วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เราไล่ไปเรื่อยๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย เมื่อ 25 มิ.ย.56

เราไล่ไปเรื่อยๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย


 เจอเข้ากับพายุ เบบินคา เข้าไปแค่ลูกเดียว...แทบไม่น่าเชื่อว่าเล่นเอา เบบินครางง์ง์ง์ ไปถึง 14 จังหวัดทั่วประเทศไทย ไม่ว่าภาคเหนือ ภาคอีสาน ไปจนถึง กทม.เมืองที่คนตกท่อ ต่างออกอาการเดี้ยงกันไปเป็นแถบๆ ทั้งๆ ที่ศูนย์กลางของพายุลูกนี้ ว่ากันว่า...อยู่ห่างไปถึงฝั่งเวียดนามฝั่งจีนตอนใต้ เอาเลยโน่นแหละ แต่แค่เฉพาะหางๆ ยังสามารถดลบันดาลให้หลายต่อหลายจังหวัด เปียกม่อล่อกม่อแลก หรือถึงขั้นตกน้ำป๋อมแป๋ม ไปตามๆ กัน...
                                ------------------------------------------------
    ถ้าว่ากันตามคำพยากรณ์อากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ออกมาคาดหมายความเป็นไป ของอุณหภูมิอากาศล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ช่วงระยะปลายๆ มิถุนาฯ ไปจนถึงกลางกรกฎาฯ นั้น ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันน่าจะออกไปทางแห้งๆ กันเป็นหลัก อันเนื่องมาจากภาวะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำท่าว่าน่าจะอ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ อีกทั้งร่องมรสุมที่เคยห้อยๆ ย้อยๆ ลงมาแถวๆ บริเวณตอนเหนือของประเทศไทย ก็น่าจะได้เวลาเด้งกลับ ไปอยู่แถวๆ จีนตอนใต้ ภายในช่วงระยะสั้นๆ อันจะส่งผลให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง หรือเกิดภาวะความแห้ง ความแล้ง ย้อนกลับคืนมาใหม่ ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์นัก แต่ใครจะไปคิดว่า...จู่ๆ พายุที่ชื่อว่า เบบินคา ท่านกลับหอบลม หอบฝน มาอภินันทนาการ ใส่ประเทศไทยแบบเน้นๆ เนื้อๆ กันในช่วงนี้...
                             ---------------------------------------------------
    เรียกว่า...เล่นเอาพวก หน้ากากขาว ต้องเปียกม่อล่อกม่อแลก ไปตามๆ กัน แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ...ขนาดคำขู่ของรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงระดับ บึ้มเดียว...จบ ยังเอาไม่อยู่ แล้วกับแค่ฝน ฟ้า กะปริบ กะปรอย จะไปสำมะหาอะไร คิดในแง่บวก...กลับเป็นตัวก่อให้เกิดความชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื่น ปานประดุจฟ้าท่านประทานพร ให้ผู้ตื่นรู้ ตื่นตัว กันไปเลยก็ยังได้ ด้วยเหตุนี้...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ยังคงดูคึกคัก ทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณ ส่งสัญญาณให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กองทัพประชาชน ที่พร้อมจะลุกฮือขึ้นมาในช่วงระยะนับจากนี้ มีแนวโน้มที่จะขยายวง ลุกลามบานปลายและปลายบาน ในระดับครึ่งประเทศ ค่อนประเทศ หรือแม้กระทั่งต่างประเทศ ก็ยังพร้อมที่จะร่วมด้วยช่วยกัน โดยไม่พะวักพะวงกับการข่มขู่ คุกคาม ใดๆ เอาเลยแม้แต่นิด...
