วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อ้อมแอ้มรับขาดทุนบ้างรับจำนำข้าว ปชป.ฉะบิดเบือน เมื่อ 12 มิ.ย.56

อ้อมแอ้มรับขาดทุนบ้างรับจำนำข้าว ปชป.ฉะบิดเบือน


“วราเทพ” เร่งเคลียร์ปมร้อนเจ๊งจำนำข้าว เรียกทุกหน่วยงานป้อนข้อมูลก่อนสรุปตัวเลขขาดทุนชงเข้า ครม. 18 มิ.ย.นี้ อ้อมแอ้มยอมรับมีขาดทุนบ้าง ขณะที่ “เต้น” ย้ำรอ กขช.เคาะตัวเลขเจ๊ง 13 มิ.ย.นี้ ฉะ ปชป.อย่าบิดเบือน ด้าน “พท.” เชื่อจำนำข้าวไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล เย้ย ปชป.รุมขย้ำเหนื่อยเปล่า ส่วน “ปชป.” กัดไม่ปล่อย เปิดมินิซีรีส์ “ข้าวภาค 2 ตอนฉีกหน้าจอมบงการ” แฉสิ้นขบวนการ-เส้นทางโกง ซัดตั้งวราเทพฟอกจำนำข้าว แค่หวังตบแต่งบัญชีขาดทุน เตือนความน่าเชื่อถือไทยหดหายแน่ ฉะนายกฯ อย่าลอยตัว จี้เลิกโกหก-เปิดข้อมูล-ทบทวน ขณะที่ “ทักษิณ” โพสต์เฟซบุ๊คอ้างอยู่อเมริกา โถบอกจนเพราะเล่นการเมือง งั้นรวยติดอันดับท็อป 5 โลกแล้ว กล้าพูดไม่เสียใจถูกยึดทรัพย์ที่หามา แถมภูมิใจได้รับใช้ชาติ-ช่วยคน
“วราเทพ” เรียกดูข้อมูลจำนำข้าว
หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ออกมาสู่สาธารณชน หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถชี้แจงตัวเลขขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลได้นั้น วันที่ 11 มิ.ย. เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ครม. มอบหมายรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลทันที ประกอบด้วยตัวแทนจากอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และตัวแทนจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตร กระทรวงการคลัง ที่ห้องทำงาน ชั้น 1 ตึกบัญชาการ ภายหลังใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง นายวราเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลที่ได้เป็นเอกสารจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน แต่เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก ต้องใช้เวลาตรวจสอบว่าวิธีการรายงาน เอาข้อมูลทุกฝ่ายมารวบรวมและประมวลผลเพื่อให้ได้ความหมายเดียวกัน โดยเฉพาะตัวเลขขาดทุนที่เป็นตัวเลขจำนวนมากที่ปรากฏอยู่ มีการคิดอยู่บนฐานการเทียบเคียงเหตุผลเดียวกันหรือไม่ และภายใน 2-3 วันนี้ตนจะเรียกประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ให้ข้อมูล หลัง น.ส.สุภากลับจากต่างประเทศ
ยอมรับมีขาดทุนบ้าง
นายวราเทพ กล่าวว่า การขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีแน่นอน แต่ต้องมาดูสาเหตุว่าการขาดทุนเกิดจากอะไร ทั้งจากความแตกต่างราคาจำนำ ต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และจากเหตุผลที่ว่ารัฐบาลได้มีการะบายข้าวทั้งการบริจาคและจำหน่ายในราคาถูกด้วย ซึ่งเป็นต้นทุนที่ต้องนำมาอธิบายให้ชัดเจน และดูว่าการขาดทุนมีเหตุมีผลหรือไม่ สุดท้ายแล้วราคาข้าวคงเหลือจากจำนวนข้าวที่ยังไม่ได้ขายออกไปในแต่ละหน่วยงานคิดในราคาอยู่ที่เท่าไหร่ มีการคิดในราคาต้นทุน คิดราคาในปัจจุบัน หรือคิดในราคาค่าเฉลี่ย ซึ่งยังเป็นการคิดที่ไม่ตรงกัน ต้องพูดคุยเหตุผลเดียวกันก่อน โดยจะเป็นตัวเลขที่ตัดในวันที่ 31 ม.ค.56 แต่ยืนยันตัวเลขแก้ไขไม่ได้ อยู่ในการให้เหตุผลและคิดในฐานเดียวกัน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และรายงานความคืบหน้าข้อมูลเบื้องต้นในการประชุม ครม.ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ส่วนจะได้เป็นตัวเลขครั้งสุดท้ายขอหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
