วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

๓.๕ แสนล้าน "ของมัน" ก้อนแรก เปลว สีเงิน 26 February 2556



๓.๕ แสนล้าน "ของมัน" ก้อนแรก


"คอรัปชั่น" น่าจะเกิดคู่คำว่า "ข้าราชการ" และ "นักการเมือง" การขนเงินสดไปฟอกนอกประเทศ ไม่มีเส้นทางไหนปลอดการตรวจค้นเท่าเส้นทาง "พาหนะนักการเมือง" บ้านเราตอนนี้ ชื่อกระฉ่อนติดอันดับโลก ถ้าอยากรู้ นักการเมืองรายไหน "ส่อพฤติกรรม" ก็ไม่ยาก ลองไปตรวจสอบดู แก๊งไหนตั้งบริษัทไว้แถวๆ เกาะเคย์แมน หรือเกาะเวอร์จิน ไอส์แลนด์ ในทะเลแคริบเบียนนั่น...สันนิษฐานได้เลย "มีความน่าจะเป็น" สูงมาก!
    หลายวันก่อน Voice Of America เผยแพร่บทความเกี่ยวกับการคอรัปชั่น ตอนหนึ่งระบุว่า....... 
    ".........หากให้ประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องสูญเสียเงินไปกับการคอรัปชั่นเป็นจำนวนเท่าไหร่นั้น คงยากที่จะบอกเป็นตัวเลข ทว่าผลศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยล่าสุด สรุปว่า "มากกว่า ๒% ของผลผลิตภายในประเทศ" หรือประมาณ ๑๑,๐๐๐ ล้านเหรียญฯ (๓๓๐,๐๐๐ ล้านบาท) จะต้องสูญเสียให้กับการคอรัปชั่นในปีนี้"
    การสำรวจยังระบุด้วยว่า..."ภาคเอกชนยอมรับว่า พวกเขากำลังจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองมากขึ้น เพื่อให้ได้สัญญากับหน่วยงานรัฐ"
    ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าว........
    "นักวิเคราะห์หลายคนบอกตรงกัน การใช้จ่ายงบประมาณ ๓.๕ แสนล้านบาท ในแผนป้องกันน้ำท่วม และงบประมาณ ๒.๒ ล้านล้านบาท ในแผนโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวอีกเกือบ ๑ ล้านล้านบาท กำลังเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาทุจริตโกงกิน"
    ครับ...ผมก็ยกมาให้ดูกันขำๆ เท่านั้น เอออ...ตอนนี้ (๒๖ ก.พ.๖๕) นายกฯ หญิงของเราจากเกาหลีใต้ไปนอนอยู่ฮ่องกงแล้วกระมัง ฮ่องกงเป็น "ปากประตู" ทั้งเรื่องลับ-เรื่องแจ้ง รอไว้เธอกลับมาคงเจื้อยแจ้วในเรื่องที่เธออยากจะเจื้อยให้ฟังบ้างหรอก ทำนองว่า
    "เปล่าพบพี่ชายที่นั่น!"
    การไปทั้งเกาหลีใต้และฮ่องกงของเธอ นัยว่าทิ้งปริศนาลึกลับแห่งรอยเท้าให้ค้นหาน่าพิศวง โดยเฉพาะเกาหลีใต้ คงจำกันได้ หลังน้ำท่วมปี ๕๔ เธอไปมาครั้งหนึ่ง ด้วยเรื่องบริหารจัดการน้ำ ภายใต้งบ ๓.๕ แสนล้านนี่แหละ
    แต่ไม่ใช่รอยตีนแรกที่ไป หากแต่เป็นการไป "ตามรอยตีนทักษิณ" ที่ไปย่ำในฐานะเซลส์แมนเพื่อไทยไว้ล่วงหน้า น้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้น เป็นทุกข์คนไทย แต่ในสายตาเซลส์แมน "เป็นลาภใหญ่ของนักขาย" คงจำกันได้ ช่วงนั้นทักษิณจะบินเข้าจีนบ้าง เข้าญี่ปุ่นบ้าง เข้าเกาหลีบ้าง
    เป็นงานในหน้าที่ "ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ" น่ะ!
