"พล.ร.อ.บรรณวิทย์" ลั่นเชื่อ100% "เอกยุทธ" ตายปมการเมือง-ไม่ใช่ชิงทรัพย์ ชี้ทีมฆ่าเป็นผู้มีอำนาจ-อิทธิพล??
"พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน" เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ 100% "เอกยุทธ" ถูกสังหารเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่ชิงทรัพย์ เพราะมีการวางแผนเป็นขั้นตอนเพื่ออำพราง ต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจ-อิทธิพลอย่างชัดเจน
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการทีนิวส์ ทูไนท์ ของสำนักข่าวทีนิวส์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา กล่าวถึงการสังหาร "นายเอกยุทธ อัญชันบุตร" นักธุรกิจชื่อดังด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ส่วนตัวระบุว่าการเสียชีวิตของคุณเอกยุทธในครั้งนี้ เป็นการตายเกี่ยวเนื่องกับประเด็นทางการเมือง เพราะการสังหารมีการวางแผนเป็นขั้นตอนเพื่ออำพราง ซึ่งการกระทำลักษณะนี้แสดงว่าต้องเป็นการกระทำของผู้ที่มีอำนาจและมีอิทธิพลอย่างชัดเจน เนื่องจากคุณเอกยุทธ มีความเห็นตรงข้ามกับรัฐบาลและอาจรวมถึงเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ทีนิวส์ : ก่อนอื่นต้องขอถามก่อนเลยว่า พล.ร.อ.บรรณวิทย์ รู้จักคุณเอกยุทธดีขนาดไหน
บรรณวิทย์ : รู้จักมานานแล้วหลายปี
ทีนิวส์ : ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าคุณเอกยุทธกับตัวท่าน ชอบไปนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน
บรรณวิทย์ : เราทานข้าวด้วยกันนานมาแล้วเป็นเวลาหลายเดือน แต่จุดที่สำคัญก็คือว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการประสานมาว่า พวกเราอยากจะคุยกันในเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมืองโดยมีคุณเอกยุทธด้วย มีตัวผู้ประสาน รวมไปถึงผู้ที่มีการนัดหมายร่วมกันขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อนะครับ
ทีนิวส์ : มีการประสานเข้ามานานหรือยังว่าจะมีการพูดคุยกัน
บรรณวิทย์ : เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วเอง ผู้ประสานได้เดินทางไปต่างประเทศ แล้วก็ตกลงกันว่ากลับมาแล้วจะคุยกัน ผู้ประสานงานเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อวานนี้เอง
ทีนิวส์ : คือกลุ่มของท่านเอง หรือแม้แต่คุณเอกยุทธจะถูกลวงจากฝ่ายรัฐบาลว่าเป็นกลุ่มที่หวังจะจ้องล้มรัฐบาลชุดนี้ แต่แล้วอยู่ ๆ คุณเอกยุทธก็มาถูกอุ้มถูกสังหาร ประเด็นเป็นแค่การชิงทรัพย์ ท่านมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าอย่างไร
บรรณวิทย์ : ขอเป็นประเด็นแรกก่อนว่า ผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จ้องล้มรัฐบาล ผมอยู่ในกลุ่มที่เมื่อรัฐบาลบริหารงานล้มเหลว ผมขอให้ท่านคืนอำนาจนั้นกับพี่น้องประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจ ส่วนใครจะมาเป็นรัฐบาลผมไม่ได้สนใจ สนใจว่าเมื่อท่านทำประเทศชาติเสียหาย ถ้าท่านมีจริยธรรมมีคุณธรรมธรรมาธิปไตย ท่านก็ต้องลาออกไป แต่อันนี้ถ้าท่านไม่ลาออกพ่อแม่พี่น้องก็ต้องเดือดร้อน เช่น ที่สนามหลวง เป็นต้น ไม่ต้องทำมาหากินกัน โอเคประเด็นนี้เคลียร์ ส่วนประเด็นต่อมาก็ตอบตรง ๆ ไปเลยว่า ผมเชื่อว่าการตายของคุณเอกยุทธเป็นเรื่องการเมือง คือถ้าไม่ได้ตายเรื่องการเมืองประเด็นแรกเรื่องการชิงทรพย์ 5 ล้าน เลิกคุยไปเลยดีกว่า เพราะคนระดับคุณเอกยุทธที่ผมรู้จัก 5 ล้านไม่ต้องไปถอนแบงก์ ผมเดินไปแล้วบอกคุณเอกยุทธบอกว่าเอาเงิน 20 ล้าน ท่านก็มีให้เพราะท่านเป็นนักธุรกิจใหญ่ขนาดนี้
ทีนิวส์ : ท่านมองว่ามันน่าจะเป็นประเด็นไปในทางการเมือง แล้วการสังหารคุณเอกยุทธในครั้งนี้ทำไปเพื่ออะไร
บรรณวิทย์ : คือในความเห็นส่วนตัวผมมองว่าเป็นการสังหารเรื่องการเมือง ผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ 100% เพราะว่าถ้าเป็นการสังหารเพื่อชิงทรัพย์ จะต้องเป็นการฆ่าอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่เป็นการตระเตรียมคนมาเพื่อมารัดคอ แล้วคนที่สามารถทำแบบนี้ได้ ต้องเป็นคนที่ได้รับการฝึกหัดมา วันนี้ถ้าให้ท่านมาบีบคอผม ผมก็ไม่ตาย เพราะว่าถ้าเป็นผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันไม่น่าจะเป็นไปได้
ทีนิวส์ : ผู้ต้องหานายสันติภาพกับพรรคพวกสารภาพว่าบีบคอคุณเอกยุทธ แต่ทางตร.ยังไม่ได้มีการให้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเลย ว่ามีการบีบคออย่างไร