“เต้น” ย้ำตัวเลขเจ๊งจำนำข้าว 18 มิ.ย.รู้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตัวเลขการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวจะเป็นเท่าไร ยังต้องรอการสรุปจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ก่อนเท่านั้น ซึ่งในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาตัวเลขทางบัญชีที่ทางคณะอนุกรรมการปิดบัญชีส่งข้อมูลมาให้ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ส่วนกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้นายวราเทพเป็นผู้ชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ไม่ใช่การหักหน้ากระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นการช่วยบูรณาการข้อมูลจากทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงภาคเอกชนและภาคสังคม เพื่อให้ข้อมูลออกมาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ไม่ได้ของบประมาณเพิ่มอีก 500,000 ล้านบาท แต่ยังเป็นการใช้วงเงินหมุนเวียนเดิมที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านระบุว่า ธ.ก.ส.หยุดจ่ายเงินให้เกษตรกรนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และต้องการให้ฝ่ายที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการนี้ว่าขาดทุนหลายแสนล้านบาทต่อปี พูดบนพื้นฐานความเป็นจริง และมีที่มาที่ไปด้วย เพราะจะยิ่งทำให้ประเทศชาติเสียความน่าเชื่อถือหากข้อมูลที่ออกมามีความบิดเบือน ดังนั้น รัฐบาลจะยังเดินหน้าจัดโครงการจำนำข้าวสัญจร จับเข่าคุยเกษตรกรชาวนาต่อไป เพราะได้รับการตอบรับดี และเป็นเวทีชี้แจงการดำเนินงานให้เกษตรกรได้เข้าใจมากขึ้น
“บุญทรง” โต้ของบจำนำข้าวเพิ่ม 5 แสน ล.
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้อนุมัติงบเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาทตามที่มีข่าวออกมาอย่างไร และขอยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวยังคงดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นเงินหมุนเวียน ธ.ก.ส. 9 หมื่นล้านบาท และวงเงินที่กระทรวงการคลังจัดหาอีก 4.1 แสนล้านบาท ส่วนการประชุม กขช.วันที่ 13 มิ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาตัวเลขทางบัญชีที่ทางคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ส่งข้อมูลมาให้ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง แต่ผลประชุมไม่จำเป็นต้องรายงานตรงต่อนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ขอปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่เคยทำเอกสารประเมินการขาดทุนล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2554 ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา ส่วนการตั้ง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กลับมาเป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีใหม่ ขอไม่แสดงความคิดเห็น
เชื่อจำนำข้าวไม่ทำรัฐบาลล้ม
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนต่างๆ ที่มีมากในช่วงนี้นั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมประชาธิปไตยที่จะออกมาคัดค้านรัฐบาล บางส่วนออกมาเพราะมีปัญหาเดือดร้อนจริง บางส่วนออกมาเพราะมีความคิดเห็นที่ต่างออกไป ซึ่งตรงนี้รัฐบาลก็ได้มอบหมายให้ รมต.