แห่ยันเก้าอี้‘บิ๊กตู่’เหนียว แดงนัดรำลึก3ปี‘19พ.ค.’
"บิ๊กโอ๋" ยันเก้าอี้ "ประยุทธ์" มั่นคง ซัดสื่อไร้สำนึก สร้างข่าวลือย้ายนั่ง ผบ.สส. เลอะเทอะ ย้ำสัมพันธ์รัฐบาล-กองทัพแน่นแฟ้น รวมพลสี่แยกราชประสงค์ 19 พ.ค. ครบรอบ 3 ปีสลายแดงคึก นปช. 17 จังหวัดภาคเหนือขนคนเข้ากรุงเทพฯ เพียบ เด็กเนวินแฉเพื่อไทยระดมตั้งเวทีเดินสายหวังปลุกม็อบชนม็อบ
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวรัฐบาลจะปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องการโยกย้าย และยังไม่มีสาเหตุอะไรที่จะต้องย้าย พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งข่าวที่มีอยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรก็ไม่ทราบ และก็ลือกันจนเละเทะ เพราะไม่มีสาเหตุอะไร เมืองไทยก็เป็นแบบนี้ มีแต่ข่าวลือจนน่ารำคาญ ทั้งนี้ ระดับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพนั้นยังมีความสัมพันธ์ระดับที่ดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาการทำงานของรัฐบาลและกองทัพ สังคมก็ดูกันเองว่าเป็นไปด้วยดี
"แต่ก็มีการสร้างข่าวลือจนไร้เหตุผล ไร้สามัญสำนึก สร้างข่าวจนเลอะเทอะ อยากถามว่าเหตุผลในการย้าย ผบ.ทบ.นั้นมีอะไร" รมว.กลาโหมกล่าว
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่นัดชุมนุมใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ วันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. ในโอกาสครบรอบ 3 ปี การชุมนุมของเสื้อแดงนั้น
นายปัณณวัฒน์ นาคมูล ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.อุตรดิตถ์ ร่วมกับ ด.ต.พิชิต ตามูล ประธาน นปช.จ.เชียงใหม่ และนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ประธาน นปช.จ.เพชรบูรณ์ แถลงข่าวที่อุตรดิตถ์ โดยประกาศเป็นตัวแทน นปช. 17 จังหวัดภาคเหนือ ว่าในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ นปช.ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือจะเดินทางโดยรถบัส 250 คัน และรถยนต์ส่วนตัว ไปร่วมรำลึกถึงวีรชนคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์
นอกจากนี้ ตัวแทน นปช.ยังแถลงอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ตอบโต้ปาฐกถาพิเศษเรื่องประชาธิปไตยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มองโกเลีย ซึ่งเป็นการพูดเรื่องจริงของประชาธิปไตยของประเทศไทย กรณีนี้เป็นการเปิดเผยความจริงให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยตัวเองอย่างล่อนจ้อนแล้วว่า โดยเนื้อแท้แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวการสำคัญในการขัดขวางความเจริญของประชาธิปไตยมาโดยตลอด และพรรคประชาธิปัตย์มีความเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจเมื่อปี 2549 อย่างชัดเจน
ด.ต.พิชิตกล่าวว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ นปช. 17 จังหวัดภาคเหนือ จะยื่นหนังสือและข้อเรียกร้องต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อให้เร่งดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหลังจากกลับมาแล้ว นปช. 17 จังหวัดภาคเหนือจะเป็นคนเสื้อแดงกลุ่มแรกที่จะนำประชาธิปไตยลงสู่ชุมชนเพื่อเป็นการนำร่องด้วย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่กลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีน้ำหนักให้ยุบสภา การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการ และยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับ ครม.ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรี ถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ในพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการหารือเรื่องนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจัดเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดพะเยา เมื่อ 11 พ.