วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อย่าตัดตอนคดีเอกยุทธ!เมื่อ 11 มิ.ย.56

อย่าตัดตอนคดีเอกยุทธ!


การหายตัวไปอย่างลึกลับของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.
2556 กำลังถูกจับตามอง และประชาชนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ในผลการสืบติดตามหาความจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการรีบเร่งคลี่คลายคดี ภายใต้ข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุของการหายตัวไป ทั้งประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวที่มีเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องธุรกิจส่วนตัวและเรื่องการเมือง 
    สังคมไทยไม่เคยหลุดพ้นการอุ้มฆ่า หรือถูกลอบทำร้าย ข่มขู่ คุกคามทั้งชีวิตและทรัพย์สิน มาตลอดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากเป็นบุคคลที่เกี่ยวเชื่อมโยงกับประเด็นขัดแย้งในแวดวงการเมือง มีพฤติกรรมต้านหรือยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจรัฐ อย่างเปิดเผยในทางสาธารณะ
    ตัวอย่างเหตุการณ์สะเทือนใจของพี่น้องชาวมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนใต้ กรณีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความนักสิทธิมนุษยชน ที่ให้ความช่วยเหลือทางคดีแก่ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงบัดนี้สังคมก็ยังไม่ได้รับความกระจ่าง ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องในข้อหาดังกล่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนาย ที่รัฐยังไม่สามารถนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้  
    แถมคดีการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ คุกคาม ในทำนองเดียวกันอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาล ทั้งกรณีของนายโสภณ องค์การณ์ ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และคอลัมนิสต์ สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ที่ระบุว่า รถของตนถูกทุบกระจกเป็นครั้งที่ 4 เนื่องจากมีพฤติกรรมโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง 
    กรณี นายต่อพงษ์ เศวตามร์ บรรณาธิการข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน และ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้ถูกคนร้ายทำร้ายร่ายกายได้รับบาดเจ็บถูกตีหัว โดยเจ้าตัวระบุถึงสาเหตุการโดนทำร้ายว่า น่าจะเกิดจากการวิพากษ์วิจารณ์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาตลอด 
    หรือกรณีหนังสือพิมพ์ที่วิพากษ์รัฐบาลอย่างเผ็ดร้อนอย่างหนังสือพิมพ์แนวหน้า ที่นายเฉลิมชัย ยอดมาลัย อายุ 48 ปี บก.ข่าวหน้า 1 และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า ถูกคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยมีข้อขัดแยังกับใครนอกจากสาเหตุประการเดียว คือ จากการเขียนวิจารณ์เกี่ยวกับการเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการข่มขู่  
    รวมทั้ง คดีนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกดักตีศีรษะทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะกลับห้องพักคอนโดมิเนียม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ไม่สามารถจับผู้กระทำความผิดมาลงโทษ หรือเปิดโปงสืบสาวไปถึงผู้บงการมาลงโทษตามกฎหมายได้แต่อย่างใด 
    มิหนำซ้ำเหตุการณ์ทำนองนี้ ทั้งแค่ทำร้ายร่างกาย หรือฉกรรจ์ถึงขั้นเอาชีวิต ก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับนายเอกยุทธ เจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ ที่เปิดหน้ารบชินวัตรทั้งโคตรนับตั้งแต่พี่ชายอย่างทักษิณ จนมาถึงน้องสาวอย่างยิ่งลักษณ์ และบุคคลในแวดวงตระกูลชินวัตร มีแฟนคลับขาประจำติดตามอย่างต่อเนื่องกระจายอยู่ในโลกไซเบอร์ 
    การหายตัวไปอย่างลึกลับโดยไม่รู้ชะตากรรมของเขา ตราบใดที่ยังไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติ และยิ่งการถูกพุ่งเป้าสาเหตุน้ำหนักเรื่องการเมือง นอกเหนือจากการฉกชิงทรัพย์ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัย เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่อง ว.5 โฟร์ซีซั่น ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังอยู่ในกระแสความสนใจของประชาชน หรือการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. รวมถึงบทซุบซิบในไทยอินไซเดอร์ประเด็นมัลดีฟส์อันลือลั่น ก็เป็นปมการเมืองสำคัญ 
    อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลน่าวิตกหลายครั้ง ว่าเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นฝีมือปฏิบัติการมืออาชีพ หาใช่นักเลงสมัครเล่น แต่กลายเป็นนักฆ่า ในคราบเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นลูกสมุนของคนใหญ่คนโต ทั้งนี้ คดีความของนายเอกยุทธ  ถือเป็นคดีสาธารณะ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และสังคมกำลังจับจ้องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าบทสรุปของคดีจะเดินไปในทิศทางไหน หรือสุดท้ายถูกตัดตอนไม่ให้เชื่อมโยงกับการเมือง  
     เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ รีบเร่งสืบเสาะหาข้อเท็จจริง คลี่คลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกรณีดังกล่าวหาใช่เพียงแค่คดีของนายเอกยุทธ หากแต่ยังส่งผลต่อประเด็นความยุติธรรม และหลักนิติธรรมของประเทศไทย
     ในฐานะที่เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องพึงตระหนักหน้าที่คุ้มครองชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม มิใช่ตกเป็นทาสรับใช้อำนาจเถื่อน ของผู้มีบารมีนอกกฎหมาย ที่ไม่มีสิทธิ์ อุ้ม ฆ่า ทำร้ายใครได้ตามปรารถนา เพราะทุกคนต้องเคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้มาตรการทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น