    เงิน ๓.๕ แสนล้าน เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและป้องกันอุทกภัย ๑ ในหลายบริษัทที่สนใจมีทั้ง ไทย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ แต่จะเห็นชัด บริษัท เค วอเตอร์ ของเกาหลีใต้ เป็นไข่ในหินเป็นพิเศษ ผ่านรอบเสนอกรอบแนวคิดในการออกแบบโครงการก่อสร้างไปสบายๆ    
    และติด ๑ ใน ๗ บริษัท ที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเป็นอันดับ ๑ ด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้ เค วอเตอร์ ติด ๑ ใน ๖ ที่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติรอบสุดท้าย ไปถึงขั้นตอนจัดทำข้อเสนอรายละเอียดด้านราคาและเทคนิค ที่จะชี้ขาดกันในเดือน เมย.นี้แล้ว
    โครงการที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) อันมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นประธานมี ๑๐ โมดูล วงเงิน ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ได้ยินนายปลอดประสพบอกว่า ภายใน ๒ สัปดาห์นี้ จะชี้แจง TOR ว่าด้วยการจัดซื้อ-จัดจ้างให้ทั้ง ๖ บริษัททราบ
    ทั้ง ๖ บริษัท มีไทย-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เท่านั้น ชาติฝรั่งมังค่าไม่ติดเลย และที่น่าสังเกต บริษัทจีนไม่ผ่านการคัดเลือกด้วยซ้ำ นายปลอดประสพบอกเหตุผลตรงนี้ว่า "เพราะบริษัทจีนไม่ได้การรับรองจากสถานทูตจีนในไทย"!
    ๖ บริษัทประกอบด้วย ๑.กลุ่มบริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น (K.Water) ๒.กลุ่มบริษัทกิจการค้าร่วมญี่ปุ่น-ไทย ๓.กลุ่มบริษัท ITD-POWORCHINAJV ๔.กลุ่มบริษัทค้าร่วมล็อกซเล่ย์ ๕.กลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าซัมมิท เอสยูที และ ๖.กลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์
    ที่ผมเท้าความซะยาว ก็เพื่อยกให้เห็นเป็นข้อสังเกตว่า ยิ่งลักษณ์ไปร่วมแสดงความยินดีกับการขึ้นสู่ตำแหน่งใหม่ของประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ นั่นก็ไม่มีปัญหา จะไปคารวะผู้ที่กำลังกลายเป็นอดีตประธานาธิบดี นั่นก็ไม่มีใครว่าอะไร
    แต่การยกเรื่อง K Water ที่ยังอยู่ในฐานะ "ผู้ร่วมแข่งขัน" ขึ้นประจี๋ประจ๋อ โทนข่าวที่ออก ทั้งลีลานายกฯ หญิงไทย ยากที่ใครจะไม่สรุปว่า...ไม่ถูกกาลเทศะ รังแต่จะนำไปสู่ข้อครหา K Water มีอะไรกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ 
    แบบนี้...สอบผ่านตั้งแต่ข้อสอบยังไม่ออกด้วยซ้ำมั้ง!?
    K Water เป็นรัฐวิสาหกิจเกาหลี ไม่ใช่บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญ ยื่นแข่งขันด้วยตัวเดียวโด่ๆ ไม่มีพันธมิตรผู้ชำนาญการแต่ละด้านร่วมด้วยเลย เรียกว่ามาแต่ตัวกับหัว ได้งานก็ต้องหาเอาทุกอย่างจากที่อื่นทั้งหมด หาความแน่นอนไม่ได้ว่า...มีแบรออยู่ที่ไหน? 
    ลงท้ายจะเหมือน "บริษัทเดียวก่อสร้างโรงพัก" สุดท้าย ทิ้งร้างโด่เด่ทั่วประเทศ จะอย่างนั้นหรือเปล่าก็...น่าคิด สมมติว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถึงตอนนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถลกตูดไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้
     แล้วจะไปเอาอะไรกับบริษัทตัวเปล่าเล่าเปลือย!?