                            ------------------------------------------------------
    แต่ก็นั่นแหละ...ถึงจะใจถึง ใจสู้ ซะอย่าง ยังไงๆ คงต้องอาศัยความละเอียด รอบคอบ อาศัยสติและปัญญา เป็นเครื่องนำทางเอาไว้มั่ง เพื่อรับมือกับความไร้สติ ไร้ปัญญา ทั้งหลาย ทั้งปวง ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...นับวันมันชักจะออกอาการ ตาขวาง-หางตก หนักยิ่งขึ้นทุกที ถึงขั้นคิดจะงัด พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกมาใช้กันแล้ว ด้วยเหตุผลข้ออ้างแบบชนิดสุดแสนที่จะหยาบ จะเชยซ์ซ์ซ์ สุดแสนจะสองมาตรฐานซะไม่มี เช่นอ้างว่าการกระทำของพวกหน้ากากขาว ถือเป็นการละเมิดสิทธิลูกค้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่ให้มีโอกาสช็อปปิ้งได้โดยเสรี แล้วไอ้คนที่ออกมาอ้างเรื่องนี้ ดันมียศเป็นถึงระดับพลตำรวจตรี ไม่ใช่แค่ระดับ จ่าประสิทธิ์ จิตประสาท อะไร ที่ไหน เท่านั้น ล่าสุดเอาอีกแล้ว...เตรียมจะ กระชับพื้นที่โลกออน
ไลน์ ด้วยกฎหมายหมิ่นประมาท ชนิดสามารถแจ้งจับ บุกเข้าจับ โดยไม่ต้องอาศัยอำนาจศาล อาศัยแต่อำนาจ รัฐตำรวจ ล้วนๆ...
                          ---------------------------------------------------------
    พูดง่ายๆ ว่าบ้านนี้ เมืองนี้ ถ้าหากเป็นหน้ากากแดง หรือหน้าเกือกแดงแล้วล่ะก็...ย่อมมีสิทธิ์ไล่ขวิด ไล่กระทืบ ใครต่อใครได้โดยเสรี นอกจากไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่นแล้ว ยังถือเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซะอีกต่างหาก ขนาดระดับ ขู่ฆ่า หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และอดีตเลขาธิการพรรค แบบตรงไป-ตรงมา ป่าวประกาศให้เตรียมโลง เตรียมดอกไม้จันทน์ เอาไว้ล่วงหน้า ส่อแสดงเจตนาที่จะทำร้ายชีวิตผู้อื่น หรือ เจตนาฆ่า แบบจะจะ แจ้งๆ แต่ผู้รักษากฎหมาย หรือผู้บังคับใช้กฎหมาย ท่านกลับหันไปเอามือซุกหีบ ไม่คิดจะทำอะไรเอาซะเลย กระทั่งเห็นพวกหน้าเกือกแดง ไล่กระทืบเด็ก สตรี และคนชรา ต่อหน้าต่อตา ที่เชียงใหม่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ไม่ว่าตั้งแต่ระดับผู้กำกับการ ผู้บังคับการ ไปจนระดับหมู่ หรือจ่า ต่างกลายสภาพเป็น จ่าเฉย ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
                            ----------------------------------------------------------
    ภายใต้สภาพบรรยากาศเช่นนี้นี่แหละ จึงควรที่จะต้องอาศัยสติ ปัญญา อาศัยความละเอียด รอบคอบ อยู่พอสมควรเหมือนกัน คือถ้าหากยังไม่ถึงจังหวะ เวลา ก็อย่าเพิ่งไปทะเล่อทะล่า ไปล่อเป้า ล่อตีน ใครต่อใคร ให้ต้องเจ็บปวดรวดร้าว ทั้งร่างกายและจิตใจโดยใช่เหตุ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวัว กับควาย ที่คุ้นเคยกับการไล่ขวิด ไล่ชน อะไรก็ตามที่ขวางหน้าเพียงลูกเดียวเท่านั้น โดยวิสัยนักสู้วัวกระทิง อย่างมาทาดอร์ทั้งหลาย ย่อมพร้อมที่จะฉากไป-ฉากมา พลิ้วไป-พลิ้วมา จนกว่าวัวจะเหนื่อยในระดับเหงื่อตกกีบโน่นแหละ ถึงค่อยลงปฏัก เพื่อกระตุ้นสำนึกให้รู้ซะมั่งว่า ใครเป็นวัว ใครเป็นมนุษย์ กันแน่ ก่อนจะโค้งคำนับด้วยความสง่างาม เรียกเสียงกรี๊ดๆ กร๊าดๆ ซี้ดๆ ซ้าดๆ รอบๆ เวทีได้อีกต่างหาก...
