหารประชาชนกลางเมืองหลวง และยิ่งแปลกใจไปอีกเมื่อมีคนเล่าให้ฟังว่า นายโธมันไปแฮงค์เอาต์กับพลพรรคประชาธิปัตย์ระดับแกนนำยามค่ำคืนอยู่บ่อยครั้ง จึงอยากถามนายโธมันว่าเขียนจากคำบอกเล่าของพลพรรคประชาธิปัตย์ หรือใช้หลัการทำข่าวอะไรจึงเขียนเช่นนั้น
          ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณท่านทราบเรื่องนี้ก็ได้แต่หัวเราะ เพราะท่านเป็นอดีตนายกฯ ที่ภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ของน้องสาว ที่เป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ และนายกฯ  ยิ่งลักษณ์ก็มีความเข้มแข็ง และมีภาวะผู้นำในการบริหารประเทศอย่างดีเยี่ยม สามารถผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่ได้หาเสียงไว้อย่างเป็นรูปธรรม และนอกจากเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีบุคลิกอ่อนโยน จึงสามารถทำงานกับทุกฝ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถเป็นผู้นำในภาวะที่ประเทศต้องก้าวเข้าสู่ความปรองดองและเข้าสู่ประชานิคมอาเซียน นอกจากนี้ จากการสำรวจโพลของประชาชน ก็ให้ความศรัทธาและสนับสนุนการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี และยิ่งทำงานนานขึ้นเท่าไหร่ ความโดดเด่นและภาวะผู้นำยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
          รองโฆษกพรรคเพื่อไทยแสดงความไม่พอใจที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำประเด็นประเทศไทยมีนายกฯ 2 คนไปขยาย โดยกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ควรทำตัวเป็นฤาษีแปลงสาร เก็บข่าวที่มีที่มาไม่ชัดเจน อ้างอิงไม่ได้ แต่เป็นประโยชน์ต่อพรรคพวกฝ่ายตน ก็นำมาขยี้ฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอนั้น ตนในฐานะติดตามข่าวและได้พูดคุยกับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าไม่เคยพูดเช่นนั้นเลย สื่อไปเขียนนำกันเอง เป็นการแปลงสารอย่างเกลียดที่สุดของคนระดับนี้ ซึ่งเมื่อตนฟังเช่นนี้ ก็ต้องยอมรับว่ากระบวนการฤาษีแปลงสารมีจริง และขอบอกว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน น่าจะค้านอย่างคลาสลิก มีศิลปะ ไม่ใช่ปะฉะดะ ขยี้ทุกเม็ดเก็บทุกอณู ว่ากันทุกเรื่องทั้งแต่ อบต. ยัน นรม.
          แดงป่วนบอลประเพณี
          นายจิรายุกล่าวว่า ในการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 1 ปีนี้นั้น รัฐบาลมีความพร้อมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่กระทรวงต่าง ๆ ได้สรุปผลงานให้กับรัฐบาลมาตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ติดปัญหาในสภาที่สมัยนี้เป็นการประชุมเพื่อออกกฎหมายอย่างเดียว แต่รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแถลงผ่านโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไปตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาแล้วและการจัดทำเอกสารแจกจ่ายให้กับประชาชนไปแล้วจำนวนมาก
          ทั้งนี้การแถลงผลงานของรัฐบาลต่อสภาในขณะนี้ มีข้อกฎหมายที่ไม่สามารถทำได้เลย เพราะเป็นสมัยสามัญนิติบัญญัติ แต่ท่านนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้สภาพิจารณาว่าจะสามาระบรรจุวาระเรื่องการแถลงผลงานรัฐบาลได้เมื่อใด ซึ่งวิปรัฐบาลก็อยู่ระหว่างหารือกับวิปฝ่ายค้าน ซึ่งหากเป็นไปได้ อาจจะเป็นหลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง ซึ่งหากในสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้ คงต้องใช้มาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญ ต้องขอมติจากการประชุมร่วม ส.ว.และ ส.ส.ให้เกินกึ่งหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ในสมัยสามัญนิติบัญญัติ ซึ่งก็ได้เห็นเรื่องจากประธานวิปฝ่ายค้านส่งเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณาร่วมกันในวันอังคารนี้แล้ว
          ส่วนการประเมินผลงานรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในรอบ 1 ปี ก็มีการสรุปในหลายรูปแบบทั้งการสอบถามความเห็นของประชาชน ความของประชาชน ความเห็นของ ส.ส.และผู้ทำงานการเมืองว่า ผลงานใดที่ได้รับการยอมรับ ผลงานใดที่ต้องปรับปรุง ซึ่งกว่าร้อยละ 90 เห็นว่ามีผลงานที่ทำไปได้จริงมากกว่าร้อยละ 70 ซึ่งในช่วงเวลาอีกกว่า 3 ปี จะต้องเร่งทำให้ได้สมบูรณ์ที่สุดและที่ผ่านมาถือว่าพรรคเพื่อไทยได้ทำนโยบายได้มากกว่าที่ตั้งใจเอาไว้
          ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งมีการจัดงานฟุตบอลประเพณี "ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ" ครั้งที่ 69 นั้น ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมด้วยนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข บุตรชายนายสมยศ พฤกษาเกษมสุขสวมชุดดำ ใส่หน้ากาก พร้อมชูป้าย "เสียดายสมยศไม่ได้ไปงานบอลฯ" เดินขนาบข้างขบวนพาเหรดงานบอลประเพณี และตั้งคำถามนักศึกษา "ทำไมไม่สนใจ" ทั้งนี้ สตาฟฟ์งารบอลประเพณีได้กั้นเชือกกันกลุ่มเสื้อแดงออกจากขบวนนักศึกษาทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น