วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

ใกล้เวลาทำนบแตก!!! 24 September 2555




“รู้สึกงงกับข้อเสนอที่ห้ามพ.ต.ท.ทักษิณ ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก ทั้งที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองมากมาย เชื่อว่าคนที่ให้กำลังใจพ.ต.ท.ทักษิณ มีมากมาย มากกว่าครึ่ง หรือ 2 ใน 3 และคิดว่าคนที่ทำรัฐประหารควรออกมาขอโทษประชาชนในฐานะเป็นกบฏ ไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับบ้าน คนส่วนใหญ่ก็อยากให้กลับ แต่คนส่วนหนึ่งไม่อยากให้กลับ เพราะกลัวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เก่งกว่า จึงไม่ให้กลับ จึงขอให้ล้มการกีดกันพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะกีดกันอย่างไรก็ไม่อยู่ เขื่อนทำนบของประชาชนจะทะลักในที่สุด กันอย่างไรก็กันไม่อยู่...”
                                     -----------------------------------------
    จากข้อความที่นำมาเกริ่นไว้ข้างต้น...ก็คงพอทราบๆ กันไปเรียบโร้ยย์ย์แล้วว่า เป็นคำพูดของอดีตนายกฯ สมชาย ลมโชย หรือ สมชาย เวสต์อิน ก็แล้วแต่จะเรียก นำมาจากเนื้อข่าวหน้าหนึ่ง ไทยโพสต์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งก็คงต้องสรุปว่า...ไม่ว่าใครจะเป็นคนส่วนใหญ่ ส่วนน้อย เป็นคน 2 ใน 3 หรือ 1 ใน 3 ก็แล้วแต่ แต่ถ้าอยากจะให้ ทำนบของประชาชน แตกจริงๆ หรือทะลักจริงๆ ก็เชิญเลย...ขอเชิญกลับมาให้เร็วๆ!!! เพราะถึง ณ ขณะนี้ ไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับ หรือไม่กลับ ประชาชนส่วนหนึ่ง จะเป็นส่วนใหญ่ หรือส่วนน้อย ก็แล้วแต่จะคิด กำลังอยู่ในจุดใกล้จะทำนบแตก ทำนบทะลัก เต็มทีแล้ว...
                                  -----------------------------------------
    พูดง่ายๆ ว่า...ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปี ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาล ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ นั้น ทำนบของประชาชน มันหวิดแตก หวิดทะลัก มาครั้งแล้ว ครั้งเล่า ช่วงน้ำท่วมปีที่แล้วก็คราวหนึ่ง ถ้าหากไม่ได้พวกอาสาสมัคร หรือพวกจิตอาสา มาช่วยกอบกู้ ช่วยเหลือ เยียวยา กันชนิดคนละไม้ คนละมือ รัฐบาลทั้งรัฐบาลคง ล้มละลาย มานับตั้งแต่บัดนั้น เพราะความเป็นรัฐบาล มันแทบไม่ต่างอะไรไปจาก สากกะเบือ ทั้งแท่ง ทั้งด้าม ท่ามกลางสภาวะวิกฤติ ที่ผู้คนต่างเดือดร้อน ทุกข์ทรมาน กันโดยถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐี ยาจก ไพร่ หรืออำมาตย์ ฯลฯ ต่างตกน้ำป๋อมแป๋มไปด้วยกันทั้งสิ้น  ความเก่ง ของรัฐบาล หรือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็แล้วแต่ มีอยู่เพียงประการเดียวเท่านั้น นั่นคือ เอาตัวรอดไปวันๆ อาศัยความขี้ลืม หรือลืมง่าย ของคนไทย ประคับประคองตัวเองมาได้ จนตราบเท่าทุกวันนี้...
                                 -----------------------------------------
    แต่เมื่อเจอกับ ความเก่ง อีกหลายต่อ หลายเรื่อง หลายต่อ หลายกรณี ตามเข้ามาโถมทับอย่างเป็นระลอก ไม่ว่าความเก่งในเรื่องการจำนำข้าว จนทุนหายกำไรหด นับเป็นหมื่นล้าน แสนล้าน ส่งผลกระทบต่อการเงิน การคลัง ตลอดไปจนการพาณิชย์ ไม่ว่าระยะสั้น หรือระยะยาว ความเก่งในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม อันก่อให้เกิดคดีนานาชนิด จ่อคิวอยู่ในศาลปกครอง ความเก่งในเรื่องการบิดเบี้ยว บิดเบือน มาตรฐานความยุติธรรม ให้ตอบสนองต่อความถูกใจของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่คิดจะสนใจความถูกต้องใดๆ แม้แต่น้อย ความเก่งของ เจ๊ดอ ผู้สามารถล้วงมือ ล้วงไม้ ยื่นแขนขายาวเหยียด เข้าไปถึงใต้ถุน ใต้โต๊ะต่างๆ ได้ยิ่งเสียกว่าแม่นาคพระโขนงล้วงไม้ตีพริก ไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า ความเก่งในการควบคุม บงการ ข้าราชการ ให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ฯลฯลฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง...ที่กำลังทำให้  ทำนบของประชาชน ใกล้จะแตกแหล่ มิแตกแหล่ ยิ่งขึ้นทุกที...
