วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รับ “ประยุทธ์” เสียใจเหตุโจรใต้ลอบบึ้มทหาร วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 15:45 น.




รับ “ประยุทธ์” เสียใจเหตุโจรใต้ลอบบึ้มทหาร

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 15:45 น.
วันนี้( 11 ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิดใน อ.รามัน จ.ยะลา จนทำให้มีทหารเสียชีวิต 5 นาย ว่าล่าสุดสามารถจับผู้ต้องสงสัยและนำไปสอบสวน ซึ่งเขาก็ยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการอำนวยความสะดวก และโปรยตะปูเรือใบ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะในรอบเดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้น 3 เหตุการณ์ โดยอยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งต้องขอประณามการกระทำดังกล่าวว่ามีความโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ผบ.ทบ.ก็จะรู้สึกเสียใจและไม่สบายใจ พร้อมทั้งจะกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการต่างๆให้เข้มข้นขึ้น โดยให้ผู้บังคับบัญชาการตามลำดับชั้นกวดขันให้กำลังพลมีความตื่นตัว รวมถึงให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกำลังจะทิ้งเป้าหมายจากประชาชนมาเป็นเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังตัวและมีความพร้อมรับสถานการณ์อยู่เสมอ รวมถึงการดูแลความปลอดภัยของตนเองให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์
 เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้มีการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ที่จะให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ามีเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วย เพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ การทำพิธีทางศาสนา อย่างไรก็ตามทางกองทัพได้คำนึงถึงจุดนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้การประกาศเคอร์ฟิวถือเป็นมาตรการหนึ่งที่มีอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าประกาศใช้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม
ขณะที่พล.ท.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกอ.รมน. เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานทีเกี่ยวข้องของกอ.รมน.ในส่วนของกองทัพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ในวันที่ 15 ก.พ. ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. สำหรับเรื่องรายละเอียดของการเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องการเตรียมข้อมูล ผลดีและผลเสียของการประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ด้านพล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ได้รุนแรง แต่เมื่อมีการใช้ระเบิดประกอบรถยนต์จึงทำให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่ได้มากมาย เพียงแต่หาช่องว่างของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ และปฏิบัติการระเบิดโดยประกอบเข้ากับรถยนต์เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ไปรับชาวบ้านทั้งชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิมเข้ามาทำงานในฟาร์มตัวอย่าง เพื่อพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ระมัดระวังตัวจึงทำให้เกิดปัญหา ส่วนเหตุการณ์ที่อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้แจ้งกับ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าว่า จะไม่ขอการคุ้มกัน เนื่องจากชาวบ้านดูแลกันเองได้ ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแอบไปดำเนินการ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ได้จับกุมหัวหน้าใหญ่ และมีการวิสามัญบ้างจึงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มาวางระเบิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ถึงขั้นมายึดเมืองหรือมายึดหมู่บ้าน
 “ผบ.ทบ.กำชับให้ดูแลและระมัดระวังในสิ่งที่จะเป็นปัญหา หรือทำให้เกิดความสูญเสียที่ต้องมีความเข้มงวดกัน ทั้งนี้ผมได้ติดต่อกับผบ.ทบ.ขณะที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรายงานสถานการณ์ตลอดเวลา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิวส์หรือไม่นั้น ผมยังไม่อยากออกความเห็น เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในวันที่ 15 ก.พ.นี้ก่อน เรื่องนี้อยู่ที่รัฐบาลว่า เมื่อออกนโยบายมาแล้วจะทำให้เกิดความคุกรุ่นหรือไม่อย่างไรทางรัฐบาลต้องพิจารณาเรื่องนี้ แต่เมื่อสั่งมาเราต้องปฏิบัติอยู่แล้ว รวมถึงเราต้องอุดช่องว่างที่มีปัญหา ทั้งนี้รัฐบาลคงชั่งใจอยู่ ซึ่งการประกาศเคอร์ฟิวส์ต้องถามความคิดเห็นจากหลายฝ่าย”แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น