    ก็ฝากให้จับตากันไว้ ที่มือเปล่านำโด่ง จะเป็นเพราะบริษัทเกาหลีมีเทคโนโลยีที่คนอื่นไม่มี เข้าตาทักษิณ-ยิ่งลักษณ์เป็นพิเศษก็เป็นได้ เพราะทั้งพี่-ทั้งน้องเทียวไป-เทียวมาบ่อยมาก และไม่ใช่แค่เรื่องน้ำ เรื่องข้าวก็มีตัวแทนเจ๊ๆ ไปคุยกัน แต่คุยกันได้แค่ไหนผมไม่ทราบ
    บริษัทจีนไม่มีทั้งนโยบายและทั้งเทคโนโลยีเหมือนเกาหลี เลยตกคุณสมบัติแต่แรก เทคโนโลยีในการออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการน้ำนั้น ได้ยินเขาเรียกกันว่า 
    เป็นเทคโนโลยีระบบ อันเดอร์ เดอะ เทเบิล อะไรๆ ประมาณนี้!?
    ที่น่าสนใจสุดๆ ตอนน้ำท่วม ไทยไปขอให้ไจกา (องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น) มาช่วยศึกษาและจัดทำร่างแผนการบริหารจัดการอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (๒๒ ก.พ.๕๖) ไจกาศึกษาแล้ว ก็เสนอ กบอ.ของนายปลอดประสพ
    น่าเสียดาย ข่าวดีๆ อย่างนี้ ไม่ถูกนำเผยแพร่มากนัก มีแต่ไทยพีบีเอสออกเป็นข่าวช่องเดียว ผมว่าสำคัญมาก แต่เป็นความสำคัญที่ "ไม่ถูกใจ" รัฐบาลเอามากๆ เพราะอะไร...ลองฟัง
    "แผนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่รัฐบาลไทยมีแผนจะสร้างถึง ๑๐ โครงการ มูลค่า ๓.๕ แสนล้านบาทนั้น อาจไม่จำเป็นต้องสร้างทุกโครงการ เพราะสามารถใช้มาตรการที่ไม่ใช่สิ่งก่อสร้างทดแทนได้ เช่น สนับสนุนให้ชุมชนในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาปรับตัวให้อยู่กับน้ำได้โดยไม่เดือดร้อนเมื่อน้ำท่วม
    รัฐบาลไทยควรบริหารจัดการน้ำในเขื่อนใหญ่ ๒ เขื่อนในลุ่มเจ้าพระยา แก้ปัญหาน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นหลัก ร่วมกับการปรับปรุงขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างทางระบายน้ำหรือฟลัดเวย์เพิ่มขึ้นบริเวณอยุธยา และขยายคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริทางฝั่งตะวันออกของ กทม. สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ โดยงบประมาณก่อสร้างจะลดลงได้ถึงร้อยละ ๗๐"
    ร้อยละ ๗๐ นั่นแค่แสนล้านก็เหลือแล้ว!
    แต่...นายปลอดประสพไม่ต้องการให้เหลือ ยังไงก็จะต้องสร้างครบทั้ง ๑๐ โมดูล ถลุงให้หมดทั้ง ๓.๕ แสนล้าน!
    ครับ...ก็คอยดูเขา โครงการ ๓.๕ แสนล้านนี้ รัฐบาลไม่รู้ซักอย่างว่า ต้องทำอะไร-แบบไหน-แค่ไหน-ตรงไหน รู้อยู่อย่างเดียวเรื่องเงิน กูต้องใช้ ๓.๕ แสนล้าน และในความไม่รู้อะไรทั้งสิ้นนั้น 
    ทะลึ่งจะออก TOR วงเงิน ๓.๕ แสนล้าน!?
    ผมบอกได้เลย ๓.๕ แสนล้าน วอดวายแน่ แต่การก่อสร้าง ๑๐ โมดูล ที่หมายมั่นปั้นยัดกันนั้น จะ "ทิ้งร้าง-ทิ้งคา" น้ำมาก็ท่วมทั้งโครงการ-ทั้งคนเหมือนเดิม 
    ก็จะทำได้ไง...สิ่งแวดล้อมก็ยังไม่ผ่าน ชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังไม่ตกลง จะเอาพื้นที่ที่ไหนไปมอบให้เขาตอนลงมือได้ล่ะ...?
    แต่ถึงตอนนั้น พวก อี-อ้าย มันสบายไปแล้ว!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น