วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หน้ากากขาว 'อย่าไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์' เปลว สีเงิน 24 June 2556

หน้ากากขาว 'อย่าไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์'


ต้องมองว่าเป็นการช่วยให้ชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และร่ำรวยขึ้นอย่างไร"
    ผมฟัง "ยิ่งลักษณ์พบประชาชน" แว่วๆ เมื่อวันเสาร์ ทั้งยิ่งลักษณ์ และทั้งกิตติรัตน์ "ต่างกรรม-ต่างวาระ" ก็คงพูดตามสคริปต์ที่ฝ่ายประดิษฐ์ "วาทกรรมหนังหนา" ของพรรค กำหนดให้นำไปใช้แก้ตัวเรื่องจำนำข้าวขาดทุนนับแสนล้าน
    ถ้าจะให้ตรงข้อเท็จจริง ยิ่งลักษณ์หรือทุกคนในพรรคเพื่อไทย ควรต้องพูดว่า....
    "อย่าไปมองเม็ดเงินขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวว่ามีการโกงกินกันเท่าไหร่ ต้องมองว่าเม็ดเงินนั้นทำให้ครอบครัวระบอบทักษิณร่ำรวยเพิ่มขึ้นกันคนละเท่าไหร่?"
    ตอนนี้ กระทั่ง "เห็บ" ยังโดดหนี โพลแล้ว-โพลเล่า ผลออกมามีแต่ผู้คนเชื่อว่า โครงการรับจำนำข้าวมีทุจริตโกงกินกัน 
    ยิ่งลักษณ์อ่านที่เขาเขียนมาให้อ่านเมื่อวันขึ้นเป็นนายกฯมิใช่หรือว่า "ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข" จากวันนั้น ถึงวันนี้ จะเข้าปีที่ ๒ เห็นมีแค่ ๒ แก้
    "แก้รัฐธรรมนูญ กับแก้ตัว"!
    ฟังให้ชัดนะ การช่วยเหลือชาวนาให้รวยขึ้นนั้น ไม่มีใครว่า ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำเช่นนั้น แต่ที่รัฐบาลเพื่อไทยทำขณะนี้ ประชาชนเขาลงความเห็นว่า 
    ๑.รับจำนำข้าวเปลือก ๑๕,๐๐๐/ตัน เป็นการอ้างชาวนาบังหน้า หาประโยชน์กันเองข้างหลัง ๒.ส่อทุจริต คอรัปชั่นในโครงการเห็นได้ชัด 
    ๓.จับได้ ยังเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการดำเนินโครงการทั้งกับองค์กรตรวจสอบของรัฐ และทั้งกับรัฐสภา และประชาชน 
    ๔.ใน ๑๐ ส่วน ชาวนาได้ ๔ ส่วน อีก ๖ ส่วน ข้าราชการ+นักการเมือง+พ่อค้า ร่วมมือทุจริตในโครงการ เงินงบประมาณอันมาจากภาษีกว่า ๖ แสนล้าน อ้างรับจำนำข้าว แต่ไม่สามารถสำแดงตัวเลขทางบัญชีได้เลย
    สรุปคือ ถ้าขาดทุนแล้วชาวนาได้เงินจำนวนนั้นไปจริงๆจากการขายข้าว จะปล่อยยิ่งลักษณ์ไป แต่ถ้าขาดทุนเพราะทุจริตคอรัปชั่นในโครงการ
    "จะแขวนคอยิ่งลักษณ์!"
    เอาหละ...สมมุติว่า ชาวบ้านเชื่อตามที่ยิ่งลักษณ์และนายกิตติรัตน์บอก ไม่ใช่การขาดทุน แต่เป็นการช่วยเหลือชาวนาให้ร่ำรวยขึ้น
    เมื่อทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีคลังยืนยันเช่นนั้น โปรดนำหลักฐานมาแสดง เมื่อ "ภาคประชาชน" ตรวจสอบแล้ว ถ้าตัวเลขขาดทุนนั้น ตรงหรือใกล้เคียงกับตัวเลขเงินที่ชาวนาได้ และตรงกับยอดจำนวนข้าวสารที่ขายและเหลือ
    ผมจะกราบหว่างขายิ่งลักษณ์และนายกิตติรัตน์ เป็นการขอโทษ! 
