ไปๆ มาๆ ไม่ว่า "แก๊งไหน...สีอะไร" หัวหน้าพากันตายหมดคอกวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:10:39 น

ไปๆ มาๆ ไม่ว่า "แก๊งไหน...สีอะไร" หัวหน้าพากันตายหมดคอก วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:10:39 น1."พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" แม้เครือข่ายจะประสบชัยชนะถล่มทลาย "ลูกข่าย" ยึดเมืองมาเชยชมได้อีกระลอก แต่ตัวเองยังต้องสัญจรไพร พลัดที่นา คาที่อยู่ ไม่รู้ทศวรรษไหน จะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน 2."สนธิลิ้ม" คู่ปรับ ถูกฟ้องร้องคดีความเรียงร้อยห้อยเป็นตับๆ และรอลงอาญาเป็นตั้งๆ นับไม่ถ้วน 3."วีระกานต์ มุสิกพงศ์-จตุพร พรหมพันธุ์" อนาคตยังลูกผีลูกคน

......4.ล่าสุดคิวของ "ขั้วเทพ" เมื่อทั้ง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ" 2 ขาใหญ่ค่ายประชาธิปัตย์ เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าให้ปากคำกับลูกน้องเก่า "ดีเอสไอ" ในคดีมีผู้เสียชีวิต 98 ศพ จากเหตุการณ์ชุมนุม ยกแรก ขึ้นให้การกับพนักงานสอบสวน ดวลเดือดกันมาราธอน คนละ 6-7 ชั่วโมง ผลจะออกหัวหรือก้อย ไม่มีใครทราบ รู้แต่ว่ากว่าจะ "ปิดข่าว" ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกันอีกยาวนาน

......ทั้งหลายทั้งปวง เป็นไปตามกฎแห่งกรรม..."กรรม" คือการกระทำที่ส่งผลในเวลาต่อมา และหากพัฒนาเข้าสู่ "วิบากกรรม" หรือผลแห่งกรรม มีระยะต้องชดใช้ 3 ขยักด้วยกัน คือ 1."ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม" ในทันทีทันควัน 2."อุปปัชชเวทนียกรรม" ชดใช้ในเวลาต่อมา และ 3."อปราปริยเวทนียกรรม" คือ ในเวลาต่อไปอีกไม่สิ้นสุด

......ที่ยกเรื่อง "กรรม" มาบรรยายสรรพคุณ ไม่ได้จิตอกุศล จงใจ "แช่ง" หรือ "เชียร์" ใคร-สีไหน แต่เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจถึงมนุษย์ "ขี้เหม็น" ทั้งหลายแหล่ ว่าการเกิดเป็นสัตว์โลก อย่าได้มีเวรเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย..."ความอยาก (ตัณหา)" คือต้นเหตุของการแสวงหาอำนาจ และนำไปสู่การทะเลาะวิวาท "ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ" คือสัจธรรม "อาเมน" เรื่องของ "แก๊งไหนหัวหน้าตายหมด" ด้วยประการฉะนี้แล

......ตามไปดูชมศึกโยกย้าย ที่ปรากฏว่า กระทรวงกลาโหม ดุเดือดเลือดท่วมจอ นำร่องก่อนใครเพื่อน "บิ๊กโอ๋-พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต" รมว.กลาโหม กดเปรี้ยง เด้ง "พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์" พ้นวงโคจร และลดแลกแจกแถมราวกับมหกรรมซื้อเหล้าแถมเบียร์ ลงดาบเชือด "พล.อ.ชาตรี ทัตติ-พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์" ไปช่วยราชการ แบบไร้ไมตรี

......งานนี้นัยว่า เป็นเรื่องของ "กลอนพาไป" แท้ๆ โดย "บิ๊กเสถียร" รู้เรื่องโผโยกย้ายว่ามี "เสือข้ามห้วย" และนำไปเมาธ์กับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ใกล้ชิด ประเด็นเป็นหัวใหญ่ เรื่องทำหนังสือเข้าพบ "นายกฯปู" และนำเรื่องไปฟ้อง "ป๋า" เลยถูกหยิบมาพาดหัวกันตัวเป้ง และกลายมาเป็น "ดาบ" เฉือนตัวเองในท้ายที่สุด

......ทั้งๆ ที่ว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ระนาบปลัดกระทรวง 8 ตำแหน่ง ที่ทั้ง "นายกฯปู" และ "ว่าการ" ปวดหัวหนึบหนับมากสุด เป็น "ปลัดสาธารณสุข" เพราะตัวชิง ลำดับอาวุโสยังไม่มีใครโดดเด่น "ถึงพริกถึงขิง" เลย ช่องว่างกับผู้เกษียณห่างกันหลายช่วงตัว จึงต้องเรียกคุยเป็นรายบุคคล เพื่อวัดวิสัยทัศน์