บรรณวิทย์ : การบีบคอหรือการรัดคอ มันเป็นนักฆ่าระดับอาชีพเขาถึงจะทำกัน แล้วการสังหารแบบนี้เป็นการเดินทางระยะไกล ไม่มีใครหรอกที่ฆ่าชิงทรัพย์แล้วเดินทางไปเกือบครึ่งประเทศ เอาแค่ว่าท่านเดินทางไปเที่ยวจ.เพชรบุรี ท่านก็เจอด่านไม่ต่ำกว่า 4 ด่านแล้ว เมื่อเทียบกับขนาดที่ว่าท่านเดินทางไปจ.พัทลุง ท่านจะต้องเจอกี่ด่าน เข้าทางป้ายแล้วทำไมถึงไม่เจอเลย แล้วคนที่จะทำอย่างนี้ถ้าไม่มีอำนาจหรือไม่มีอิทธิพลอย่างแท้จริงเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ทีนิวส์ : มันก็มีข่าวออกมาว่าคุณเอกยุทธอาจจะเป็นกลุ่มทุนตัวสำคัญเลย ซึ่งไม่เอารัฐบาลชุดนี้ มันเป็นไปได้หรือเปล่าถ้ามองอย่างนั้น ก็เลยต้องจัดการกับกลุ่มทุนก่อน
บรรณวิทย์ : เท่าที่ผมดูคุณเอกยุทธ ในการออกมาต่อสู้กับความเห็นที่หักล้างกัน คือคุณเอกยุทธมีความเห็นที่ตรงข้ามกับรัฐบาลเหมือนกับผม ผมมีความเห็นว่าการจำนำข้าวมันขาดทุน แต่เขาบอกว่าไม่ขาดทุน ก็เป็นความเห็นของแต่ละคน คุณเอกยุทธมีความเห็นที่ขัดแย้งมาตลอดแล้วก็มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มันเป็นประเด็นค่อนข้างที่จะดูว่ารุนแรง แต่ผมกลับคาดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย ถ้าบ้านเมืองยังเป็นอย่างนี้อยู่ ผมคิดว่าความปลอดภัยของนักธุรกิจจะอยู่ตรงไหน เพราะคุณเอกยุทธท่านเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจย่อมมีความเห็นแย้ง เพราะฉะนั้นยังมีนักธุรกิจอีกหลายท่าน ยังมีนายแบงก์อีกหลายคนที่มีความเห็นแย้ง วันนี้ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับอีก ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีท่านจะถูกผู้มีอิทธิพลดักจับตัวเมื่อไหร่ แล้วการสร้างสถานการณ์รอบข้างมันสร้างกันได้ง่าย เพราะผู้ที่จะกระทำการสอบสวนเบื้องต้นคือตร. ผมเชื่อว่าการชิงทรัพย์ หรือการฆ่าด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ต้องเป็นการฆ่าปัจจุบันทันทีและจบลงตรงนั้น มันมีจุดมองที่ว่าถ้าท่านเป็นผู้นำในการที่จะประท้วงรัฐบาลซึ่งเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และผมเป็นผู้ร่วมผ่านรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรม เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ผมว่าบ้านเมืองย่ำแย่
ทีนิวส์ : อีกมุมหนึ่งบางคนก็บอกว่าผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล หรือแม้กระทั่งตัวท่านเอง โดนแค่ระเบิดปิงปอง แต่คุณเอกยุทธโดนอุ้มสังหาร อย่างนี้มันต่างกัน
บรรณวิทย์ : ในประเด็นนั้นผมไม่รู้จริง ๆ ผมรู้แต่เพียงว่าการเสียชีวิตของคุณเอกยุทธในครั้งนี้ เป็นการตายเกี่ยวเนื่องกับประเด็นทางการเมือง และในการสังหารครั้งนี้มีการวางแผนเป็นขั้นตอนเพื่ออำพราง การกระทำลักษณะนี้แสดงว่าต้องเป็นการกระทำของผู้ที่มีอำนาจ ผู้มีอิทธิพลอย่างชัดเจน
ทีนิวส์ : สามารถสังหารคุณเอกยุทธได้ ต้องบอกเลยว่ากลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล หรืออยากให้เปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้ เขาจะหยุดการกระทำนี้หรือไม่
บรรณวิทย์ : ผมต้องขอเรียนตรง ๆ ว่าหลายท่านกลัวมาก พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคุณเอกยุทธ มีบางท่านขอย้ายไปอยู่ต่างประเทศดีกว่า แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่บอกว่าถ้าไม่สู้ก็ตาย สู้ก็ตาย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขอสู้ดีกว่า หลายท่านตั้งใจว่าจะเดินหน้าสู้ต่อไป ผมก็เหมือนกันยืนยันว่าจะสู้ต่อไป แต่ต้องระมัดระวังตัวด้วย เพราะเราทำงานในจุดที่เราเชื่อว่าประเทศเราจะถูกเสียดินแดน เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังจะล้มเหลว ดังนั้นเราจึงต้องออกมาต่อสู้เพื่อประเทศของเรา ก็ยังมีกลุ่มหนึ่งที่ต่อสู้ และที่สำคัญยังมีผู้ที่ต้องการจะต่อสู้ร่วมกันเพื่อประเทศอีกเยอะ เช่น ขบวนการหน้ากากขาว ซึ่งเขาบอกอย่างชัดเจนว่าต่อต้านระบอบทักษิณ แต่ว่าเขาไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพราะเขากลัวเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ถ้าวันนี้มันเป็นเชิงสัญลักษณ์มาถึงจุดที่ทนไม่ได้แล้วเปิดหน้ากากออกมา วันนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น