วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รวบแล้ว 2 คนร้ายปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ เค้นเมียจนรู้ที่ซ่อน! เมื่อ 21 ส.ค.57



รวบแล้ว 2 คนร้ายปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ เค้นเมียจนรู้ที่ซ่อน!
 

รวบแล้ว 2 คนร้ายปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ เผยวางแผนกันมาอย่างดี เค้นเมียจนรู้ที่ซ่อน!

 เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนพระราม 2 กม.13 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ภูวเดช ราญสระน้อย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.โคกขาม จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และสืบสวนภูธรโคกขาม ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ฯ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.

 ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางเกตุไพฑูรย์ บุญยัง หรือนามสกุลเดิมคือ อุทัยพิบูลย์ ไว้สอบปากคำจนนำมาซึ่งการจับกุมคนร้ายที่เหลืออีก 2 คน คือ นายวุฒิชัย หรือ เก่ง จันธิมา อายุ 23 ปี อยู่หมู่ที่ 7 ต.ห้วยหลัว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร กับ นายสราวุธ หรือ กุ้ง บุญยัง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเดียวกัน และเป็นสามีของนางเกตุไพฑูรย์ โดยสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไว้ได้ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในตำบลคูคต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน และเงินสดที่ได้จากการปล้นทรัพย์ไปคงเหลือ 189,520 บาท ซึ่งในส่วนที่หายไปจากยอดประมาณ 210,000 บาทนั้น ผู้ต้องหาบอกว่าใช้จ่ายไปกับค่าเดินทางหลบหนี และเช่าที่พักอาศัย
 ด้านพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คนร้ายที่ได้ร่วมกันก่อเหตุปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมดนี้ ได้มีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี มีการเตรียมการทั้งก่อนเข้าปล้น และหลังจากปล้นทรัพย์ไปแล้ว ซึ่งก็ต้องมีการขยายผลต่อไปว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหรือไม่ แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็นับเป็นโชคดีที่มีพลเมืองดีเสี่ยงชีวิตเข้าช่วย ซึ่งทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิง และมีการวางแผนอย่างเข้มข้น จนสามารถสืบทราบสถานที่ๆ คนร้ายไปหลบพักอาศัย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องขอชมเชยในการปฏิบัติงานที่รวดเร็วจากการสนธิความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากภาค 7 ภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และสถานีตำรวจภูธรโคกขาม

 ส่วนทางด้านของพลเมืองดีนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาตินอกจากจะขอชมเชยในความกล้าหาญ และมอบเงินช่วยผู้บาดเจ็บจากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยังจะได้มีการทำโล่ประกาศเกียรติคุณยกย่องคุณงามความดีของผู้ที่อุทิศตนช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย โดยจะจัดมอบให้ในวันตำรวจแห่งชาติ

 ทั้งนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นลง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยงดการให้สัมภาษณ์ผู้ต้องหา ส่วนนางเกตุไพฑูรย์ บุญยัง ผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนและถูกรถของพลเมืองดีชนจนได้รับบาดเจ็บนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ย้ายตัวไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาครแล้ว

 ขณะที่ พล.ต.อ.เอก และคณะ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเอกชัย เพื่อเยี่ยมนายจรัญ แอบทิพย์ พลเมืองดี ซึ่งยังคงพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู พร้อมกับมอบเงินเป็นสินน้ำใจให้ไว้จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีนางสาวพรรณพร คงยิ่งยง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ มอบเงินให้อีกจำนวน 100,000 บาท พร้อมกับบอกว่าสำหรับพลเมืองดีรายนี้ ทางธนาคารจะให้การดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาล และค่าซ่อมรถยนต์กระบะที่ถูกคนร้ายยิง ทางธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น