วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

เจาะใจ"อดุลย์ แสงสิงแก้ว" วันขึ้นแท่น"ผบ.ตร."...ผมจะไม่แก้ตัวว่าผมเป็นแดงเป็นเหลือง เมื่อ 30 ก.ย.55


เจาะใจ"อดุลย์ แสงสิงแก้ว" วันขึ้นแท่น"ผบ.ตร."...ผมจะไม่แก้ตัวว่าผมเป็นแดงเป็นเหลือง



 1 ตุลาคม 2555 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว หรือ บิ๊กอู๋ จะนั่งในตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)"

 โดย "มติชน" สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.อ.อดุลย์ ถึงแนวคิด ทิศทาง และมุมมอง บนเก้าอี้ "ผบ.ตร.คนที่ 9" มีไฮไลต์น่าสนใจ ดังนี้ 

- เมื่อเป็น ผบ.ตร. มีทิศทางการขับเคลื่อนอย่างไร
ผมเน้นผู้นำ ถ้าทำไม่ได้ ผมไม่โทษคนอื่นเลย ถ้าไม่ดี เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ผมต้องรับผิดชอบ ผมเป็นคนแรกที่หนีไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามันดี แต่มีกองบัญชาการที่อ่อน ปล่อยปละละเลยลูกน้อง ไม่เคยพัฒนา ข้อมูลไม่เคยปรับ ประชาชนร้องเรียน อาชญากรรมเต็มบ้านเต็มเมือง ตำรวจไร้วินัย ผบช.ภ.ต้องรับผิดชอบ ต้องดูเหตุผลประกอบ นี่คือความสำนึกของการขับเคลื่อน 

แต่ถ้ามีจังหวัดไหนไม่ดี แย่จริงๆ ผบก.ภ.จว.ต้องรับผิดชอบ ต่อไปสุดท้ายคือโรงพัก หาก ผบช.ทุกระดับ

เต็มที่ ผมเต็มที่ ผบช.เต็มที่ ผบก.ภ.จว.เต็มที่ หัวหน้าสถานีเต็มที่ ผมคิดว่าปัญหาน้อยลงเยอะ มีปัญหาแน่นอน แต่จะน้อยลง ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา รับผิด รับชอบ และอยู่เคียงข้างลูกน้องเท่านั้นเอง ผมว่ามันไม่ง่ายนะ แต่มันจะเห็นผลในการบริหารงานไม่มีอะไรสมบูรณ์ ผมโตจากภาวะขาดแคลน เป็นหัวหน้าสถานีในต่างจังหวัด ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ แต่เป็นหน้าที่ของผู้บริหาร เพราะเขาให้เรามาแก้ปัญหา"

- ช่วงเดือนกันยายนที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. (คนที่ 8) เริ่มวางมือ ให้ท่านทดลองงานมองเห็นอะไรบ้าง 

ผมว่ามันเป็นงานยากมากนะ ใหญ่มาก กำลังพล 2 แสนนาย มีภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะมาก ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.

เพรียวพันธ์ ทราบปัญหาว่ามีหลายอย่าง ซึ่งน้อมรับ สำหรับผมทำเต็มที่ เต็มความสามารถ อุทิศเวลาที่เหลือให้ตรงนี้ แต่ไม่ง่ายเลย เพราะเป็นหน่วยที่ใหญ่และสัมผัสประชาชน มีโรงพัก 1,400 สถานี ประชากร 60 กว่าล้านคน ดูแลเรื่องความปลอดภัยกฎหมาย บริการ มันกระทบตลอดเวลา ต้องวางระบบให้ลูกน้องสามารถเดินได้ ถ้าผู้นำ 4 ระดับทุ่มเทเต็มที่ยังไงก็ดีขึ้นอยู่แล้ว แต่ไม่มีอะไรสมบูรณ์นะในความเป็นจริงไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยถ้าผู้นำดี การขับเคลื่อนตามแผนจะไปได้

- สังคมคาดหวังว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ดีขึ้น กดดันหรือไม่

ตัวผมไม่กดดันนะ ผมพยายามเต็มที่ทุกเรื่อง แต่การแก้ปัญหามีหลายมิติ ในบทบาทของตำรวจผมทุ่มเทเต็มที่ เรื่องนี้วาระแห่งชาติ เหมือนเรื่องยาเสพติด เรื่องอาเซียนผมให้ความสำคัญมาก

ผมอยู่ในสถานการณ์หนักมาตลอดชีวิต ตัวเราต้องทุ่มเททั้งสติปัญญาและความสามารถ แต่ไม่มีอะไรสมบูรณ์หรอก ขึ้นอยู่กับว่าเราทุ่มเทอย่างไรบ้าง และลงมือทำจริงๆ

- เป็น ผบ.ตร.ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ขัดแย้ง อาจถูกครหาเป็นคนของพรรคนี้ การเมืองซีกนี้ 
ต้องไปย้อนดูวิสัยทัศน์ตำรวจต้องเป็นมืออาชีพในการดูแลความสงบเรียบร้อยสังคม