                          ------------------------------------------------------
    เพราะถ้าดูจากสภาวะความเป็นไปทางธรรมชาติ หรือสภาวะความเป็นไปของมนุษย์ก็แล้วแต่...งานนี้ ยังไงๆ วัวมันย่อมต้องเหนื่อยระดับซี่โครงบานอยู่แล้วแน่ๆ!!! เพราะในแง่สภาวะความเป็นไปของมนุษย์นั้น ถึงจะไม่มีพวกที่สวมหน้ากาก พวกที่ไม่สวมหน้ากาก แต่พร้อมจะลุกฮือ ขึ้นมาเล่นงานรัฐบาล ของพวกหน้าเกือกแดงในทุกวันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...ต่างกำลังจองคิว จองกฐิน ชนิดไม่รู้กี่เจ้า ต่อกี่เจ้า ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ ชาวนา ชาวหอมกระเทียม มันสำปะหลัง ยางพารา ฯลฯ ซึ่งต่างพร้อมที่จะถอดหน้ากาก ลุกขึ้นมาเล่นงานรัฐบาล แบบตรงไป-ตรงมา ด้วยกันทั้งสิ้น ตามด้วยชาวธุรกิจ ชาวข้าราชการ ในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ที่นับวันชักจะเกิดความรู้สึกแบบเดียวกับ ประชาชนทนไม่ไหว ยิ่งเข้าไปทุกที...
                             -------------------------------------------------------
    ส่วนในแง่สภาวะความเป็นไปทางธรรมชาตินั้น...ว่ากันว่า หลังช่วงกลางเดือนกรกฎาฯ ไปจนถึงเดือนสิงหาฯ นอกจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ท่านจะกลับมามีฤทธิ์ มีแรง เหมือนอย่างเดิมแล้ว ร่องมรสุมที่เคยเด้งกลับไปอยู่ที่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ก็จะค่อยๆ ห้อยย้อยลงมาพาดผ่านตอนบนประเทศไทย อีกคำรบหนึ่ง ยิ่งไปถึงช่วงสิงหาฯ-กันยาฯ ด้วยแล้ว โอกาสที่จะเกิดพายุดีเปรสชันลูกใหม่ เข้ามาเยือนประเทศไทย แบบเดียวกับพายุเฮอริเคน ที่เข้ามาเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้ สร้างสถิติความหนักหน่วง รุนแรง ซะยิ่งกว่าปี 2554 ปีเดียวกับที่น้ำท่วมประเทศไทยไปแล้ว ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ช่วงนั้น...ยังโชคดี ที่พอหันไปโทษอำหม่ง อำมาตย์ หาว่าเป็นตัวปล่อยน้ำ มาทำลายรัฐบาลของพวกไพร่ เอาตัวรอดมาได้แบบหวุดๆ หวิดๆ แต่คราวนี้...ในเมื่อหัวหน้าไพร่รวบเงินกู้ 3.5 แสนล้านเอาไว้ในมือ แบบไม่คิดจะแบ่งใคร เอาเลยแม้แต่น้อย ปิดประตูนั่งจัดสรรเม็ดเงิน ทุกๆ บาท ทุกๆ สตางค์ กับพวกจีน พวกเกาหลี ชนิด พระยามังราย พุงพลุ้ย อย่างเห็นได้โดยชัดเจน เจอเข้ากับเรื่อง น้ำ แบบจะจะ จังๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ วัวกระทิงที่ว่าดุๆ...อาจถึงขั้นกอดเสาเข่าทรุด หน้าทิ่มพื้นเอาดื้อๆ!!!
                            --------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Talmage...Wise men are instructed by reason; men of less understanding by experience; the most ignorant by necessity; and beast by nature. - คนฉลาดมากเรียนรู้ด้วยเหตุผล คนฉลาดน้อยเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ คนไม่ฉลาดเลยเรียนรู้ด้วยความจำเป็นบังคับ เดียรัจฉานเรียนรู้ด้วยธรรมชาติ...
                             -------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น