ที่รับผิดชอบชี้แจงอยู่ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว ก็เป็นคนหน้าเดิมๆ ที่มารวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เราไม่ได้ห่วงว่าจะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล แต่ที่ห่วงคือการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ ซึ่งไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าทหารจะไม่ออกมาปฏิวัติแน่นอน ส่วนเรื่องโครงการจำนำข้าวที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ตนมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแน่นอน ก็ต้องทำความเข้าใจว่าข้อมูลตัวเลขที่ออกมานั้นยังไม่ชัดเจน เพราะมีการไปรวมพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ด้วย ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ ก็ได้มอบหมายรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงแล้ว เรื่องจำนำข้าวไม่ทำให้รัฐบาลล้มแน่นอน ที่จริงเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องกำไรขาดทุนให้มากเลย ประเด็นเดียวที่เราต้องกังวลคือเรื่องการทุจริตต้องไม่ให้มี หรือถ้ามีก็ต้องจัดการทันที
เย้ย ปชป.รุมขย้ำเหนื่อยเปล่า
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาล กำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการรวบรวมข้อมูลตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาปกปิดข้อมูล เพียงแต่ชุดข้อมูลบางตัวนั้นมีความละเอียดอ่อนในเวทีการค้าข้าวในทุกระดับ ก่อนเปิดเผยต้องตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบเสียก่อน แต่บอกไม่ได้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลได้เมื่อไหร่ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่รู้จัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดีพอ ท่านจริงจัง รู้จริง ในการแก้ปัญหา ไม่ได้ลอยตัวเหนือปัญหา และมั่นใจเสมอว่า จะแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ในไม่ช้า ขอเตือนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายอภิสิทธิ์ผู้นำฝ่ายค้านและลูกหาบ ที่ดาหน้าออกมาถล่มเปิดแผลการทุจริตคอรัปชั่นจำนำข้าว รุมก็จะเหนื่อยเปล่า เพราะจะไม่เกิดผลใดๆ ถ้าแน่จริง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาประกาศเลยว่า จะยกเลิกโครงการจำนำข้าวทั้งหมดทันที
“มาร์ค” จี้รัฐพูดความจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล ว่า การตั้งนายวราเทพ เป็นผู้รวบรวมข้อมูลจำนำข้าวนั้น เห็นว่าข้อมูลที่นายวราเทพจะนำมาชี้แจงก็เป็นข้อมูลชุดเดิม ซึ่งไม่ติดใจว่าใครจะชี้แจง แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง โดยต้องตอบว่าตัวเลขที่กระทรวงการคลังเคยนำเสนอในการปิดบัญชี ต้องแก้ไขเพราะอะไร ถ้าข้อมูลไม่ตรงก็ต้องเอาข้อมูลมาหักล้างได้ว่าทำไมถึงไม่ตรง และถ้าข้อมูลเป็นอย่างนั้นเหตุใดรัฐบาลยังเดินหน้าโดยไม่สนใจว่ามันสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะลุกลามบานปลายกันต่อไป ขณะนี้ตนได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลขค่าบริหารจัดการที่มาจากตัวเลขงบประมาณจ่ายขาดให้ ธ.ก.ส. เช่น การจำนำข้าวปี 2554/55 เป็นตัวเลขขาดทุนน้อยที่สุดใน 3 ฤดูกาลปลูกข้าวที่ผ่านมาในรัฐบาลนี้ เฉพาะฤดู 2554/55 กำลังมีการของบประมาณให้ ธ.ก.ส. เพื่อไปชดเชยดอกเบี้ย เฉพาะดอกเบี้ย 15,000 ล้านบาท จ่ายขาดให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อนำไปชดเชยภาระดอกเบี้ยอย่างเดียวในฤดูกาลเดียว รวมแล้วเป็นก้อนที่บอกว่า 4 หมื่นกว่าล้านบาท โดยจะมีค่าขนข้าว ค่าบริหารทั่วไป ชดเชยภาระดอกเบี้ย ชดเชยต้นเงิน จึงอยากให้รัฐบาลอธิบายด้วย เพราะปีที่ผ่านมามีการขอดอกเบี้ยจ่ายขาดจากงบประมาณแล้ว 2 หมื่นล้านบาท จึงไม่เชื่อว่าตัวเลขนี้รวมอยู่ในตัวเลขขาดทุนที่มีการประเมินกันอยู่
เปิดเส้นทางโกงจำนำข้าว
