วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

ตกเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกหลังสื่อนอกพากันประโคมข่าว



ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ตกเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกหลังสื่อนอกพากันประโคมข่าว "นารีปู" นายกรัฐมนตรีสตรีคนแรกของประเทศไทย อาสาใช้ความเป็นผู้หญิงเข้าไปหย่าศึกความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ระหว่างประเทศจีนกับญี่ปุ่น "While in no way underestimating the scope of these challenges or sensitivity of these issues, perhaps I can bring a bit of a “woman’s touch” to addressing these conflicts and focus more on what we can do together, rather than on what divides us." ต้องยอมรับว่าเป็นถ้อยคำอันอาจหาญของเธอ เพราะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการบนโพเดียม ณ สำนักงานใหญ่ของ Asia Society ท่ามกลางสถานการณ์ของทั้งสองประเทศที่เขม็งเกลียวหนักขึ้นทุกวัน แม้แต่ในเวทีประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติยังทำอะไรไม่ได้ ผู้นำหลายประเทศสงบปากสงบคำใบ้รับประทานไปชั่วคราว ยิ่งได้ยินนายกฯ ญี่ปุ่น "โยชิฮิโกะ โนดะ" ประกาศต่อที่ประชุมยูเอ็นในเรื่องนี้ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวถึงกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายในเกาะเซ็งกากุหรือเกาะเตียวหยู พร้อมยืนกรานปฏิเสธประนีประนอมกับจีน งานนี้ไม่รู้ว่าทีมงานหรือคนทางไกลเขียนสคริปต์ให้ คงกะหวังโชว์ภาวะผู้นำอวดชาวโลกเต็มที่ สุดท้ายกลายเป็นขายขี้หน้าทะเล่อทะล่าไม่รู้จักกาลเทศะ คงต้องบอกให้น้องปูเก็บ "มายาหญิง" มาลองใช้แก้ปัญหาเขาพระวิหารระหว่างไทยกับเขมรเป็นตัวอย่างก่อนดีมั้ย เมื่อไหร่เพื่อนซี้พี่แม้ว "ฮุน เซน" เซย์เยส ค่อยไปจุ้นกับพี่เบิ้มยักษ์ใหญ่ของเอเชีย
    ๐ นอกจากผู้นำฝ่ายบริหารโกอินเตอร์แล้ว ผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติก็ล่องหนเช่นกัน สัปดาห์ก่อนบอกจะไปทัวร์แดงเดือดแค่ 5 วัน แล้วจะรีบกลับมาทำหน้าที่ประธานสภาฯ ให้ทันวันพุธ แต่วันพฤหัสฯ ก็ยังไร้เงา โฆษกประจำตัวอ้างว่าไปราชการที่จีนต่อกลับวันศุกร์ ทำเอาโฆษกกรรมาธิการกิจการสภาฯ "บุญยอด สุขถิ่นไทย" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ชงเรื่องเข้าที่ประชุมเตรียมเล่นงาน "ขุนค้อน" เลยต้องเก้อไป ยิ่งเจอประธาน กมธ. "ไพจิต ศรีวรขาน" คนพรรคเดียวกันโดดอุ้มเต็มตัว โยนบาปไปที่รองเลขาธิการสภาฯ แทน สกัดแตะทั่นประธานและบรรดาสื่อแดงทั้งหลาย แต่ใช่ว่าเรื่องฉาวแค่นี้จะสะเทือนขุนค้อน แถมติดใจเตรียมจะจัดทัวร์นอกอีก คราวนี้กะทุ่มงบจัดเที่ยวปีละ 2 ครั้ง ต่างกันแค่จะไม่เลือกค่ายเลือกสีให้โดนถล่มอีก ทริปหน้าประกาศจะขนสื่อประจำรัฐสภาให้ครบทุกสังกัดซะเลย
    ๐ ถึงแม้เจ้าของเก้าอี้ร้อน "รองนายกฯ ควบ มท.1" ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อ้างมีความชอบธรรมในตำแหน่งดังกล่าว โดยย้ำจะทำงานในหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ แต่เอาเข้าจริงตัวเองก็หวั่นในแง่ของกฎหมายอยู่ไม่น้อย เพราะเวลานี้ทำตัวเป็นนินจาแวบไปโน่นมานี่ เข้ากระทรวงมหาดไทยก็แค่แป๊บๆ ออกอาการนั่งไม่ติด หนักเข้าถึงขั้นจัดคิวเข้าวัดทำพิธีปัดรังควานเสริมดวง ที่วัดสระเกศ ในวันศุกร์นี้ ไม่รู้ว่าจะมีการทำบุญขอขมาดวงวิญญาณยายเนื่อมด้วยหรือเปล่า แต่ในทางพุทธศาสนา กรรมก็คือการกระทำ ก็เลยอยากฝากวิธีแก้กรรมง่ายๆ ตามหลักคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี ไว้เตือนใจซักนิด "การแก้กรรมคือการแก้ที่ความหลงผิด การแก้กรรมคือการเลิกทำความชั่ว ดังนั้น การแก้กรรมจึงไม่ใช่สำเร็จที่การสะเดาะเคราะห์หรือทำพิธีจากเกจิ คนที่รู้เรื่องกรรมดีที่สุดคือตัวเราเอง คนที่แก้กรรมได้ดี่ที่สุดคือตัวของเรา การแก้กรรมต้องทำด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรมแปลกๆ ทำผิดแล้วรู้สึกผิดต่อไปจะเป็นคนดี ทำผิดแล้วรู้สึกว่าเป็นความดีกาลกิณีจะเกิดขึ้นในไม่ช้า"
    ๐ น่าแปลกใจที่สารวัตรเฉลิมออกมาป้องหัวหน้าพรรคเพื่อแม้วเต็มที่ ทั้งที่ใครๆ ก็รู้ว่าจ้องเก้าอี้ มท.1 ตาเป็นมัน หรือจะเป็นวิธีสับขาหลอกที่เจ้าตัวถนัด เพราะระดับดอกเตอร์เหลิมบอกเองว่าเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายเสียเหลือเกิน ขนาดฝ่ายกฎหมายของพรรคยังรู้ชะตากรรมว่ารอดยาก เข้าตำราแกล้งไม่รู้หลอกคนกันเองหรือเปล่า เหมือนอย่างตอบกระทู้สดเรื่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม กรณีคนเสื้อแดงพันฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม กลับเฉไฉไปเรื่องคนเสื้อแดงถูกเจ้าหน้าที่ยิง ทำเอาเจ้าของกระทู้ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ทนไม่ไหวด่ากลางสภาว่าโง่ ทั่นเหลิมถึงกับเต้นประกาศคุณสมบัติการันตีตัวเองเสร็จสรรพจบดอกเตอร์นิติศาสตร์ แถมเป็นรัฐมนตรีหลายสมัย กิตติศัพท์แสนรู้อย่างนี้แหละที่ "นายใหญ่" ถึงต้องเลี้ยงไว้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น