พีมูฟนิ้วขาดเซ่นสัญญาลวง
ม็อบคนจนปิดล้อมทำเนียบฯ จี้รัฐบาลสะสางปัญหาที่ดินทำกินและนโยบายรัฐที่ผิดพลาด หนุ่มลำพูนประตูหนีบนิ้วโป้งขาดหลังยื้อยุดกับตำรวจ "ปู" มอบ "เหลิม" รับหน้าเสื่อ สูตรเดิมๆ รับข้อเรียกร้อง ซื้อเวลารอคณะกรรมการฯ ประชุม ส.ส.ภาคใต้ ปชป.ทวงสัญญาแก้ปัญหาราคายาง-ปาล์มตกต่ำ ขู่ล่าช้าจะเห็นน้ำยางราดหน้าบ้านนายกฯ
เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร เครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ประกอบด้วยกลุ่มชาวบ้านจากภูมิภาคต่างๆ ที่ประสบปัญหาที่ดินทำกิน อาทิ กลุ่มเครือข่ายสลัม 4 ภาค, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.), เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คอป.), สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) และกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล ประมาณ 800 คน ซึ่งมากางเต็นท์ค้างคืนมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. ได้รวมตัวชุมนุมที่ด้านหน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ
จากนั้นได้เดินขบวนกระจายปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทั้งด้านประตู 4 สะพานชมัยมรุเชฐ และฝั่งประตู 5 สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อยื่นหนังสือแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการติดตามข้อเรียกร้องจากรัฐบาล 7 กลุ่มปัญหา ท่ามกลางการดูแลของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 3 กองร้อยรักษาความปลอดภัยโดยรอบทำเนียบรัฐบาล
สำหรับข้อเรียกร้อง 7 กลุ่มปัญหา ประกอบด้วย 1.ปัญหานโยบายที่ไม่สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะนโยบายโฉนดชุมชน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินดั้งเดิมต่างเดือดร้อนเนื่องจากถูกจับกุมจากหน่วยงานของรัฐ 2.ปัญหาคดีความคนจนที่ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาแก้ไขปัญหาและเยียวยาจากรัฐบาล แต่กลับมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง 3.ปัญหาที่ดินชุมชนทับซ้อนกับที่ดินรัฐ 4.ปัญหาที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค 5.ปัญหาผลกระทบจากเหมืองแร่ โรงไฟฟ้า และโรงโม่หิน 6.ปัญหาสัญชาติและชาติพันธุ์ และ 7.ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมรอยื่นหนังสืออยู่ด้านหน้าประตู 4 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดำเนินการล่าช้า กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามผลักดันประตูเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการรับหนังสือ ขณะที่มีการยื้อกันอยู่ ปรากฏว่าจากแรงปะทะส่งผลให้นายเตรียม เมทัง ชาว จ.ลำพูน แนวร่วมกลุ่ม สกน. ถูกประตูเหล็กหนีบที่นิ้วโป้งข้างขวาจนนิ้วข้อแรกขาด กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้รีบพาตัวไปส่งโรงพยาบาลวชิระ
ต่อมาเวลา 13.30 น. หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้มาประชุมร่วมกับตัวแทนพีมูฟ โดยรับทราบข้อเสนอเร่งด่วนต่างๆ ของผู้ชุมนุม พร้อมกับระบุว่า จะเร่งหาทางช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะรัฐบาลที่มาจากประชาชนจะไม่ทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน
โดยนายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาเครือข่ายพีมูฟ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องเร่งด่วน 4 ข้อที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้นำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ประกอบด้วย กรณีที่ดินนำร่อง ที่ธนาคารที่ดินเป็นผู้ดำเนินการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบ ทางกลุ่มจึงขอให้ใช้งบ ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนดำเนินการก่อน 2.เรื่องการเจรจาแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล ที่ทางพีมูฟได้ร่วมประชุม กับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และมีข้อตกลงที่จะยกเลิกมติ ครม.เกี่ยวกับการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูลครั้งที่ผ่านๆ มา แล้วตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
