4อภ.สงขลา ใช้ม.21ได้ผลแห่มอบตัว รุนแรงลด เสนอปลด หมายจับ ช่วยจูงใจ เมื่อ ๒๑ ก.พ.๕๖

ชื่อเรื่อง	4อภ.สงขลา ใช้ม.21ได้ผลแห่มอบตัว รุนแรงลด เสนอปลด หมายจับ ช่วยจูงใจ
ผู้เขียน	-
แหล่งข่าวหลัก	หนังสือพิมพ์ข่าวสด
คอลัมน์ข่าว	ข่าวหน้า 1
URL	http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakl4TURJMU5nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE15MHdNaTB5TVE9PQ==
เนื้อหา	"เหลิม" ย้ำตั้ง 9 วาดะห์ที่ปรึกษาไฟใต้ ผบ.ทบ.ก็เห็นด้วย เรียกประชุมนัดแรก 1 มี.ค.นี้ ชี้แนวทางใช้ "มาตรา 21" พ.ร.บ.มั่นคง หลังเข้ามอบตัวแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนของกอ.รมน. ตำรวจ อำเภอ ก่อนนำไปสู่ปลดหมายจับ ขณะที่ "บิ๊กตู่" ลงปัตตานี ติดตามผลปฏิบัติการ ขันนอตเจ้าหน้าที่ ระบุแบ่งแยกดินแดนไม่สำเร็จ มีแต่สูญเสีย 2 ฝ่าย ให้ออกมามอบตัว พูดคุยอย่างเป็นมิตร "บิ๊กอ๊อด" แนะปรับใช้ ม.21 ให้รัดกุม ต้องมีข้อเสนอที่โดนใจ ด้านผวจ.สงขลา เผยนำมาใช้แล้ว 4 อำเภอ สถานการณ์ดีขึ้น ตร.กับฝ่ายปกครองดูแลพื้นที่ ทหารเป็นพี่เลี้ยง ส่วนที่ยะลาระเบิดอีก อส.เจ็บ 2 นาย รู้ตัวแล้ว 2 มือปาบึ้มทหาร เตรียมออกหมายจับอีก 6 คน ทีมถล่มปัตตานี "บิ๊กตู่-บิ๊กอ๊อด"ลงปัตตานี เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่กรมขนส่งทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่ติด ตามการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ จ.ปัตตานี โดยพล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มอบให้ลงพื้นที่ไปติดตามผลการปฏิบัติงาน และสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เนื่อง จากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเหตุการณ์ปาระเบิดทหารที่ จ.ยะลา นั้น บอกแล้วว่าเจ้าหน้าที่เผลอไม่ได้ ถ้าเผลอคงได้รับบาดเจ็บ ต้องไปเตือนย้ำอีกครั้งหนึ่ง ต้องระลึกอยู่เสมอว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการทำอันตรายอยู่ ดังนั้น ต้องทำให้คนเหล่านี้ลดลง ไม่ว่าจะให้ออกมามอบตัว หรือเข้ามาพูดคุยอย่างเป็นมิตร มีหลายวิธีการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าไม่หนักใจกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ตั้งสมาชิกกลุ่มวาดะห์ 9 คน เป็นที่ปรึกษาการแก้ไขปัญหาไฟใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องหนักแน่น และเดินหน้าทำงานต่อไป การจะตั้งใครเป็นที่ปรึกษาเป็นเรื่องของแต่ละฝ่าย ที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานก็ตั้งที่ปรึกษาหลายคนหลายระดับ มีทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ไทยพุทธ และไทยมุสลิม ต้องรอดูการทำงานกันต่อไป แจงขั้นตอนใช้มาตรา21 "ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่เดือดร้อนต้องเข้ามาพูดคุยกันทั้งหมด มองภาพรวมทั้งภาพใหญ่ ภาพเล็ก ไม่ได้มองแก้ปัญหารายวัน มันแก้ไม่ได้ ปัญหานี้เกิดมาเป็นร้อยปีแล้ว และมีปัญหาอื่นมาทับซ้อนเพิ่มอีก ผมบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่านับถึงปัญหาที่เกิดขึ้นรายวัน จะทำให้ประเทศไทยมีความรุนแรงเทียบเท่ากับประเทศอื่น บางครั้งการเสนอข่าวด้วยความหวังดี แต่คนทั่วไปไม่เข้าใจ ทำให้คนทั่วโลกเข้าใจว่าประเทศไทยอันตราย มีระเบิดมากที่สุด ระเบิดที่นั่นที่นี่ ถามว่ามันเกิดที่ไหน มันเกิดอยู่ใน 3 จังหวัดใต้ กี่อำเภอ เกิดในกี่ตำบล กี่หมู่บ้าน ไปแยกแยะออกซะใหม่ ก็จะรู้ว่ามันแย่ลง หรือดีมากขึ้น" ผบ.ทบ.กล่าว ต่อข้อถามว่ากลุ่มวาดะห์เสนอรัฐบาลให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้ใช้มาตรา 21 ของพ.