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่มีใครเคยเห็นข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ เห็นแต่ข้อมูลของกระทรวงการคลัง โดยการเห็นหรือทราบก็ทราบอย่างไม่เป็นทางการ และคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้นมาโดยนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกใช้อำนาจหน้าที่ตามที่นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) แต่แปลกใจว่าเหตุใดทางรัฐบาลพยายามอ้างว่าข้อมูลแต่ละกระทรวงต่างฝ่ายต่างพูด จึงไม่ตรงกัน และเมื่อรัฐบาลเป็นคนแต่งตั้งทำไมรัฐบาลจึงไม่ฟังข้อมูลของคณะกรรมการชุดนี้ เหตุที่รัฐบาลตั้ง นายวราเทพ มาดูแลข้อมูลฟังไม่ขึ้น ดูเหมือนมีเจตนาตบแต่งบัญชีเพื่ออำพรางตัวเลขการขาดทุนของรัฐบาล อยากเตือนไปยังรัฐบาลว่า หากยังเดินหน้าในรูปแบบนี้อยู่ หมายถึงเครดิตและความน่าเชื่อถือของทางรัฐบาลและของประเทศ หากเป็นไปได้ควรล้มเลิกโครงการแล้วเดินหน้าตามกระบวนการปกติที่มีอยู่ แล้วเอาข้อมูลจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเข้าสู่ที่ประชุม กขช. แล้วชี้แจงให้ประชาชนทราบ แล้วชี้แจงต่อประชาชนว่า รัฐบาลพร้อมจะรับผิดชอบอย่างไร และอยากให้รัฐบาลเร่งทบทวนวิธีการทั้งหมด ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในระหว่างการแถลงข่าว น.พ.วรงค์ ได้นำคลิปวีดีโอที่เกี่ยวกับเส้นทางการฉ้อโกง โครงการรับนำนำข้าวมา เปิดให้สื่อมวลชนได้ชมด้วยโดยใช้ชื่อเรื่องว่า “ข้าวภาค 2 THE RICE EPISODE 2 ตอนฉีกหน้าจอมบงการ” พร้อมอธิบายเส้นทางว่าเชื่อมโยงถึงใครอย่างไรด้วย
ซัด “ปู” อย่าลอยตัวเหนือปัญหา
นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแถลงและการพูดถึงตัวเลขในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น สร้างความสับสนและทำให้ประเทศขาดความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น ซึ่งการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาปฏิเสธว่า ไม่รู้ว่าความเสียหายของโครงการเท่าไหร่นั้น เป็นการเล่นละครทั้งสิ้น เพราะ ครม.ได้รับหนังสือรายงานการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2554/55 และพิจารณาปริมาณและวงเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 จากกระทรวงการคลังในวันที่ 3 ต.ค.55 ซึ่งหนังสือฉบับดังกล่าวระบุชัดว่าการจำนำปี 2555/56 นั้น หากสามารถระบายข้าวในโครงการได้ภายใน 3 ปีจะมีภาระขาดทุนเฉลี่ย 2.2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นที่รับรู้ของ ครม.ก่อนที่จะอนุมัติโครงการจำนำปี 2555/56 สมมุติฐานที่บอกว่าว่าจะขายข้าวภายใน 3 ปีนั้น วันนี้เห็นชัดว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่มีปัญญา ฉะนั้นจะทำให้ภาระการขาดทุนเกิน 2.2 แสนล้านบาทต่อปี แน่นอน ดังนั้น ตัวเลขปิดบัญชีแล้วขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และรัฐบาลอย่าทำเป็นไม่รู้ นายกฯ ทราบข้อมูลทั้งหมด เพราะเป็นคนนั่งหัวโต๊ะอนุมัติโครงการทั้งที่รู้ว่าจะเสียหาย 2.2 แสนล้านบาทต่อปี ทั้งนี้นายกฯ จะนั่งเฉยๆ ไม่ได้ เพราะมีหน้าที่สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ให้ข้อมูลกับทุกฝ่าย นายกฯ อย่าลอยตัว