3.เรื่องบ้านมั่นคง ที่หน่วยงานรัฐตีความว่าไม่ใช่โครงการของรัฐ ทำให้ต้องถอยร่นตัวอาคารออกจากถนน แต่โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณของภาครัฐ จึงอยากให้ครม.พิจารณายืนยันว่าโครงการบ้านมั่นคงเป็นโครงการของรัฐ เพื่อไม่ต้องถอยร่นออกไป เนื่องจากพื้นที่เป็นชุมชนแออัด ไม่สามารถจะถอยร่นได้ และ 4.ขอให้ ครม.พิจารณาคุ้มครองชั่วคราวพื้นที่โฉนดชุมชน ที่สำนักนายกรัฐมนตรีเห็นชอบว่าชุมชนที่อาศัยในพื้นที่ของหน่วยงานรัฐ มีความเข้มแข็งให้อยู่อาศัยทำกิน และให้ออกโฉนดชุมชนให้ แต่การส่งมอบพื้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ประชาชนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้
"เรื่องเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลเข้าไปให้การช่วย คือเรื่องที่ประชาชนในโครงการต่างๆ ข้างต้นถูกดำเนินคดีอยู่ และอยู่ในขั้นพิจารณาของอัยการ จึงขอให้รัฐบาลประสานงานเพื่อชะลอการพิจารณาส่งฟ้องออกไปก่อน และทางกลุ่มจะชุมนุมอยู่ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลต่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าต่างๆ" นายประยงค์กล่าว
นอกจากนี้ นายประยงค์ยังเปิดเผยว่า นายเตรียม เมทัง ซึ่งได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และ แพทย์ระบุว่าขณะนี้นิ้วมือด้านขวาที่ขาดอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถต่อคืนได้
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนขึ้นในวันที่ 20 พ.ค.นี้ และประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ชุดใหญ่ ที่มีอนุกรรมการจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 10 คณะเข้าร่วมประชุม ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และหากประชาชนจะชุมนุมต่อบริเวณทำเนียบรัฐบาล อยากให้เคลื่อนย้ายมาอยู่บริเวณถนนด้านประตูฝั่งสะพานอรทัย เพื่อความสะดวกในการชุมนุม และไม่กีดขวางการจราจร
ทั้งนี้ ก่อนหน้าประชุม ครม. นายสุภรณ์ได้เข้ารายงานถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพรีมูฟต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ มีสีหน้าเคร่งเครียด โดยนายสุภรณ์เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงปัญหาดังกล่าว ไม่อยากให้ประชาชนที่เดือดร้อนต้องลำบากเดินทางมาเรียกร้องถึงใน กทม. ซึ่งเดิมได้มอบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้รับผิดชอบ ต้องยอมรับว่าปัญหาบางเรื่องมีมานานมากเกินกว่า 10 ปี จะแก้ไขให้ได้ทันทีคงเป็นไปได้ยาก แต่จะพยายามช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชนโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน ส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายถาวร เสนเนียม, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายเทพไท เสนพงศ์ และตัวแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำสหกรณ์ เจ้าของสวนยางพารา เจ้าสาวปาล์ม กว่า 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ เซ็นรับหนังสือ
นายถาวรกล่าวว่า เราได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวเกษตรจากชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน เพราะราคายางตกต่ำมาก ซึ่งยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลราคายางพาราสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 195 บาท และไม่ต่ำกว่า 120 บาท และราคาปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 10.50 บาท แต่ขณะนี้ราคายางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาท ส่วนราคาราคาปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบการรับจำนำราคาข้าวที่ราคาจำนำจะสูงขึ้นตามชนิดข้าว ซึ่งวันนี้ถึงกำหนดที่มาฟังคำตอบ จากที่ตนได้มายื่นหนังสือเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยให้รัฐบาลรับซื้อยางพาราชั้น 3 จากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัม และรับซื้อปาล์มทะลายสดจากเกษตรกรในราคาประกันที่ไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน
“พวกเรามาวันนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นเรื่องของบ้านเมือง เป็นเรื่องของเกษตรกรผู้ยากจนจริงๆ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องไปสั่งการ แต่ถ้ายังล่าช้า นายกฯ ลอยตัวอยู่อย่างนี้ พวกผมไม่ยอม สักวันหนึ่งจะเห็นปาล์มวางอยู่ทำเนียบรัฐบาล สักวันหนึ่งจะเห็นน้ำยางพาราอยู่หน้าบ้านนายกฯ" นายถาวร กล่าว
นอกจากนี้ นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษา พร้อมพวก จำนวน 5 คน ได้มายื่นหนังสือผ่านนายสุภรณ์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำเช่นกัน ทั้งนี้เพราะผู้ปกครองของนักศึกษาส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรและมีรายได้น้อย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น