ร.บ.ความมั่นคง แก้ไขปัญหาไฟใต้ในทุกพื้นที่ ผบ.ทบ.กล่าวว่ากลุ่มวาดะห์ไม่สามารถชี้นำฝ่ายความมั่นคงเรื่องการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 21 ได้ เพราะเรื่องนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องเป็นผู้เสนอ อีกทั้งการใช้กฎหมายนี้ต้องมีคณะกรรมการกลั่นกรอง 2 ชุด โดยกลั่นกรองรายชื่อผู้ที่เข้ามามอบตัวว่าเคยมีคดี หรือก่อเหตุอะไรไว้บ้าง หากเข้าหลักเกณฑ์ก็ไม่ฟ้องศาล และเสนอต่อผอ.รมน. ให้เข้าสู่กระบวนการอบรมและออกมาเป็นผู้พัฒนาชาติไทย ใครมีคดีความมากก็ว่ากันที่อัยการและศาล มีกติกาอยู่ ชี้ยุทธวิธีตามหลังโจรใต้ ส่วนพล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า การลงพื้นที่ไม่เกี่ยวกับกรณีร.ต.อ.เฉลิมไม่ยอมลงพื้นที่ภาคใต้ และนายกฯ ก็ไม่ได้สั่ง เพียงแต่ผบ.ทบ.โทรศัพท์มาชวนว่าอยากให้ไปด้วยกัน เป็นเรื่องดีหากมีอะไรจะได้เสนอแนะ นายกฯ ได้ถูกต้อง ต่อไปนี้หาก ผบ.ทบ.ลง พื้นที่ภาคใต้ จะไปด้วยทุกครั้ง เมื่อลงไปกับกองทัพก็ได้พูดคุยกัน และช่วยกันผลักดันให้บางเรื่องสำเร็จ ยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาเดินมาถูกทางแล้ว แต่ด้านยุทธวิธีต้องปรับ เพราะเรายังตามหลังเขาอยู่ ต้องนำคนที่สามารถนำยุทธศาสตร์มาเปลี่ยนเป็นยุทธวิธีให้ได้ ถ้าทำไม่ได้มีช่องว่างเกิดขึ้น รวมถึงปรับเปลี่ยนคนที่มาทำงานด้วย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติยังอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษา แต่บางคนมีคดีแบ่งแยกดินแดนอยู่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ทุกคนในกลุ่มวาดะห์ต่างมีประวัติทางการเมือง ร.ต.อ. เฉลิมคงทราบดี โดยมีหน้าที่เสนอแนะ ส่วนจะทำตามหรือไม่ ขึ้นอยู่กับร.ต.อ.เฉลิม มองว่ากลุ่มวาดะห์อาจเสนอแนะสิ่งที่เป็นประ โยชน์ สิ่งที่เรามองไม่เห็น หรือมองข้ามไป แต่สมัยที่ตนเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ไม่เคยมีแนวคิดให้กลุ่มวาดะห์มาเป็นที่ปรึกษา เพราะบางคนไม่ทราบประวัติแน่ชัด คนที่จะแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา ต้องรู้ประวัติความเป็นมา และจะให้ทำงานในส่วนไหน คิดว่าร.ต.อ.เฉลิมน่าจะทราบดี เงื่อนไขมอบตัวยังไม่โดนใจ ที่ปรึกษานายกฯ กล่าวถึงการเปลี่ยนจากพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่าเรื่องนี้พูดง่ายทำง่าย โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอไว้ตั้งแต่หารือกับนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยบอกให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 21 แต่ต้องให้กระทรวงยุติธรรมนำไปปรับเรื่องข้อกฎ หมายให้กะทัดรัด และเกิดความพอใจกับผู้ที่เข้ามามอบตัว ใครที่ตัดสินไปแล้วก็ต้องติดตามดู ตอนนั้นผู้นำฝ่ายค้านบอกว่าถ้ารัฐบาลไม่พร้อม จะเสนอเรื่องนี้เอง แต่เรื่องก็เงียบหายไป และนายกฯ หยิบเรื่องนี้มาพูดเมื่อ 2-3 วันนี้ "มาตรา 21 ต้องปรับให้เหมาะสม รัดกุมให้มากกว่านี้ เพราะข้อเสนอยังไม่กระแทกใจผู้ที่จะเข้ามามอบตัว โดยนายกฯให้ความสำคัญ และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก หากการดำเนินการเสร็จสิ้นและนำข้อมูลเสนอให้นายกฯ ท่านก็จะผลักดันเข้าครม.