ชุมชน เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความเป็นธรรม และเป็นเครื่องมือรัฐบาลในการแก้ปัญหาตามกฎหมาย ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องยืนให้ได้ อุดมการณ์และภารกิจที่ปฏิบัติ ต้องยึดกฎหมาย อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ

ตำรวจต้องเป็นผู้รักษากฎหมาย เพื่อให้บ้านเมืองอยู่ได้ ให้ความเป็นธรรม นี่คือสิ่งที่ผมยึดถือตลอด ไปภาคใต้ ที่ไหนๆ ผมยึดถือตลอด ตำรวจเป็นกลไกเครื่องมือของรัฐบาลอยู่แล้วในการดูแลความเรียบร้อย 

- ตำแหน่ง ผบ.ตร. อ่อนไหว แม้แต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เครือญาติรัฐบาลยังมีข่าวลือจะเด้ง กังวลหรือไม่

ผมไม่กังวลครับ ผมทำหน้าที่ เวลาเท่าไหร่ เราไม่รู้ แต่การตระหนักในหน้าที่ ทำเต็มความสามารถ ในเวลาที่เหลืออยู่ให้ได้ อย่าไปคาดหวังเลยครับว่าจะอยู่เท่าไหร่ บทเรียนที่มีอยู่บอกว่าทุกอย่างไม่แน่นอน แต่สิ่งที่เราต้องยึดคือหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาในการดูแลภารกิจของเรา 

เราคาดการณ์เวลาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ผมจะเกษียณอีก 2 ปี มันอยู่ที่ปัจจัยอื่นอีกเยอะ เป็นผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ เราทำได้ไหม มีปัญหาอุปสรรคอะไรไหม มันไม่แน่นอนหรอกครับ แต่เราต้องเดินไปด้วยความมั่นคง หนักแน่น และยึดถือภารกิจเรื่องของประชาชน และนโยบายที่เราประกาศเอาไว้เป็นหลัก

- ความสัมพันธ์กับ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ หลังเหตุการณ์วอล์กเอาต์ในการแต่งตั้ง เป็นอย่างไร

ไม่มีปัญหา ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นทั้งรุ่นพี่ ผู้บังคับบัญชา ครูอาจารย์ ไม่มีปัญหา ท่านให้ข้อสังเกต ท่านสอนเรา อย่างท่านอชิรวิทย์ (พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช) ท่านดุว่าเป็นเรื่องปกติ เราเป็นน้องต้องฟังอันไหน

ทำได้ก็ทำอันไหนทำไม่ได้ก็ต้องบอกว่าเพราะอะไร มีเหตุผลด้วยกัน คิดว่าเราโชคดีที่มีพี่ มีครูเฆี่ยนตีเรา เหมือนอาจารย์สอนศิษย์ ทำข้อสอบไม่ผ่านก็ต้องไปขอคะแนนเพิ่ม ถ้าเราสอบตก ก็ต้องไปขอซ่อม

- หลายปีมานี้ ตร.มีปัญหาเรื่องความสามัคคีในองค์กร 

อันนี้ผมให้ความสำคัญ ส่วนตัวผมเคารพ ให้เกียรติอดีตผู้บังคับบัญชาทุกคน นี่คือผมเลยนะ ต้องกตัญญูรู้คุณ ทุกคนคือพี่ ผมต้องดูแล ผมจะสานต่อนโยบายสำคัญที่ดีๆ ในส่วนพี่เพื่อนร่วมงานทุกคนผมจะฟังเยอะๆ และร่วมตัดสินใจ ผิดพลาดต้องรับผิดชอบ มองคนในแง่บวกก่อน ผมจะไม่มองใครฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ไม่มีนะ เมื่อเป็น ผบ.ตร. แล้วผมจะฟังเยอะๆ และให้พี่เพื่อนน้องได้ทำงาน สร้างบรรยากาศที่สนุกกับมัน ทุกปัญหาคือความท้าทาย และสนุกกับการแก้ปัญหา ถ้าผิดพลาดผมรับผิดชอบไม่โยนให้ใคร 

- การแต่งตั้ง ทำอย่างไรไม่ให้ถูกครหาเล่นพรรคเล่นพวก

จริงๆ ตำรวจหน่วยใหญ่มาก 2 แสนนาย ผมว่าไม่ง่ายเลย อย่าง ป.ป.ส. 1,200 คนการบริหารงานบุคคลง่ายมาก ย้ายทีไม่ยุ่งยาก แต่ตำรวจวัฒนธรรมอีกแบบ การเคลื่อนของคนมีมาก การทำให้ถูกใจคนยากมาก แต่เราต้องยึดหลักอะไรที่ผ่อนได้ อะไรที่ต้องใช้ระเบียบ ผมจะพยายามทำแล้วกัน ไม่ง่ายเลย ที่ผ่านมาผมตัดสินใจได้ ยึดความถูกต้องเป็นธรรมได้ แต่ให้ทุกคนพอใจไม่ได้หรอก 

