วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นรข.เข้มลักลอบดูดทรายริมแม่น้ำโขง เมื่อ 26 ก.พ.56



นรข.เข้มลักลอบดูดทรายริมแม่น้ำโขง
 

นรข.นครพนมเข้มลักลอบดูดหินทรายลำน้ำโขง สั่งอายัดทรายตรวจสอบการขออนุญาต มูลค่ากว่า 100 ล้าน ระบุส่งผลกระทบอาณาเขตชายแดน


วันนี้ 26 ก.พ.56) นาวาเอก สุรศักดิ์  สุวรรณเกษา ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง  เขตนครพนมเปิดเผยว่าได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบปัญหาการลักลอบขุดทรายกลางแม่น้ำโขง ในเขต อ.ธาตุพนม จ.นครพนมและในหลายพื้นที่ตามแนวลำน้ำโขง เนื่องจากในช่วงหน้าแล้งน้ำโขงลดเกิดหาดทรายทำให้ผู้ประกอบการเอกชน เข้าไปขุดทรายกลางแม่น้ำโขง โดยไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาจำหน่าย  และทำการก่อสร้างโครงการทำเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง

เบื้องต้นได้มีเข้าไปเก็บหลักฐานการกระทำผิด และทำการการอายัดกองทรายที่ขุดมาจากแม่น้ำโขง รวมกว่า 3 แสนคิว 
มูลค่าเป็นเงินกว่า 100  ล้านบาทในเขตอำเภอธาตุพนม  ไว้ตรวจสอบ  ส่วนเครื่องมือในการขุดไม่ไม่สามารถตรวจยึดได้ เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายหนีก่อนหน้านี้  พร้อมประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมาย   ซึ่งหากไม่มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย จะร่วมกับตำรวจทำการดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา กล่าวอีกว่าปัจจุบันในพื้นที่นครพนม กำลังประสบปัญหาเรื่องการลักลอบขุดทรายตามลำแม่น้ำโขง
ซึ่งผู้ประกอบการฉวยโอกาสช่วงน้ำโขงแห้ง นำรถแบ็คโคร ลงไปขุดขึ้นมาขาย เป็นรายได้มหาศาล แต่ไม่มีการรับอนุญาตตามกฎหมาย  เพราะการขุดทรายบริเวณในเขตแม่น้ำโขงปกติต้องมีการขออนุญาตจากหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง และจะต้องดำเนินการตามแนวเขตที่ให้อนุญาต ที่สำคัญปัญหาที่ตามมาคือ เรื่องของผลกระทบของการสูญเสียแนวเขตระหว่างชายแดน เนื่องจากปัจจุบันในการแบ่งเขตชายแดนไทยลาว ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ จะต้องดูจากร่องน้ำลึกเป็นหลัก   แต่เมื่อฝั่งไทยมีการขุดทรายปริมาณมาก  จะส่งผลให้ร่องน้ำลึกตกมาใกล้ฝั่งไทย  ทำให้มีการเสียดินแดน เกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ที่เชื่อมกับชายแดนไทย

อย่างไรก็ตามจะได้ประสานกับตำรวจ และกรมเจ้าท่า สอบสวนเรียกผู้กระทำผิดมาตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งในการตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ นรข.ตาม พรบ.เดินเรือน่านน้ำไทย 2546  ที่สามารถทำหน้าที่ในการตรวจสอบป้องกัน จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายตลอดแนวน่านน้ำไทย  ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ป้องกันผู้เห็นประโยชน์ส่วนตนมาแสวงผลประโยชน์จากการกระทำผิดกฎหมาย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น