จับตาแนวร่วมโจรใต้3กองร้อย จ้องตอบโต้จนท.รัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีนายมะรอโซ จันทรวดี ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 วิสามัญเสียชีวิต พร้อมพวกรวม 16 คน ขณะนำกำลังบุกโจมตีฐานปฏิบัติการ ตั้งอยู่บ้านยือลอ ม.3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 และทหารพรานได้ร่วมกันสนธิกำลังขึ้นติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายบนเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี ในพื้นที่เขตรอยต่อของ อ.รือเสาะ และ อ.บาเจาะ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้วิธีสะกดรอยคราบเลือดของคนร้ายที่ตกอยู่บนแนวทางเดินที่มุ่งหน้าขึ้นเทือกเขา โดยเชื่อว่า มีแกนนำอย่างน้อย 2 ใน 5 คน คือ นายอับดุลฮากิม ปูตะ นายยัฟรี สารอเอง นายอาพันดี กาพา นายรอแปอิง อุเซ็ง และนายมะดารี วาหลง รวมอยู่ด้วย เพื่อขึ้นไปสมทบกับกลุ่มสมาชิกแนวร่วมของนายมะรอโซ จันทรวดี ที่หลงเหลืออยู่ เพื่อเตรียมการที่จะเคลื่อนไหวตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ
ซึ่งการติดตามไล่ล่าเป็นเวลากว่า 3 วัน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่ป่าบนเทือกเขา เป็นป่าอุดมสมบูรณ์มีความรกทึบและหนาแน่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ
โดยแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ในพื้นที่ 7 อำเภอ คือ บาเจาะ รือเสาะ ศรีสาคร จะแนะ สุคิริน แว้ง และเจาะไอร้อง ได้มีการเฝ้าระวังตั้งวางมาตรการตั้งรับ หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้มีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ จำนวน 3 กองร้อย มีการเคลื่อนไหวแฝงตัวดูลาดเลาในทางลับ เตรียมที่จะมีการประชุมก่อเหตุด้วยการวางระเบิด บุกโจมตีจุดตรวจและฐานปฏิบัติการย่อยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลม เพื่อที่จะตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากวิสามัญนายมะรอโซ และพวกเสียชีวิตจำนวน 16 คน โดยที่ทางกลุ่มขบวนการได้มีการแต่งตั้งนายมูหะหมัด โบกี ขึ้นรับตำแหน่งรับผิดชอบแทนนายมะรอโซ จันทรวดี
โดยนายมูหะหมัด โบกี เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนายมะรอโซ ก่อเหตุร้ายหลายครั้งในพื้นที่ อ.บาเจาะ แต่นายมูหะหมัด โบกี มีความสุขุมรอบคอบ และมีความโหดเหี้ยมกว่านายมะรอโซ หลายเท่า แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบประวัติของนายมูหะหมัด โบกี มากนัก เนื่องจากทั้งในอดีตและปัจจุบัน นายมูหะหมัด โบกี มักจะเป็นที่ปรึกษาของนายมะรอโซ เพื่อแสดงความคิดเห็นความเสียเปรียบได้เปรียบ หากก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ต่างๆ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 และทหารพรานได้ร่วมกันสนธิกำลังขึ้นติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายบนเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี ในพื้นที่เขตรอยต่อของ อ.รือเสาะ และ อ.บาเจาะ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้วิธีสะกดรอยคราบเลือดของคนร้ายที่ตกอยู่บนแนวทางเดินที่มุ่งหน้าขึ้นเทือกเขา โดยเชื่อว่า มีแกนนำอย่างน้อย 2 ใน 5 คน คือ นายอับดุลฮากิม ปูตะ นายยัฟรี สารอเอง นายอาพันดี กาพา นายรอแปอิง อุเซ็ง และนายมะดารี วาหลง รวมอยู่ด้วย เพื่อขึ้นไปสมทบกับกลุ่มสมาชิกแนวร่วมของนายมะรอโซ จันทรวดี ที่หลงเหลืออยู่ เพื่อเตรียมการที่จะเคลื่อนไหวตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ
ซึ่งการติดตามไล่ล่าเป็นเวลากว่า 3 วัน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่ป่าบนเทือกเขา เป็นป่าอุดมสมบูรณ์มีความรกทึบและหนาแน่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ
โดยแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ในพื้นที่ 7 อำเภอ คือ บาเจาะ รือเสาะ ศรีสาคร จะแนะ สุคิริน แว้ง และเจาะไอร้อง ได้มีการเฝ้าระวังตั้งวางมาตรการตั้งรับ หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้มีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ จำนวน 3 กองร้อย มีการเคลื่อนไหวแฝงตัวดูลาดเลาในทางลับ เตรียมที่จะมีการประชุมก่อเหตุด้วยการวางระเบิด บุกโจมตีจุดตรวจและฐานปฏิบัติการย่อยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลม เพื่อที่จะตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากวิสามัญนายมะรอโซ และพวกเสียชีวิตจำนวน 16 คน โดยที่ทางกลุ่มขบวนการได้มีการแต่งตั้งนายมูหะหมัด โบกี ขึ้นรับตำแหน่งรับผิดชอบแทนนายมะรอโซ จันทรวดี
โดยนายมูหะหมัด โบกี เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนายมะรอโซ ก่อเหตุร้ายหลายครั้งในพื้นที่ อ.บาเจาะ แต่นายมูหะหมัด โบกี มีความสุขุมรอบคอบ และมีความโหดเหี้ยมกว่านายมะรอโซ หลายเท่า แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบประวัติของนายมูหะหมัด โบกี มากนัก เนื่องจากทั้งในอดีตและปัจจุบัน นายมูหะหมัด โบกี มักจะเป็นที่ปรึกษาของนายมะรอโซ เพื่อแสดงความคิดเห็นความเสียเปรียบได้เปรียบ หากก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น