วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

บันทึกหน้า 4...ท.ศักดิ์ เมื่อ 27 ก.ย.55



พิโธ่...ช่างเป็น “สุภาพบุรุษ” ซะเหลือเกินสำหรับ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ให้ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ทำงานถนัดถนี่ ในการยื่นเรื่องให้ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)” ตีความคุณสมบัติตัวเอง แหม! ถ้ามีสปิริตแบบลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริงก็น่าจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากเก้าอี้ หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงให้มันหมดเรื่องหมดราวก็จบไปนานแล้ว...๐ ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า ทำไม “ยงยุทธ” จึงได้ทู่ซี้ เกาะเก้าอี้เหนียวแน่น ทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่พิสมัยในงานที่ทำหนักหนา แต่ที่ต้องยึดติดนั้นก็ มีทั้งเรื่อง “วิทยาศาสตร์” และ “ไสยศาสตร์” โดยในทางโหรและดวงนั้นก็ชัดเจนว่าเมื่อคนตระกูลชินวัตรได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ต้องมี “คนผมขาว” ประกบติดเพื่อเสริมบุญบารมี ตลอดเวลา เห็นได้ตั้งแต่ยุคพี่ชาย “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ต้องมี “ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์” ตามติดข้างกาย ส่วนยุคน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็ต้องมีคุณพี่ยงยุทธเป็น “ปาท่องโก๋” ตามติดด้วย...๐ ส่วนเหตุผลทางวิทยาศาสตร์นั้นก็ชัดแจ้ง เพราะการยืนยันนั่งยัน อ้างบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกายุค “อมร จันทรสมบูรณ์” รวมทั้งยุค “อักขราทร จุฬารัตน” เพื่อให้กฎหมายล้างมลทินครอบคลุมนั้น เพื่อต่อยอดไปถึงกรณีคำสั่ง “ยงยุทธ” เมื่อครารักษาราชการปลัดกระทรวงมหาดไทยใน การสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยังคงผลต่อไปแบบเรียบร้องโรงเรียนอัลไพน์ นั่นเอง เพราะเมื่อ “พ้นมลทิน” แล้ว ก็เท่ากับว่าคำสั่งที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาด้วย เรียกว่า “ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว” ตามสูตรเป๊ะ...๐ ที่สำคัญยังจะเป็น ข้อต่อสู้ในคดีอาญาที่ “จุลสิงห์ วสันตสิงห์” อัยการสูงสุด ได้สั่งตั้งคณะทำงานในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย และที่ลืมไม่ได้อีกต่างหาก เมื่อเรื่องการฮุบที่ดิน “ยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา” ได้เสร็จสมแล้ว ก็จะทำให้การโยงใยไปถึง “นายใหญ่” หมดข้อครหา ไปเปลาะหนึ่งด้วย เหมือนอย่างที่ “เสนาะ เทียนทอง” ได้หลุดบ่วงกรรมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะหมดอายุความ...๐ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อนี่ขนาดเรื่องของ “สนามกอล์ฟอัลไพน์” ที่เกี่ยวพันกับ “ยงยุทธ” แต่ หากสืบสาวราวเรื่องไปแล้วก็พบว่าต้นตอก็มาจาก “คนหน้าเหลี่ยม” อีกแล้ว เรียกว่าความวิบัติฉิบหายของชาติต่างๆ นานา ไม่มากก็น้อย ต้องมี “สัมภเวสี” คนนี้ข้องเกี่ยวทุกคราไป นี่ล่ะมั้งที่เป็นต้นเหตุให้ “คณิต ณ นคร” ประธาน คอป.ต้องเสนอให้วางมือ...๐ ยังมีปัญหาตามอีกพะเรอเกวียนอีกในกรณี “ยงยุทธ” หากยังนั่งเก้าอี้ต่อ โดยเฉพาะใน การเป็นประธาน  ปคอป.ที่จะต้องนำผลของ คอป.ไปแปลงเป็นรูปธรรม  เพราะแค่เรื่อง “เก้าอี้” เจ้าตัวยังตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเรื่องที่เกี่ยวกับพรรคพวกตัวเองได้ด้วยใครจะเชื่อได้เล่าว่าจะดำเนินการตามที่ คอป.ได้รายงานอย่างแท้จริง หรือป่านนี้รายงาน คอป.ถูกเก็บใส่ไว้ในลิ้นชักแล้ว...๐ ขำกลิ้งกับคำชี้แจงของ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) “ที่มีวันนี้เพราะพี่ให้” เข้าชี้แจงต่อ กมธ.ว่า ในการตบเท้าของนายตำรวจนับร้อยนายที่ไปพรรคประชาธิปัตย์นั้น เพราะต้องการไปชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ได้ไปกดดันอะไรเลย ไม่ใช่ม็อบตำรวจ โธ่! อมพระวัดไหนมาพูดกันเล่านี่ เพราะมันพิลึกพิลั่นตั้งแต่ตั้งธงจะไปชี้แจงกับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เพราะ “หนุ่มมาร์ค” นั้นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งข้อสังเกตรูปบิ๊กแจ๊สในห้องทำงานเลย...๐ เช่นเดียวกับ กรณี “ม็อบเหลือง-แดง” ที่ปะทะกันนั่นเอง ที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผู้บัญชาการทหารบก ถึงขั้นออกมาอบรมว่า “ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองเสียหายพินาศแบบประเทศอื่น ขอให้ช่วยกันเบาๆ ลงหน่อย” นั้น แม้เป็นเรื่องที่ดี แต่หากพินิจพิเคราะห์ทั้งกรณี “คำรณวิทย์” หรือการให้ท้ายของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ตามราวี “อภิสิทธิ์” อยู่เนืองนิตย์ด้วยแล้ว ก็เชื่อว่าคำเตือนของ “บิ๊กตู่” คงเป็นได้แค่ลมผ่านหูเท่านั้น...๐ ยิ่งล่าสุด "โอ๊ค พานทองแท้" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหัวหน้าแก๊งแดงโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่พร้อมกลับมาประจำการอารักขา "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" หากฝ่ายค้านใช้วิธีที่ไม่สร้างสรรค์หรือตามราวี” ก็ยิ่งทำให้คำเตือนของ “พล.อ.ประยุทธ์” จางหายหนักเข้าไปอีก แล้ว เชื่อว่าครั้งหน้าจะไม่แค่การตบตีแน่นอน แต่อาจถึงขั้นใช้อาวุธประหัตประหารกันก็ได้ ใครจะไปรู้ในเมื่อ "ฟ้าสีทองผ่องอำไพ แดงเขาใหญ่ทั่วแผ่นดิน” จริงไหม...๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น