วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปลุก‘ไทยสปริง’สู้! ‘วสิษฐ-แก้วสรร’ล่าชื่อต้านปาฐกถาปู/ปอท.รับแฮ็กเกอร์มีหลายราย เมื่อ 13 พ.ค.56


ปลุก‘ไทยสปริง’สู้! ‘วสิษฐ-แก้วสรร’ล่าชื่อต้านปาฐกถาปู/ปอท.รับแฮ็กเกอร์มีหลายราย



แชร์สนั่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก "วสิษฐ-แก้วสรร"  นำรณรงค์ลงชื่อปฏิเสธปาฐกถาลวงโลกของยิ่งลักษณ์ ผ่านเว็บไซต์ change.org ซัดไร้ยางอาย จงใจบิดเบือนสร้างภาพให้สากลเข้าใจผิดว่าขบวนการล้มล้างการปกครองที่ระบอบทักษิณเหยียบย่ำศาล รธน.เป็นการต่อสู้เพื่อ ปชต. เตรียมแถลงข่าวหลังครบ 5 พันชื่อ ก่อนส่งไปยังเครือข่ายประชาคมประชาธิปไตย ประจานให้รู้ความฉ้อฉลของเผด็จการชินวัตร ปอท.งมโข่งล่ามือแฮ็กเกอร์ เผยเป้าหมายแคบลง เชื่อมีเอี่ยวหลายคน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ที่น่าสนใจ โดยในเว็บไซต์ change.org ได้มีการรณรงค์ลงนามจดหมายเปิดผนึก  ปฏิเสธปาฐกถาอูลานบาตอร์ ของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งริเริ่มโดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) 
    ทั้งนี้ ผู้ริเริ่มทั้ง 2 รายได้ชูสโลแกนว่า Thai Spring: Organized ระบุว่า ปาฐกถาอูลานบาตอร์ ณ ประเทศมองโกเลีย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อ 29 เมษายนนี้ แท้ที่จริงคือความจงใจที่จะบิดเบือนสร้างภาพให้สากลเข้าใจผิดว่าขบวนการล้มล้างการปกครองโดยรัฐธรรมนูญ ที่ระบอบชินวัตรกำลังทุ่มเทเหยียบย่ำศาลรัฐธรรมนูญอยู่ในทุกวันนี้ เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของครอบครัวชินวัตรและบริวาร แม้จะมีเสียงคัดค้านท้วงติงปาฐกถานี้สักเพียงใด นางและบริวารก็กลับบิดเบือนปิดปากโดยยืมมือตำรวจเข้าจัดการด้วยข้อหาต่างๆ ดังเช่นที่คุณชัย ราชวัตร ได้ประสบอยู่อย่างไม่เป็นธรรมในทุกวันนี้
    เราเห็นด้วยกับปาฐกถาส่วนหนึ่งของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่กล่าวว่า "คำว่า ไทย หมายความว่า อิสระ" ดังนั้น เราเชื่อว่าคนไทยไม่ใช่ทาสหรือ "หุ่นเชิด" บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยผู้รักชาติบ้านเมืองจะลุกขึ้นยืนต่อสู้กับครอบครัวนี้ โดยเริ่มจากการร่วมกัน ”ทำความจริงให้ปรากฏ” เพื่อให้โลกเข้าใจว่า เรากำลังอยู่ภายใต้การคุกคามข่มเหงรังแกของระบบเผด็จการทุนนิยมสามานย์เช่นไร
    "พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร และ นายแก้วสรร อติโพธิ จึงขอเชิญทุกท่านร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึง ประชาคมประชาธิปไตย และประเทศสมาชิก กับคณะทูตในประเทศไทย เพื่อปฏิเสธปาฐกถาอันไร้ยางอาย ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเข้าไปลงนามเห็นด้วยโดยกรอกข้อมูลของท่านในช่องว่างในกรอบทางด้านขวามือของหน้านี้แล้วกดปุ่มสีแดงที่มีสัญลักษณ์ "Sign >" หรือ "ร่วมลงชื่อ >" เมื่อได้รายชื่อครบหนึ่งพันชื่อเมื่อใด ผู้ประสานงานทั้งสองก็จะทยอยส่งจดหมายและรายนามไปให้ประชาคมและผู้เกี่ยวข้องเป็นลำดับทุกหนึ่งพันชื่อ"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการรณรงค์เรื่องดังกล่าวได้มีการแชร์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กจำนวนมาก ล่าสุด พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และนายแก้วสรร อติโพธิ โพสต์ว่า ขอขอบคุณในความไว้วางใจที่ร่วมลงชื่อครับ นี่เป็นการตอบรับผ่าน Change.Org. ที่ให้บริการเว็บรณรงค์แบบนี้ อีเมล์ของท่านเขาเป็นคนเก็บไว้เป็นความลับ ขอให้สบายใจได้ว่าจะไม่มีใครมารู้อีเมล์ และรบกวนท่านได้  อูลานบาตอร์ Speech ครั้งนี้เปลือยธาตุแท้เผด็จการชินวัตรชัดเจนมาก ขอให้ช่วยกันบอกต่อๆ ไป และชักชวนพรรคพวกมาร่วมลงนามให้เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ให้ได้ จะมีน้ำหนักมากเลยครับ 