    แต่ถ้าไม่ตรง ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์ ต้องคุกเข่ากลางสี่แยกราชประสงค์ พนมมือ แล้วตะโกน ข้า...นางสาว ข้า....นาย....ขอสำนึกในความเป็นคนคดในข้อ-งอในกระดูก จะไม่โกงชาติ โกงแผ่นดิน โกงประชาชน อีกต่อไป     
    แล้วกราบ!
    หลักฐานที่ยิ่งลักษณ์และนายกิตติรัตน์ควรต้องนำมาแสดงต่อภาคประชาสังคม คือ 
    -ยอดเงินที่ใช้นาปี-ปรัง ปี ๕๔/๕๕ และปี ๕๕/๕๖ ทั้งหมดเท่าไหร่
    -ซื้อข้าวเปลือกทั้งหมดได้กี่ตัน เป็นข้าวสารในมือรัฐทั้งหมดเท่าไหร่
    -ขายจีทูจีแล้วกี่ตัน ขายให้ใคร ราคาเท่าไหร่ สำแดงเอกสารหลักฐาน
    -ขายพ่อค้าเอกชนภายในให้ใครบ้าง กี่ตัน ราคาเท่าไหร่
    -ข้าวบริจาค ข้าวช่วยภัยพิบัติ ข้าวขายให้หน่วยงานรัฐ ทั้งหมดเท่าไหร่
    -ข้าวธงฟ้า ข้าวถูกใจ ข้าวแจกการเมือง ทั้งหมดเท่าไหร่
    -ขายให้พ่อค้าถูกๆ นำไปบรรจุถุงขายแพงๆ ทั้งหมดเท่าไหร่
    -ข้าวสารเหลือตามโกดัง อคส.-อ.ต.ก.ทั้งหมดขณะนี้มีจำนวนเท่าไหร่
    -เฉพาะยอดข้าวเปลือกกับยอดเงินซื้อข้าวเปลือกแต่ละฤดูกาล เท่าไหร่ 
    -ค่าบริหาร-ค่าธุรการ-ค่าดูแลรักษา-ค่าปรับคุณภาพ-ค่าเช่าโกดัง เท่าไหร่
    -ขายข้าวได้คืนมาแล้วเท่าไหร่ แสดงเอกสารซื้อ/ขาย
    -รวมขาดทุน/กำไรเท่าไหร่
    -ข้าวเหลือคาโกดังทั้งหมดขณะนี้ กี่ตัน
    -ปลายข้าว-ข้าวหัก มีเท่าไหร่ ขายและเหลือเท่าไหร่
    ครับ...คร่าวๆ แค่นี้ก่อน รัฐบาลโดยยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์-บุญทรง ต้องเอาตัวเลข หลักฐาน เอกสาร มาสำแดงต่อสาธารณะ ถ้าไม่นำมาแสดง จะถือว่า "จำนนด้วยข้อเท็จจริง" ซึ่งเท่ากับสารภาพว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ๑๕,๐๐๐/ตัน 
    รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทุจริต!
    เม็ดเงินที่ขาดทุนนับแสนๆ ล้านนั้น ไม่ได้ไหลไปอยู่ที่ชาวนาจนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และร่ำรวยขึ้นตามที่รัฐบาลอ้าง ตรงกันข้าม นักการเมือง+ข้าราชการ+พ่อค้าระบอบทักษิณต่างหาก มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และร่ำรวยขึ้น!
    ที่หาเสียงรับจำนำทุกเม็ดเกวียนละหมื่นห้านั้น ไม่ใช่ตัวเลขที่ชาวนาร้องขอ หรือบีบคั้นให้รัฐบาลทำ หากแต่ "ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ" เสนอเพื่อแลกคะแนนนิยมเอง ลองฟังที่ตัวแทนชาวนาไทย "นายรังสรรค์ กาสูลงค์" พูดกลางวงเสวนาที่สถาบันอิศรากับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์จัดขึ้นเมื่อวาน(๒๓ มิ.ย.) ก็ได้
    "วันที่ ๒๕ มิ.ย.นี้จะเดินทางพร้อมมวลชนไปยื่นหนังสือถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะชาวนาไม่ยอมรับการปรับลดราคาเหลือตันละ ๑๒,๐๐๐ บาท แต่เห็นด้วยกับรายละไม่เกิน ๕ แสนบาท เพราะชาวนาส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ชาวนาเองก็ไม่ได้เรียกร้อง ๑๕,๐๐๐ บาท ตอนนั้นเอามาให้เอง เมื่อเอามาแล้ว ต้นทุนก็เพิ่มขึ้น ค่าเช่านาจากไร่ละ ๕๐๐-๗๐๐ บาท ปัจจุบันขึ้นไป ๑,๐๐๐-๑,๕๐๐ บาทต่อปี บางรายมีการเก็บค่าเช่าทุกครั้งที่ทำนา เมื่อขอให้ลดต้นทุน ชาวนาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะค่าแรงงานมันขึ้นไปแล้ว...."     