ค.2556 ที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวคัดค้านว่า หากผู้นำพรรคเพื่อไทยที่ยอมรับว่าเป็นเนื้อเดียวกันกับคนเสื้อแดงนั้นมีความตั้งใจจริงที่จะเปิดโอกาสให้แต่ละพรรคการเมือง นักการเมืองได้ทำงาน เหตุการณ์แบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เกินวิสัยของนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค รวมทั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จะไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ขอเรียกร้องว่า ทำไมพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลไม่มีความพยายามจะหยุดสิ่งเหล่านี้ ฝ่ายการเมืองต้องเป็นคนหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ เหมือนกับการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดง หากมีคนเข้าไปก่อกวน ขัดขวาง ก็สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์บานปลาย แต่ดีที่ว่าฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงมักจะมีความอดทนอดกลั้น เพราะส่วนใหญ่คนเสื้อแดงจะไปรุกรานการเคลื่อนไหวของคนอื่น ซึ่งต้องถามว่าพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงจะทำการเมืองแบบนี้ตลอดหรือไม่ เพราะหากฝ่ายอื่นทำบ้าง บ้านเมืองก็จะวุ่นวาย ทำไมไม่อยู่ในกติกา มารยาทเดียวกัน ทุกอย่างก็จะจบ
“มีคนอึดอัดเยอะ เพราะพฤติกรรมแบบนี้เกิดบ่อยเข้า ทั้งก่อกวนการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ การปฏิบัติต่อศาล การปฏิบัติต่อสื่อ พอมากเข้าคนก็จะคิดว่าทำไมมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น ทำผิดกฎหมายตำรวจก็เกรงใจ รัฐบาลก็ให้ท้าย อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ซึ่งต้องอยู่ที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยว่าจะหยุดพฤติกรรมแบบนี้ได้หรือยัง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรม เป็นกระบวนการที่ทำเป็นระบบ แบบแยกกันเดินรวมกันตี โดยให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาดิสเครดิต ข่มขู่คุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ให้นักวิชาการหาช่องทางกฎหมายเล่นงานศาล และมีการใช้เสียงข้างมากของ ส.ส.ในสภาหักดิบดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายนิรโทษกรรมช่วยนายใหญ่ แม้ม็อบคนเสื้อแดงที่ชุมนุมขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะสลายตัวไปแล้ว แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวจากรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ ซึ่งมีเหตุผลสำคัญในการเคลื่อนไหว เพราะนายใหญ่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย และเหตุที่ต้องมุ่งทำลายล้างศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกำลังจะเป็นผู้วินิจฉัยกฎหมายหลายเรื่อง ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นขบวนการในการล้มล้างคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหา และบางคดีที่ได้ตัดสินไปแล้ว รวมไปถึงล้มล้างคดีให้กับนักการเมืองในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยและ ส.ว.บางส่วนไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญว่า การที่พรรคเพื่อไทยเดินชนศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการเดินที่ผิดพลาด การปฏิเสธอำนาจศาล และไม่ได้ส่งคำชี้แจง เท่ากับเป็นการยอมรับตามที่มีผู้ร้องร้องต่อศาล ทำให้เสียเปรียบ การที่วันนี้พรรคเพื่อไทยเดินสายปราศรัย พูดถึงการสร้างหนี้ 2ล้านล้านบาท การแก้ไขรัฐธรรมนูญกรณีที่ศาลรับคำร้อง ในภาคอีสานเพื่อเป็นการปลุกมวลชนเสื้อแดง อุ่นเครื่องไว้ หากมีอะไรเกิดขึ้นจะปลุกให้ม็อบมาชนม็อบ
นายบุญจงกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังต้องจับตาในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญจะมีการสอดแทรกนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์ส่งสัญญาณแล้ว หากมีการนำมาพิจารณาต้องเกิดความวุ่นวายทั้งในและนอกสภา โดยในสภา ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่ได้หรือไม่ ส่วนนอกรัฐสภา เชื่อว่าจะมีประชาชนมาชุมนุมจำนวนมากเพราะมีปัญหาสะสมหลายเรื่อง หากพิจารณากฎหมายนิรโทษฯ เมื่อไหร่ จะทำให้ถึงทางตัน ไม่ว่าจะเป็นฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ หรือร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ตาม ถ้ารัฐบาลกล้าก็ถึงเวลาเดดไลน์ แล้วหากวันนั้นมาถึง นายกฯจะยุบสภาหรือไม่ ก็เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น