อัด ครม.โยนภาระให้ ธ.ก.ส.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ ครม.อนุมัติให้ ธ.ก.ส.รับภาระในการกู้เงินมาสำรองจ่าย โครงการจำนำข้าว เป็นการผลักภาระโครงการฯ ทั้งหมดให้ ธ.ก.ส. โดยเงินกู้ส่วนดังกล่าวกระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำประกันให้ นอกจากนั้นเงินกู้ดังกล่าว จะถูกแยกบัญชีออกไป เพื่อให้บันทึกนอกภาระงบประมาณ และไม่รวมในเงินทุนที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ชัดเจนว่าเป็นการโยนภาระให้ ธ.ก.ส.กู้ และยังสั่งให้ซุกหนี้ ไม่ให้เป็นภาระงบประมาณเพื่อไม่ให้ปรากฏในหนี้สาธารณะ รวมทั้งไม่ให้อยู่ในสินทรัพย์เสี่ยงด้วย จึงมีความชัดเจนว่าระบบการเงินของประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ ซึ่งจะกระทบไปถึงความน่าเชื่อถือของประเทศด้วย ตนเชื่อว่า เมื่อมูดี้ส์เห็นมติ ครม.ดังกล่าว รวมถึงการใช้เงินกว่า 6 แสนล้านบาท ที่ขัดกับมติ ครม.ซึ่งกำหนดวงเงินไว้ที่ 5 แสนล้านบาท จะยิ่งไม่เชื่อถือประเทศไทยมากขึ้น และพรรคจะตรวจสอบด้วยว่าการที่เอาเงินระบายข้าวมาใช้หมุนเวียนในโครงการนั้นเป็นการทำก่อนแล้วมาออกมติ ครม.ย้อนหลังหรือไม่ และจะพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าว ผิดต่อ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ และระเบียบและหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายงบประมาณหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้จะปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อนำ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาบังคับใช้ เพื่อยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์ ให้เปิดเผยตัวเลขผลผลิตการรับจำนำข้าว ปริมาณข้าวในสต๊อก การระบายข้าว ราคาที่กระทรวงพาณิชย์จำหน่าย และตัวเลขการขาดทุนของโครงการดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่เรื่องลับ และเป็นสิ่งที่ประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของเงินมีสิทธิ์รับทราบ เพื่อที่พรรคจะได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
พณ.ยังไม่ส่งตัวเลขให้ ป.ป.ช.
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากทางกระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่ดูแลโครงการนี้ไม่ได้ส่งตัวเลขการรับจำนำข้าวมาให้ทาง ป.ป.ช.ตรวจสอบ จนไม่สามารถที่จะสอบสวนต่อได้ โดยทาง ป.ป.ช.ได้เร่งรัดให้ทางสำนักเลขาฯ ทวงถามข้อมูลไปยังกระทรวงพาณิชย์แล้ว ซึ่งหากยังไม่ได้รับความร่วมมือ จะมีมาตรการดำเนินการฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ยังปกปิดตัวเลขการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ป.ป.ช.ได้ติดตามตรวจสอบอยู่เช่นกัน
“ทักษิณ” อ้างไม่เสียใจถูกยึดทรัพย์
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว Thaksin Shinawatra ระบุว่า สวัสดีประเทศไทยครับ วันนี้ผมอยู่ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเรื่องราวเล่าให้ฟังสงสัยจะยาวหน่อย เพราะเป็นเมืองที่เป็นความทรงจำที่มีความหมายกับชีวิตของผมหลายเรื่อง เรื่องแรกที่อยากจะเล่าก็คือ ถ้าผมจำไม่ผิด ราวๆ วันที่ 6 ต.ค.37 (1994) ผมได้รับเชิญมาพูดในงานของบริษัท Lehman Brothers ให้นักลงทุนของบริษัทนี้ฟัง มีผู้พูดที่สำคัญหลายคน คนหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ Mr.Carlos Slim ซึ่งเป็นคน Mexico ขณะนั้นเขาเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจโทรคมนาคมที่ Mexico ผมเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจนี้ที่ประเทศไทย ขนาดของธุรกิจและความรวยก็พอกัน เพราะ Forbes magazine ปี 1993 ประเมินว่า ผมมีเงินและหลักทรัพย์รวมกันในขณะนั้นประมาณ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ พอๆ กับนาย Carlos Slim สิ่งที่อยากเล่าก็คือชีวิตที่เปลี่ยนไปของผม คือ ผมกลับไปเป็น รมต.