ทันที" พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวและว่า การประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจเรื่องมาตรา 21 ให้คนทั้งประเทศทราบรายละเอียดโดยเฉพาะคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสิ่งสำคัญ แต่ยังไม่มีทำเรื่องนี้ การลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้น่าจะดีที่สุด เพราะจะทำให้ทราบข้อมูลจากฝ่ายปฏิบัติ และนำเสนอนายกฯ ได้ เคยใช้"ม.21"แล้วที่"แม่ลาน" ต่อมาคณะของพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ. ยุทธศักดิ์ เดินทางมายังโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี และพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้ร่วมเสริมสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 100 คน โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นตัวแทนของนายกฯ มาสร้างความเข้าใจกับผู้ที่ยังมีความเห็นต่าง โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจในเรื่องการประกาศใช้มาตรา 21 ของพ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากที่ผ่านมาได้ประ กาศใช้มาตรา 21 ในพื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เมื่อปีพ.ศ.2552 แต่ประชาชนยังมีความเข้าใจ ที่ผิดอยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประ ยุทธ์ พบปะกลุ่มผู้ร่วมเสริมสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังกล่าวในช่วงหนึ่งว่า "ทุกวันนี้ทุกคนต่างมีความผิดทั้งหมด ทั้งตัวผมเอง แม่ทัพภาคที่ 4 ทหารที่มาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ ตำรวจและรัฐบาลที่ไม่สามารถสร้างความเข้าใจ และนับจากนี้คือหน้าที่ของทุกฝ่าย ที่ต้องมาร่วมมือกันทำความเข้าใจกับประชา ชนต่อปัญหาทั้งหมด อันจะส่งผลในการแก้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหารวมไปถึงกลุ่มผู้ร่วมเสริมสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับไปทำความเข้าใจกับพี่น้องในพื้นที่" ผบ.ทบ.กล่าว แยก 3 จว.ไม่สำเร็จ-มีแต่สูญเสีย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบบุกโจมตีฐานทหารที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และถูกยิงเสียชีวิต 16 ศพว่า ชี้ชัดว่าการแบ่งแยกดินแดนนั้นทำไม่สำเร็จ จึงทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นศูนย์ สูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย จึงอย่าคิดทำเลย เพราะประเทศไทยมีเนื้อที่ไม่มากพอ ประเทศเราไม่ได้เป็นประเทศที่ใหญ่อันดับต้นของโลก การจะมาอ้างถึงประ วัติศาสตร์นั้นมันก็ใช่ แต่ประวัติศาสตร์มีไว้เทิดทูน เราอยู่ร่วมกันได้ทุกศาสนา จึงอยากให้มาร่วมกันคิดพัฒนาประเทศดีกว่า ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในการเดินทางมาของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามาจอดบริเวณที่จอดรถด้านหน้าบันไดขึ้นลงโรงแรม เพื่อใช้เป็นที่จอดรถของผบ.ทบ และคณะเพียงอย่างเดียว โดยมีเจ้าหน้าที่รปภ.ของทหารอาวุธปืนครบ มือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาตรวจตราวัตถุต้องสงสัยอย่างละเอียดยิบ ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปประชุมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดปัตตานี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ทางชุดรปภ.ของ จ.ปัตตานี ต้องขอความร่วมมือทุกส่วน ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้ามาจอดบริเวณศาลากลางจังหวัดอย่างเด็ดขาด จนกว่าคณะผบ.ทบ.จะเสร็จสิ้นภารกิจ 4 อำเภอสงขลาใช้ ม.21 ได้ผลดี ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผวจ.สงขลา กล่าวว่าตามที่ประกาศให้ 4 อำเภอ จ.สงขลา คือ อ.นาทวี อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย และ อ.