|
|
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา รวบดาบตำรวจ ผบ.หมู่ ฝ่ายป้องกันฯ สน.สามเสน นอกรีตคาเครื่องแบบ พร้อมพวกอีก 2 คน ร่วมกันตั้งแก๊งปล้นชาวบ้าน ด้วยวิธีการจับตัวขึ้นรถข่มขู่อ้างพัวพันการค้ายาบ้า ก่อนถามรหัสบัตร ATM ไปกดเอาเงิน สารภาพก่อเหตุมาประมาณ 2 ปี ต้องการหาเงินเที่ยวเตร่และใช้หนี้การพนันฟุตบอลออนไลน์ ขณะที่เหยื่อประมาณ 40 ราย เข้ารุมชี้ตัว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.ย.55 พ.ต.ท.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล สว.สส.สน.ธรรมศาลา และ ร.ต.อ.สุเทพ จันทวงษ์ รอง สว.สส. พร้อมกำลังร่วมจับกุม ด.ต.วีระพงศ์ แซมสีม่วง อายุ 46 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.สามเสน นายณัฐฐาวุฒิ วนิชยากรชัย อายุ 42 ปี ชาว จ.ชุมพร และนายหล้า สีวิชัย อายุ 37 ปี ชาวไทยใหญ่ พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์-ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีนายสมหมาย ลุงยี อายุ 35 ปี ผู้เสียหายชี้ให้จับกุม โดยนายสมหมาย เปิดเผยว่า ตนมีชีพรับเหมาทาสีตามบ้านต่างๆ โดยเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. 55 ตนได้รับโทรศัพท์ว่าจ้างจากลุ่มผู้ต้องหา เพื่อให้มาทาสีที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านซีเมนต์ไทย ซอย 10 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค.55 ตนจึงเดินทางไปดูงานที่บ้านภายในซอยดังกล่าว และเมื่อมาถึงปากซอย ตนก็ได้โทรศัพท์ไปหากลุ่มผู้ต้องหา ทางกลุ่มผู้ต้องหาก็บอกให้เดินไปที่ซอย 22 เมื่อมาถึงก็โทรศัพท์กลับไปบอกว่าได้ถึงหน้าปากซอยแล้ว แต่ระหว่างนั้นก็สังเกตเห็นรถกระบะที่เป็นของกลาง ขับวนไปมาอยู่หลายรอบ ต่อมาโทรศัพท์ของตนก็ดังขึ้นและรถคันดังกล่าวก็ขับมาจอดที่ด้านหน้า
นายสมหมาย กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นคนขับรถคือ ด.ต.วีระพงศ์ ซึ่งแต่งกายชุดตำรวจเต็มยศ ก็เปิดประตูรถออกมาและพูดว่า ตนมีลักษณะต้องสงสัย โดยรูปพรรณคล้ายกับที่ทางสายลับของตำรวจแจ้งว่า จะมาส่งมอบยาเสพติดที่บริเวณนี้ เมื่อตนได้ยินดังนั้นจึงได้ปฏิเสธว่า ไม่ส่วนเกี่ยวข้องเป็นเพียงแค่คนหาเช้ากินค่ำเท่านั้น และที่มาปากซอยดังกล่าว ก็เพื่อมาดูบ้านที่ต้องการจะให้ทาสีใหม่ หลังจากนั้น ด.ต.วีระพงศ์ ก็สั่งให้ตนขึ้นรถเพื่อที่จะนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก แต่ไม่ได้บอกว่าโรงพักไหน และเมื่อขึ้นรถก็พบผู้ต้องหาอีก 2 คน นั่งอยู่ในรถ จากนั้น ด.ต.วีระพงศ์ ก็ขับรถออกจากซอยดังกล่าว แต่มุ่งหน้าไปทางไหนตนก็ไม่ทราบ ระหว่างทางกลุ่มผู้ต้องหาได้ถามว่า ตนมีเงินอยู่ในบัญชีเท่าไร โดยอ้างว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด จะตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ตนจึงบอกไปว่าเงินในบัญชีมีทั้งหมด 87,000 บาท
นายสมหมาย กล่าวต่ออีกว่า เมื่อตนบอกยอดเงินในบัญชีแล้ว ทางกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ถามถึงรหัสบัตร ATM ตนเห็นว่าผิดปกติจึงไม่ได้บอก ทางกลุ่มผู้ต้องหาจึงทำการข่มขู่ตนต่างๆ นาๆ จนตนเกิดความกลัวเลยบอกรหัสบัตร ATM ไป เมื่อได้รหัสบัตรแล้ว ทางกลุ่มผู้ต้องหาก็คว้าโทรศัพท์ของตน ไปทำรายการโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ ระหว่างทางก็รู้สึกกลัวว่าจะถูกฆ่าตาย แต่โชคดีที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทำอะไร และได้นำตนมาทิ้งไว้ที่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 หลังจากนั้นตนก็ไปกดเงินดูพบว่าเงินบัญชีไม่มีแล้ว จึงไปแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วประมาณ 2 ปี ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำมาแบ่งกัน แล้วนำไปเที่ยวเตร่และจ่ายพนันฟุตบอลออนไลน์ ส่วนเหตุที่ต้องแต่งชุดตำรวจนั้น ก็เพราะว่าง่ายต่อการกดันและหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ หลังสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันกรรโชคทรัพย์ และกักข่วงหน่วงเหนี่ยว เพื่อจะนำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายว่า ทางกลุ่มผู้ต้องหานั้นได้ก่อเหตุมาแล้วหลายท้องที่ และมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ตาม สน. ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เบื้องต้นมีผู้เสียหายมาทำการชี้ตัว จำนวน 40 ราย ที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมกันเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น