ต่างประเทศในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน แต่ Mr.Carlos หลังจากเจอกันแล้ว แกกลับไปขยายกิจการไปยังอีกหลายประเทศ จนถึงทุกวันนี้ แกรวยอันดับ Top 5 ของโลก แต่ผมติดกับอยู่ในการเมือง ถูกยึดทรัพย์ที่หามา จนไปเยอะ ถามว่าผมเสียใจไหม คงไม่ เพราะอดีตเอาคืนไม่ได้ แต่ผมภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติและช่วยคนจำนวนมากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะรวยมากก็ไม่ได้ใช้อะไรมาก พรุ่งนี้จะเล่าต่อว่า รวยมากดี แต่มันเป็นอย่างไร และเกี่ยวกับนิวยอร์กอีกเช่นกัน
“คำนูณ” ยื่นโน้ตคนไทยไม่ต้อนรับทักษิณ
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ส.สรรหา ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ส่วนตัวเกี่ยวกับสถานการณ์ที่มีคนไทยชุมนุมประท้วงต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคำพิพากษาศาล ที่เดินทางมาพักที่โรงแรม Fairmont Washington D.C.,Georgetown เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า อาจจะเดินทางมาพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และเพื่อเจรจากับนักลงทุนอเมริกัน ก่อนหน้าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกา ระบุว่า แม้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจ แต่วันนี้คนไทยใน ดี.ซี.ที่รวมตัวกันในนาม Thai D.C. Forum ก็แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่รักชาติ กล้าต่อสู้ ไม่นิ่งเฉย เมื่อเห็นความไม่ถูกต้องปรากฏอยู่ต่อหน้า ฝ่าฝนหนักกันมาประมาณ 40 คน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร ที่หน้าโรงแรมแฟร์มอนท์ เมื่อช่วงสองทุ่ม เวลาท้องถิ่น ดี.ซี. ก่อนหน้านั้น ผู้ประสานงานกลุ่มได้เดินเข้าไปในล็อบบี้ แต่การ์ดตัวโตเข้ามาบอกว่า โรงแรมขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ให้บริการ โต้เถียงและเจรจาอยู่พักใหญ่ที่ไม่เป็นผล ในที่สุด ผู้ประสานงานอีกคนหนึ่งได้ฝากโน้ตถึงทักษิณ ชินวัตร บอกเล่าถึงวัตถุประสงค์ที่มา ก่อนจะออกปฏิบัติการข้างนอก
ทบ.ปัด ประยุทธ์พบแม้วที่อเมริกา
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของกองทัพบกสหรัฐ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่มีมานานกว่า 100 ปี ถือว่าเป็นพันธมิตรเก่าแก่ ทั้งได้มีการเรียนรู้การพัฒนาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ความร่วมมือสนับสนุนในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการฝึกศึกษาเรื่องยุทโธปกรณ์ กำลังพล ภารกิจทางทหารที่ไม่ใช่การสงคราม อีกทั้งการเดินทางไปในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้รับมอบอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติ LEGION OF MERIT จากกองทัพบกสหรัฐ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อกองทัพบกไทย กำหนดการในการดูงานแน่นขนัด คณะไม่มีเวลาอื่นใดที่จะสามารถปฏิบัตินอกเหนือกำหนดการได้ โดยเฉพาะการไปพบปะบุคคลหนึ่งบุคคลใดนอกเหนือแผนหรือกำหนดการอย่างที่มีสื่อทางโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์บางสื่อหยิบยกมากล่าวอ้างนั้น เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ยืนยันว่าการคาดเดาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขอความกรุณาสื่ออย่าได้สร้างกระแสบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้สังคมสับสน โดยเฉพาะการนำไปเชื่อมโยงให้เป็นเรื่องราวในทางการเมือง


วันที่ 12/06/2556 เวลา 7:00 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น