ในการแต่งตั้งโยกย้าย เราจะตัดสินใจด้วยหลักของความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอคติ พวกหรือฝ่าย ไม่มีล้างบาง ตัวผมเองจะพยายามทำ ส่วนตัวผมที่แต่งตั้งนายพลมา 2 ครั้ง ในส่วนที่ผมตัดสินใจได้ ผมว่าฟีดแบ๊กกลับมาค่อนข้างโอเคนะ บางคนไม่ต้องวิ่งเลยได้ตำแหน่งเฉยเลย เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องเลย

- การแต่งตั้งที่ผ่านมาถูกมองว่ารุ่น นรต. 29 รุ่นเดียวกับท่าน เข้าวินเยอะมาก

ก็รุ่น 29 เป็นรุ่นที่ใกล้เกษียณแล้วนะ รุ่น 29 ที่ผ่านมา อาจห่างผู้บังคับบัญชานิดนึง ไม่ได้รับการดูแลมานานแล้ว อาจเป็นเพื่อนๆ คนดีๆ ที่ใกล้เกษียณ เมื่อเรามีโอกาสทำ ก็ขอน้องๆ ก่อนทยอยกันไป ให้มันมีสีสันหน่อย อันนี้ทุกคนก็ดีหมด หลายๆ คนถูกหยิบมา บางคนใกล้เกษียณ ก็ดูแลเพื่อนบ้าง บางส่วน แต่ไม่ได้ไปกดดันใครเป็นตามแบบสังคมไทย

- มีเสียงวิจารณ์ว่าตำรวจใต้เป็นลูกรัก ผบ.ตร.
จริงๆ แล้วมาอยู่จุดนี้ ต้องมองภาพรวม เพียงแต่ภาคใต้ เป็นหน่วยที่ถูกมองข้ามค่อนข้างเยอะมาก ทำให้แรงทำงาน

มันน้อย ก็คือมีโอกาสต้องตอบแทนเขาก่อน แต่ต่อไปถ้าเป็นคนทำงานดีจริงๆ ของแบบนี้มันต้องเช็กจริงๆ ผู้บังคับบัญชาคัดมา ตามสายได้จะดีมาก 

- มีเสียงครหา การแต่งตั้งตำรวจ เป็นคำสั่งคนนอกจากต่างประเทศ 
การแต่งตั้งตำรวจที่ผ่านมา มีระบบการคัดกรองตามระเบียบกฎหมายนะ ส่วนหนึ่งก็ต้องหารือกับนโยบายในจุดสำคัญ ในภาพใหญ่ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้วตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนของต่างประเทศไม่มี

- เป็น ผบ.ตร.ยุคนี้ ถูกครหา ผบ.ตร.สีแดง

พิสูจน์ผมด้วยภารกิจนะ หน้าที่ผมเดินมาอย่างนี้ ภารกิจผมคือเป็นตำรวจอาชีพ ดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินประชาชน ด้วยความซื่อสัตย์ เป็นธรรม คำครหา ไม่ต้องสนใจมันอยู่ที่ตัวเราผมทำงานได้กับทุกรัฐบาลอะไรที่หนักๆ ผมรับผิดชอบมาแล้ว ทุกยุคผมถูกส่งไปแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นผมจะไม่แก้ตัวว่าผมเป็นแดงเป็นเหลือง มันอยู่ที่เราปฏิบัติมาในอดีตและสิ่งที่เราจะทำในอนาคต

- ตำรวจต้องเตรียมพร้อมกับ ผบ.ตร.คนใหม่อย่างไร

ต้องยึดชาวบ้านเป็นศูนย์กลาง ทำอย่างไรให้เขาเชื่อถือศรัทธา เห็นตำรวจแล้วเขาเชื่อมั่นอบอุ่น ต้องทำดีทุกวัน ต้องได้บวก 1 ทุกวัน ถ้าชาวบ้านไม่รัก ไม่ศรัทธา ไม่เชื่อถือ เขาเกลียดเรา เราอยู่ไม่ได้ ต้องตระหนักในหน้าที่ ดูแล บริการ ช่วยเหลือทุกข์สุขของประชาชน

- จะบอกประชาชนอย่างไรให้มั่นใจใน ผบ.ตร.คนนี้

ผมขออุทิศตนทั้งหมด ในการทำภารกิจนี้ให้ดีที่สุด เวลาจะพิสูจน์ผมจะไม่คุยอะไรมาก แต่ผมจะทำเต็มที่ทำดีให้ที่สุดทุ่มเท ทุกเวลาจะติดตามสถานการณ์ที่ ศปก.ตร.เป็นหลัก กระตุ้นตำรวจลงพื้นที่ให้มากเพื่อขับเคลื่อน การเป็น ผบ.ตร.ผมทำเต็มที่ จะหมดเวลาก็หมดไป ไม่พะวงมันมีเงื่อนไขหลายอย่าง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น