ตำรวจท่องเที่ยวรวบสองผู้ต้องหาชาวไลบีเรีย "แก๊งเงินดำ" หลอกหญิงไทยโอนเงินกว่า 3 ล.เพื่อซื้อน้ำยาล้างแบงก์ดอลลาร์ดำให้เป็นแบงก์จริง
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผบก.ทท.
พ.ต.ท.บวรภพสุนทรเรขา สว.ส.ทท.2กก.1 บก.ทท.ร.ต.อ.ปรินรัตนเพียรรอง สว.ส.ทท.2กก.1บก.ททและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทท.2กก.1 บก.ทท.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายฟิลิป โมเร่ อายุ 37 ปี สัญชาติไลบีเรีย และนายอิริค เคเนดี้ อายุ 37 ปีสัญชาติไลบีเรีย พร้อมของกลางเงินสกุลยูเอสดอลล่าร์ 25 มัด ๆ ละ 50,000 ดอลล่าร์ รวมจำนวน 1,250,000ดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 37,500,000 บาท) กระเป๋าเดินทางสีน้ำตาล จับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถนนหลังสวน
พล.ต.ต.อภิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าทั้งสองได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงไทยผ่านทางเฟสบุ๊ก
โดยใช้ชื่อว่า นายพล โทมัส เจ ลอวสัน อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งสองได้พูดจาหว่านล้อมผู้เสียหายว่าจะแต่งงาน และส่งทองคำแท่งมาให้แต่ปรากฏว่ามีหญิงชาวไทยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้โทรศัพท์มาบอกว่าติดปัญหาที่ด่านศุลกากรต้องให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ ซึ่งเมือผู้เสียหายโอนเงินให้ก็จะหลอกให้ผู้เสียหายไปที่สนามบินเพื่อรอรับของแต่เมื่อผู้เสียหายไปถึงทางผู้ต้องหาก็บอกว่าออกมาแล้ว จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองได้นัดส่งทองคำให้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านหลังสวน แต่เมื่อผู้เสียหายไปถึงกลับกลายเป็นเงินดอลล่าร์ที่มีรอยประทับเป็นรูปดาวประมาณ 1.25 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 37.5 ล้านบาทที่ต้องใช้น้ำยาเคมีพิเศษล้างแต่ต้องเสียค่าน้ำยา 3 ล้าน 2 แสนบาท ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปจนกระทั่งรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจท่องเที่ยว
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบช.ก.จึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่แกะรอย กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ขณะกบดานอยู่ในห้องพักของโรงแรมดังกล่าว ทั้งนี้จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นธนบัตรดอลล่าร์ปลอมซุกซ่อนอยู่ภายในห้องดังกล่าว
พล.ต.ต.อภิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้จะทำกันเป็นขบวนการ
โดยนำรูปภาพชาวต่างชาติผิวขาวหน้าตาดีมาหลอกลวงเมื่อผู้เสียหายตายใจหลงเชื่อก็จะเริ่มหลอกให้โอนเงินดังกล่าว จึงอยากฝากเตือนไปยังหญิงสาวหากมีการติดต่อทำความรู้จักกับชาวต่างชาติควรระวังเกี่ยวกับการชักชวนต่าง ๆ เพราะคนร้ายมีวิธีการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเหล่านี้ นอกจากนี้แนวทางการสืบสวนพบว่ามีคนไทยบางคนรับจ้างเปิดบัญชีร่วมอยู่ในขบวนการด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนเพื่อทำการจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างแถลงข่าวนั้นผู้เสียหายได้มาชี้ตัวผู้ต้องหาและเกิดควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ใช้เงินสกุลยูเอสดอลล่าร์ทุบไปตีบริเวณใบหน้าของผู้ต้องหาจนเจ้าหน้าที่ต้องรีบควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราขอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น