จะนะ ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแทนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และดำเนินการตามมาตรา 21 ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดในคดีความมั่นคง ออกมามอบตัวไม่ต้องรับโทษทางอาญา ไม่ถูกคุมขังในเรือนจำ ไม่มีพันธนาการเยี่ยงนักโทษ แต่ให้เข้าฝึกอบรม 6 เดือนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี โดยในระหว่างที่ฝึกอบรม ทางญาติพี่น้องเข้าเยี่ยมได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายปกครองก็ร่วมกับผู้นำท้องถิ่นเข้าไปพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ให้แก่ญาติของผู้ต้องหา และคาดว่าจะมีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงออกมามอบตัวอีก ผวจ.สงขลากล่าวต่อว่า จากการดำเนินการที่ผ่นมา ทำให้สถานการณ์ 4 อำเภอดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2553 มีผู้ต้องคดีความมั่นคงออกมามอบตัวแล้ว 4 คน ในจำนวนนี้มีนายรอยาลี บือราเฮง และนายยาซะ เจ๊ะมะ เสร็จสิ้นขบวนการไปแล้ว ยังเหลือนายสุริยา หม๊ะมุ และนายอับดุลเลาะ สาเมาะดามัน อยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ และฝ่ายปกครองกำลังติดต่อประสานอยู่อีกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กำลังจากฝ่ายปกครองและตำรวจเป็นหลัก มีทหารชุดฉก.สงขลา เป็นพี่เลี้ยง หากมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ต้องส่งคืนให้ทหารไปดูแล บึ้มยะลาอีก-อส.บาดเจ็บ 2 ส่วนสถานการณ์ใน จ.ยะลา เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.รุสดี กะโด ร้อยเวรสภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่ถนนในหมู่บ้าน พื้นที่ร่อยต่อระหว่างหมู่ 1 และหมู่ 6 บ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ยุโป อ.เมืองยะลา จึงนำกำลังตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบนายสุเทพ จันทร์วรรณโณ อายุ 30 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ และนายภิญโญ คงทน อายุ 39 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัว ทั้งคู่เป็นเจ้าหน้าที่อส.เมืองยะลา จึงลำเลียงส่งร.พ.ยะลา และตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบเศษวิทยุสื่อสาร สะเก็ดระเบิด สายไฟที่ลากเข้าไปในป่าริมถนน และพบรถจักรยานยนต์พังเสียหาย จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่อส.เมืองยะลา 8 นาย ใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน เดินทางไปรักษาความปลอดภัยครู เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ถูกระเบิดใส่ โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 ก.ก. มาซุกไว้กองอิฐริมถนน เมื่อเจ้าหน้าที่ผ่านมาจึงจุดชนวนระเบิดถล่มใส่ เป็นเหตุให้อส.บาดเจ็บ 2 นาย และหลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ยะลา สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะ และบุคคลต้องสงสัย ที่จะเข้ามาในเขตเทศบาลนครยะลา เนื่องจากคนร้ายยังคงก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ รู้ตัวแล้ว 2 มือปาบึ้มทหาร สำหรับเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายปาระเบิดใส่กลุ่มทหาร ร้อย ร.5032 ฉก.ยะลา 11 ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ภายในวัดหลักห้า ริมถนนสายยะลา-บุดี อ.เมือง จ.