                                 ------------------------------------------
    ด้วยเหตุนี้...แทบไม่ต้องรอจังหวะว่า ทักษิณกลับ ไม่กลับ หรือจะกลับตอนไหน เพราะอีกแค่ไม่กี่เดือน หรืออาจไม่ถึงสิ้นปี เอาเลยด้วยซ้ำ แนวโน้มที่ ทำนบของประชาชน มันจะแตก จะทะลักให้เห็น นับวันยิ่งมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถ้าหากทักษิณคิดจะกลับจริงๆ โดยไม่คิดจะติดคุก ไม่คิดจะสนใจต่อข้อเสนอใดๆ ของ    คอป.และใครต่อใครก็ตามแต่ วันนั้นนั่นแหละ...ที่จะกลายเป็นวันชี้วัด ตัดสินว่าประชาชนส่วนใหญ่และส่วนน้อยนั้น เป็นใครกันแน่!!! และถ้าหากคิดจะเอาประชาชนที่ตัวเองเรียกว่าส่วนใหญ่ หรือประชาชน 2 ใน 3 ออกมาเล่นงานประชาชน ที่ตัวเองเรียกว่าส่วนน้อย อย่างเคยทำๆ กันมาโดยตลอด ในช่วงอดีตที่ผ่านมา ก็กรุณาเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมทำพาสปอร์ต เอาไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะแนวโน้มที่จะต้องไปอยู่กับทักษิณนั้น มีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ
                                    ---------------------------------------
    เรียกได้ว่า...พอๆ กับ ศึกล้างตระกูล ในหนังจีนกำลังภายในนั่นแหละ ท่ามกลางความรู้สึกของชาวยุทธ์ ที่ชักจะเบื่อหน่าย สะอิดสะเอียน กับความไม่ถูกต้อง ยุติธรรม ความโหดเหี้ยม อำมหิต ในแบบ ใครยอมข้าอยู่-ใครขวางข้าตาย ของพรรคมาร หนักขึ้นทุกที สุดท้าย...เลือดมันคงต้องนองยุทธจักรกันอีกจนได้ ถึงวันนั้น...ขอแต่อย่าให้ประมุขพรรค องค์รักษ์พิทักษ์กฎซ้าย-ขวา พ่อบ้าน แม่บ้าน หอบลูก หอบหลาน หอบโคตรเหง้าเหล่าตระกูล เผ่นไปตั้งหลักอยู่ที่เมืองนอก เมืองนา ปล่อยให้ประชาชนส่วนไหนต่อส่วนไหน ต้องมาบาดเจ็บ ล้มตาย แบบลิ่วล้อในหนังจีน เหมือนอย่างที่เคยผ่านมาก็แล้วกัน...
                                  ------------------------------------------
    อันที่จริงการที่คณะกรรมการ คอป.ท่านอุตส่าห์ไปหยิบเอาคำว่า รัฐบุรุษ มาใช้เป็นข้อเสนอ...มันออกจะดูสูงส่ง หรือเป็นการให้เกียรติเกินไปด้วยซ้ำ เพราะความแตกต่างระหว่างคำว่า รัฐบุรุษ กับคำว่า นักปลิ้นปล้อน นั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว...สามารถแยกแยะได้ไม่ยาก ด้วยการมองจากกิริยา อาการ ว่าใครคิดจะหลอกใช้ประชาชน หรือหลอกแดกประชาชนหรือไม่ อย่างไร เท่านั้น ประเภทที่ปล่อยให้ผู้ซึ่งตัวเองเรียกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ตายกัน ระเนระนาด เพื่อสังเวย ความเก่ง หรือความอะไร ต่อมิอะไร ของตัวเอง ก็แล้วแต่ โดยไม่คิดตระหนัก สำนึกใดๆ แม้แต่นิด แถมยังไปควักเอาเงินภาษีอากรของราษฎรทั้งหมด ไม่ว่าส่วนใหญ่ หรือส่วนน้อย มาฟาดหัวเป็นค่าทำศพ ค่าทำขวัญ รายละ 7 ล้าน 8 ล้าน ขณะที่ตัวเองกลับหอบเอาครอบครัวเผ่นออกไปตั้งหลัก ชนิดไกลถึงสุดขอบฟ้า ไอ้แบบนี้...แล้วจะไปหวังให้ใครต่อใครมาตาย เพื่อตัวเองกันอีกศพแล้ว ศพเล่า มันน่าจะยากซ์ซ์ซ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เอาเถอะ...มาถึงทุกวันนี้ ทำนบประชาชน มันน่าจะใกล้แตกแล้วจริงๆ เพียงแต่จะแตกใส่ใคร แตกแล้วใคร จะเป็นฝ่ายเผ่น หรือไม่เผ่น อีกไม่นานไม่ช้า...คงพอได้รับรู้กันแบบจะจะ จังๆ อีกหน!!!
                                 -----------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Abraham Lincoln...You can fool some of the people all the time, you can fool all of the people some of the time, but you cannot fool all of the people all of the time. - ท่านอาจหลอกบางคนได้ตลอดไป หลอกทุกๆ คน ได้ในบางครั้ง บางคราว แต่ท่านจะหลอกทุกๆ คน ตลอดไปไม่ได้...
                                    ---------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น