‘หน้ากากโจร’ขวางชุมนุม ปูดเท้าที่สี่ยำหน้ากากขาว
พท.เขย่าขวัญชุมนุมใหญ่หน้ากากขาว ชี้โพรงมือที่สามสร้างสถานการณ์ รัฐผวาเพิ่มขึ้นผิดปกติ อัดพวก "หน้ากากผี" ล้มรัฐบาล ใช้หน่วยความมั่นคงเกาะติดกลุ่มลงขันหนุน ปชป.จี้รัฐดูแลความปลอดภัย จวกแดงถ่อยสร้างความรุนแรง
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีการนัดชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวในวันที่ 23 มิ.ย.ว่า ในการชุมนุมครั้งนี้มีความพยายามปล่อยข่าวของคนในรัฐบาลว่าจะเป็นการชุมนุมที่นำไปสู่ความรุนแรง จากการกระทำของมือที่สาม ดังนั้นหากรัฐบาลมีข้อมูล ก็ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของรัฐบาลในการดูแลความสงบของบ้านเมืองและผู้ชุมนุม แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กังวลคือ พฤติกรรมของคนเสื้อแดงที่ไปก่อกวน รังควานการชุมนุม หรือการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มอื่นๆ อยู่เป็นประจำ โดยมักใช้พฤติกรรมเถื่อน ก่อให้เกิดความรุนแรง ทั้งในเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ และการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว
"จึงขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาระดับสูง หากอยากเห็นบ้านเมืองสงบตามที่นายกฯ ต้องการในงานอวยพรวันเกิด ก็ควรสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่เตือนภัย แต่ควรช่วยกันให้การชุมนุมของประชาชนที่ใช้สิทธิตามกฎหมายสามารถดำเนินการได้ และต้องพยายามทำให้ทุกคนที่อยู่ใต้กฎหมายไทย อย่าปล่อยให้ใครละเมิดกฎหมาย ด้วยการใช้ความรุนแรง" นายองอาจระบุ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกลุ่มการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงพบว่ามีหลายหน่วยงานกำลังแตะมือกัน ซึ่งไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดา ซึ่งในการข่าวเชิงลึกเราพยายามหาว่าใครกันที่จะล้มล้างรัฐบาล อย่าไปเรียกว่า "หน้ากากวี" ขอให้เรียกว่า "หน้ากากผี" จะดีกว่า เพราะไม่ยอมเปิดเผยโฉมหน้า เอาแต่จะโค่นล้มรัฐบาล โค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งไม่มีอยู่จริง ขออย่าไปร่วมกับคนพวกนี้
ส่วน ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนว่าอย่าไปร่วมชุมนุมนั้น เป็นเพียงการเตือนให้เกิดการระวังตัว อย่ามอง ร.ต.อ.เฉลิมในแง่ร้าย ดังนั้นขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยง อย่าออกมาร่วมชุมนุม เพราะจะสุ่มเสี่ยงต่ออันตราย เนื่องจากอาจมีมือที่สาม เท้าที่สี่ ออกมาสร้างสถานการณ์ได้ ซึ่งจากการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงพบว่าขณะนี้มีการขยายตัวในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ โดยเชื่อว่าน่าจะมีการลงขันของกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงได้
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวบริเวณแยกราชประสงค์ในวันที่ 23 มิ.ย.ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ห้ามผู้ใดมาชุมนุม รวมทั้งขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและประชาชนที่สัญจรไปมา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอยากให้การชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมาย และเป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่เกรงว่าจะมีการสร้างสถานการณ์นั้น คงต้องติดตามสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ดูแลเรื่องนี้อยู่
"รัฐบาลมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ มาตลอด เป็นการแสดงออกของประชาชนก็คงไม่มีปัญหาอะไร และก็คงไปห้ามไม่ได้ แต่ในส่วนเจ้าหน้าที่ก็ดูแลเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และให้เป็นไปตามกติกา" นายธีรัตถ์กล่าว
วันเดียวกัน นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เปิดเผยถึงปฏิทินการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป วันที่ 1 สิงหาคม ว่า สัปดาห์แรกจะเป็นวาระการพิจารณากระทู้ถาม ส่วนสัปดาห์ที่ 2 และ 3 เป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน
ส่วนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม จึงจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ซึ่งจะหยิบฉบับแก้ไขที่มา ส.ว. เข้ามาพิจารณาก่อนเป็นเรื่องแรก ซึ่งคงพิจารณาไปเรื่อยๆ เน้นให้ทุกฝ่ายพึงพอใจ โดยคาดว่าจะทันใช้สำหรับการเลือกตั้ง ส.ว.ในปี 2557 หลังจากนั้นในเดือนกันยายน ก็น่าจะเป็นวาระการแถลงผลงานของรัฐบาล นอกจากนี้อาจมีการนำ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ประสานมา ประกอบกับต้องดูสถานการณ์การเมืองในขณะนั้นด้วย แต่อย่างไรก็ดี การประชุมใน 3 สัปดาห์แรกถูกบังคับด้วยข้อกฎหมายการพิจารณางบประมาณภายใน 105 วัน ซึ่งฝ่ายค้านคงไม่ขัดข้อง
เมื่อถามว่า แนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ พ.ร.บ.ปรองดอง จะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า เรื่องของมาตรา 68 ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญขณะนี้ก็ไม่น่ามีปัญหา การประชุมสภาก็สามารถดำเนินไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าถามฝ่ายค้านในเรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่ายุบสภาอยู่แล้ว แต่คิดว่าปัญหาเรื่องนี้น่าจะชี้แจงให้เข้าใจได้ ขณะเดียวกันการที่กลุ่มหน้ากากขาวพยายามล้มล้างรัฐบาล หากรัฐบาลมีความชอบธรรม สามารถบริหารประเทศได้ก็ไม่น่ามีปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีว่า ในช่วงเช้าและบ่ายได้พักผ่อนอยู่ในบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 โดยไม่มีภารกิจเดินทางไปไหน โดยยังมีผู้นำกระเช้าดอกไม้และของขวัญมามอบให้เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 46 ปีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในช่วงเย็น นายกฯ ได้เดินทางไปร่วมงานฉลองมงคลสมรสของ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาว ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของนางเยาวเรศ ชินวัตร ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น