สรุปข่าวใน 28
ม.ค.- 1 ก.พ.56
การเมือง
29 ม.ค.56 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
รับข้อเสนอของกลุ่มแนวร่วม 29 มกราปลดปล่อยนักโทษการเมืองแล้ว
หลังจากนี้รัฐบาลจะรวบรวมข้อเสนอจากทุกฝ่าย ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดยให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อดีข้อเสียแต่ละแนวทาง
ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บ้านเมืองสงบ
31 ม.ค.56 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ยืนยันว่า ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ไม่ใช่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี การที่หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์
นำเสนอข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถห้ามได้
อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าการทำงานที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับจากประชาชน
ทั้งนี้ยืนยันว่า พันตำรวจโททักษิณฯ ไม่ได้ติดต่อเข้ามาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยระบบ
skypte เพราะระหว่างการประชุมแม้แต่โทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้
31 ม.ค.56 นางนินนาท ชลิตานนท์
ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต
ปิดประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จภายในวันที่
5 กุมภาพันธ์นี้ หากประชาชนพบรายชื่อตกหล่น สะกดผิด
หรือมีชื่อผู้อื่นแฝงเข้ามาในบัญชีรายชื่อตามทะเบียนบ้าน
สามารถแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่แก้ไขได้จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์
ส่วนผู้ที่เคยยื่นความประสงค์ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า
และเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งตามที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
โดยไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิ
เศรษฐกิจ
30 ม.ค.56 นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
(สบน.)เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ
เพื่อการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผัน
ตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ รุ่นอายุ 15 ปีวงเงิน 4
หมื่นล้านบาทว่า โดยมอบให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยซ์แบงก์ สาขากรุงเทพ (DB) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (HSBC) เป็นธนาคารร่วมจำหน่าย จะออกพันธบัตรจริงในวันที่ 12 มีนาคม 2556
มั่นคง
31 ม.ค.56 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
เป็นประธานในการสรุปผลงานปี 2555 และแถลงแผนปฏิบัติงานปี 2556
ของ กอ.รมน. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
เป็นผลงานและแผนงานด้านยาเสพติด ด้านคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ด้านป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ
1 ก.พ.56 นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครธรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า
นายกรัฐมนตรีได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเกี่ยวกับการติดตั้งกล้องวงจรปิด
หรือซีซีทีวี ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่มีความทันสมัย
สามารถบันทึกและจับภาพใบหน้าของคนร้าย ตลอดจนหมายเลขทะเบียนรถที่ก่อเหตุได้
โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากกล้องซีซีทีวีเป็นเรื่องของความมั่นคง
ช่วยดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน รวมถึงปัญหายาเสพติดและการจราจร
31 ม.ค.56 นายประภาศ บุญยินดี
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
ได้สั่งการให้จังหวัดและอำเภอโดยนายทะเบียนท้องที่ ควบคุม
และแนะนำผู้ประกอบการซึ่งได้รับใบอนุญาตสั่งนำเข้าวัตถุระเบิด
เมื่อใกล้จะสิ้นอายุใบอนุญาตให้มายื่นคำขออนุญาตในรอบปีต่อไป
และเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งควบคุมการสั่งนำเข้า
ซื้อ มี ใช้ และเก็บรักษาวัตถุระเบิดของผู้ได้รับอนุญาตอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
เพื่อป้องกันการนำวัตถุระเบิดไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
28 ม.ค.56 ที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กรณีการหลบหนีเข้าเมืองของกลุ่มมุสลิมโรฮิงยากว่า 800 คน
ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ยังไม่พบเป็นขบวนการค้ามนุษย์
อย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้มีความผิดฐานลักลอบหลบหนีเข้าเมือง แต่มีลักษณะเป็นขบวนการ
ซึ่งจะต้องเร่งผลักดันออกนอกประเทศภายใน 6 เดือน
31 ม.ค.56 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นำคณะเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลามประจำประเทศไทย (โอไอซี) 15
ประเทศ ไปเยี่ยมสตรีและเด็กผู้อพยพหลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงญา จำนวน 105
คน ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ตำบลพะวง อำเภอเมือง
ซึ่งคณะทูตมีความพอใจที่ได้เห็นผู้อพยพได้รับการดูแลอย่างดี
30 ม.ค.56
ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี
สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในพิธีมอบเงินเยียวยา
แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 113
คน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 146,665,000 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น