ยะลา ขณะรวมกลุ่มกันออกกำลังกาย ความแรงของระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 8 นาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีรายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แจ้งว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพ 2 คนร้ายเอาไว้ได้ จึงนำมาเปรียบเทียบกับรูปพรรณของบุคคลเป้าหมาย โดยในเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายทั้งคู่ คือนายซอฟวัน สามะ และนายอุสมาน ดอฆอ หรือ เจะกูสมาน รายงานข่าวแจ้งต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติของทั้งคู่ พบมีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี เคยก่อเหตุยิง ตชด.ที่บ้านเนียง อ.เมือง จ.ยะลา ยิงตำรวจ สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ยิงทหารชุดรักษาความปลอด ภัยพระสงฆ์ ที่ถนนอุตสาหกรรม อ.เมือง จ.ยะลา อีกทั้งพบว่าในการก่อเหตุแต่ละครั้ง มักจะแต่งกายคล้ายสตรีมุสลิม ปิดบังใบหน้า ใช้ผ้าคลุมศีรษะอำพรางตัว และยังพบว่าทั้งคู่เป็นกองกำลังระดับหน่วยจรยุทธ์ขนาดเล็กประจำถิ่น หรืออาร์เคเค ระดับปฏิบัติการ รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ยะหา อ.รามัน และ อ.เมือง จ.ยะลา จ่อสั่งจับ 6-ทีมถล่มปัตตานี ส่วนความคืบหน้าคดีวางเพลิงหลายจุด และระเบิดถล่มกลางเมืองปัตตานีนั้น นายประมุข ลมุล ผวจ.ปัตตานี เปิดเผยว่าจากการหารือ 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานบุคคล ลายนิ้วมือและรูปแบบแต่ละเหตุการณ์นำมาประกอบกับการก่อเหตุ คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์จะออกหมายจับได้ มีทั้งหมด 6 คน นำโดยนายมะซอเร ดือรามะ เพราะมีหมายจับคดีลอบวางระเบิดหลายแห่ง และคดีวางระเบิดโรงแรมในพื้นที่อีกด้วย รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับนายมะซอเร ดือรามะ ที่เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับนั้น ปัจจุบันอายุ 34 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 3/3 หมู่ 6 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นแกนนำระดับสั่งการ เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ประกอบระเบิด มีรายชื่อในสารบบของหน่วยงานด้านความมั่นคง มีหมายจับหลายคดี โดยเฉพาะคดีลอบวางระเบิด ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงยืนยันว่านายมะซอเรมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวอย่างมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บุกปิดล้อมตรวจค้นในหมู่บ้านแล้วหลายครั้ง แต่ไม่พบตัว "เหลิม"ชี้ ม.21 ปลดหมายจับ วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กรณีที่เสนอใช้มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น หมายความว่าต้องการให้ผู้ที่ถูกกล่าวหา กล่าวโทษว่ากระทำผิด ได้เข้าพบ กอ.รมน.ภาค 4 แล้ว กอ.รมน.ภาค 4 จะคุยร่วมกับนายอำเภอและตำรวจ แล้วมาเข้ากระบวนการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ปลดหมายจับ ขอย้ำว่ามาตรา 21 นี้ เพื่อจะให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามอบตัว แล้ว กอ.รมน.ภาค 4 จะคุยร่วมกับนายอำเภอและตำรวจ แล้วมาเข้ากระบวนการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ปลดหมายจับ โดยตนจะเป็นเซ็นเตอร์ คุยกับอัยการเพื่อให้ปลดหมายจับ "พวกที่เอาไปวิจารณ์นั้น มันไม่เข้าใจ ผมเป็นพนักงานสอบสวนมา 11 ปี ผมเรียนกฎหมาย ผมมีวิธีการทำ ถึงแม้เหตุเกิดในพื้นที่พ.ร.ก. ผมก็ทำได้ให้เกิดในพื้นที่พ.ร.บ. ความมั่นคง เพื่อให้ใช้มาตรา 21 ส่วนการจะเปลี่ยนพื้นที่พ.ร.ก.