    การทุจริต "ข้าวถุง" เป็นล้านๆ ตัน นี่เป็นอีกเรื่องที่เรียกว่ารัฐบาล "จำนนด้วยหลักฐาน" พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา ซึ่งท่านไปตรวจสอบขั้นตอนระบายข้าวในประเทศพบเข้า 
    "กรณีระบายข้าวราคาถูกเพื่อประชาชนไม่โปร่งใส มีการอนุมัติแล้ว ๒.๕ ล้านตัน ผลิตเป็นข้าวถึง ๕๐๐ ล้านถุง ผ่านสามช่องทาง ช่องแรก ร้านค้าถูกใจ ของกระทรวงพาณิชย์ ๕กก.ถุงละ ๗๐ บาท ช่องสอง ร้านถูกใจและธงฟ้าจังหวัดต่างๆของกรมการค้าภายใน แต่ไม่มาก
    ช่องสาม เอาข้าวราคาถูกเพื่อประชาชนนั้นไประบายช่องทางร้านค้าทั่วไป ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของโครงการลดค่าครองชีพประชาชน เมื่อไปตรวจก็พบว่ามี ๓ บริษัททำสัญญาซื้อจาก อคส. ทำให้เอกชนมีส่วนต่างกำไรมูลค่ามากกว่า ๑.๕ หมื่นล้าน...."
    ก็ทำไมจะไม่กำไรล่ะ ต้นทุนตันละ ๑๕,๐๐๐ ขายให้ ๓ บริษัทเอาไปทำข้าวถุงตันละ ๗,๕๐๐ บริษัทเอาไปกรอกถุงขายถุงละ ๘๐-๙๐ บาท จาก ๗๐ บาท ฟันส่วนต่างเป็นกำไรเห็นๆ ๑๕,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ ล้านบาท!
    แล้วนี่ เห็นรัฐมนตรีไพร่ตะโกนบอกโจรให้รู้ตัวล่วงหน้า ๗ วันว่า...กูจะส่งคนไปตรวจโกดังนะโว้ย จะแต่งตัวรอตรวจกันทันหรือไม่ทันก็ช่างเถอะ พูดถึงตัวเลขทั้งที่หายทั้งโกดัง ทั้งที่ไม่หาย รวมแล้ว ตัวเลขจะเกินจำนวนข้าวเปลือกที่ซื้อจากชาวนาไทยไม่หนี ๒-๓ ล้านตัน
    เสาร์หน้ายิ่งลักษณ์ต้องจีบปาก-จีบคอพบประชาชนใหม่กระมังว่า...."เงินนับแสนล้านไม่ฉิบหายไปไหน นอกจากช่วยให้ชาวนาไทยร่ำรวยแล้ว ชาวนาเขมร และชาวนาลาว สมคบพ่อค้าระบอบทักษิณขนมาขายก็ร่ำรวยขึ้นด้วย"!
    หน้ากากขาว V for Thailand ไม่ต้องไปไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่จงเรียกร้องให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ นำหลักฐานทางบัญชีโครงการรับจำนำข้าวมาแสดง เพื่อเคลียร์ยอดเงินกับยอดข้าว ว่าสมดุลทางบัญชีกันไหม?
    และข้าวสารที่เก็บ "เต็มสุสาน" นับวันเสื่อมทั้งคุณภาพและราคาขณะนี้ ยิ่งลักษณ์จะบริหาร-จัดการ ก่อนเป็นข้าวเน่าที่ต้อง "เผาทิ้ง" อย่างที่เคยเผาไปแล้วอย่างไร?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น