มาเป็นพ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น เป็นเรื่องของทหาร ไม่ใช่หน้าที่ผม ผมคิดว่าต้องใช้ช่องทางกฎหมายพูดคุยหารือ ถ้าใครทำได้ให้บ้านเมืองสงบเอาเลย แต่ไม่ใช่การไปเจรจา แล้วจะหาข้อสรุปอย่างไร และญาติผู้เสียหายเขาจะคิดอย่างไร" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว เสนอ 9 วาดะห์ถก"สมช."ด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อรัฐมีแนวคิดใช้มาตรา 21 ฝ่ายค้านก็ระบุว่าเป็นแนวทางที่เขาริเริ่มไว้ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่ปฏิเสธ แล้วทำไมตอนเป็นรัฐบาลไม่ทำ ริเริ่มดีแต่ไม่ทำ สิ้นสภาพแล้ว เมื่อถามถึงกรณีตั้งกลุ่มวาดะห์ 9 คน มาเป็นที่ปรึกษาทั้งที่มีบางคนเคยต้องสงสัยในคดีก่อความไม่สงบ อย่างนายนัจมุดดีน อูมา จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า พวกที่คิดอย่างนี้คือพวกใจคับแคบ เพราะเรื่องนั้นศาลยกฟ้องแล้ว ก็แปลว่าไม่ผิด จะเอาอะไรไปตีตราบาปเขา ในเมื่อเขาไม่ผิด แต่ใครจะมาตั้งข้อสังเกตถือเป็นสิทธิ์ แต่ตนก็มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าอะไรจะนำไปสู่ทางที่ดีได้ และนัดประชุมที่ปรึกษาทั้ง 9 คน ในวันที่ 1 มี.ค. เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล "นายเด่น โต๊ะมีนา สัญลักษณ์ของปัตตานี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็ยะลา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ และนายนัจมุดดีน ก็นราธิวาส ผมก็ขออนุญาตผบ.ทบ.แล้ว เชื่อว่าเขาจะให้ข้อมูลกับเรา เพราะโดยส่วนรักและชอบพอกัน และเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องเสนอแนวทางที่เป็นไปได้ ก็ต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน และเสนอแนวทางที่เป็นไปได้ ในบางโอกาสวันหนึ่งก็ให้เขาเข้าประชุมในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ด้วย หากเขาเสนอในที่ประชุมวันที่ 1 มี.ค.นี้ แล้วผมเห็นด้วย ผมต้องถามสมช.ว่าฟังแล้วคิดอย่างไร เพราะแต่ละคนเป็นอดีตรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา แต่ละคนมีความรู้ความสามารถ อย่ารังเกียจกัน งานนี้รังเกียจกัน แก้ไขไม่ได้ ต้องเปิดใจกว้าง และแต่ละคนนี้ตรงเป๊ะ" ร.ต.อ. เฉลิมกล่าว สวนกลับ-หาว่าไม่กล้าลงใต้ ต่อข้อถามว่ามีอีกกระแสหนึ่งระบุว่าการตั้งกลุ่มวาดะห์ เป็นเพียงเกมการเมือง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พวกที่พูดคือพวกเลอะเทอะ พวกไม่มีงานทำ พวกฝ่ายค้านถาวร ตนเป็นรองนายกฯ มีหน้าที่ และนายกฯ ก็มอบหมายร้อยเปอร์ เซ็นต์ และยังย้ำโดยดุว่าห้ามปฏิเสธ และบังคับให้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วจะไม่ให้คิดได้อย่างไร หรืออิจฉาเพราะตัวคิดไม่เป็น พอตนคิดเป็น ก็ไปแอบร้องไห้ใต้โต๊ะ "ใครจะรู้ดีกว่าคนในพื้นที่ มาหาว่าเฉลิมไม่ลงใต้ ผมลงปักษ์ใต้ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ ยังนุ่งกางเกงขาสั้นอยู่ลอนดอน ตั้งแต่ยังไม่รู้เรื่อง ผมเป็นตำรวจกองปราบฯ อยู่ปักษ์ใต้มาตลอด ผมรู้ วันนี้เราต้องให้นโยบายประนี ประนอม ไม่ใช่ไปถือปืนเดินสี่แยก ลงไปยะลา แอ๊กอาร์ตถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วก็กลับกรุงเทพฯ" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ภาพประกอบ [1]	บึ้มอส. - จนท. ตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายฝังระเบิดไว้ใต้ถนนลูกรัง ดักทำร้าย อส.ที่ขี่รถจยย.ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย บนถนนบ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ก.พ.
วันที่เผยแพร่	21 ก.พ. 2556
วันที่บันทึกข้อมูล	21 ก.พ. 2556