    "การแสดงออกของท่านในครั้งนี้จะทำให้โลกมีโอกาสได้รับรู้ความฉ้อฉลของเผด็จการชินวัตรที่ฉกฉวยใช้เวทีนานาชาติบอกความจริงเพียงครึ่งเดียวเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง การลงนามของท่านทำให้เรามั่นใจว่าสังคมไทยที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของการโฆษณาชวนเชื่อสามารถแยกแยะความถูกต้องได้"
    นอกจากนี้ ยังได้ขอบคุณบุคคลที่ร่วมลงชื่อและบอกว่า ต้องช่วยกันมากๆ แล้วผมยังแปลกใจที่ยังมีพวก "ไทยเฉย" อยู่อีกมากในสังคม และระบุว่าจวนได้ 2,500 แล้วนะ ช่วยกันขยายผลต่อไปครับ ทั้งนี้ มี นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ร่วมลงชื่อด้วย และในช่วงค่ำวันอาทิตย์ มีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 3,209 คน
     มีรายงานว่า เมื่อมีผู้ร่วมลงชื่อครบ 5,000 คน นายแก้วสรร และ พล.ต.อ.วสิษฐ จะเปิดแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวก่อนจะส่งไปยังสมาชิกและเครือข่ายประชาคมประชาธิปไตย (Community of Democracies) ที่เป็นผู้จัดงานที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา
     สำหรับความคืบหน้ากรณีเว็บไซต์สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีถูกมือดีแฮ็กเข้าไปในเว็บไซต์ และมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในเว็บไซต์โจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดฯ ย่านอาร์ซีเอ ของนายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร อายุ 29 ปี หรือฉายา “ตาเล็ก วินโดว์ 98 เอสอี” หนึ่งในผู้ต้องสงสัย รวมทั้งที่ทำงานย่านคลองตัน เพื่อยึดเครื่องคอมพิวเตอร์มาทำการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญนั้น
    "จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายณรงค์ฤทธิ์ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับขบวนการกลุ่มแฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากต้องใช้ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน ส่วนจากการตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พบพยานหลักฐานมากอยู่พอสมควร โดยเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลในส่วนนี้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง"
    พล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าวว่า สำหรับการสอบปากคำนายณรงค์ฤทธิ์ ก็ได้ให้การยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลหาตัวผู้กระทำผิดตัวจริง โดยนายณรงค์ฤทธิ์ยังเชื่อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มแฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เป้าหมายของกลุ่มผู้กระทำผิดแคบลงมาแล้ว แต่ยังคงต้องรอดูความชัดเจนก่อน เนื่องจากคาดว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องพัวพันอีกหลายคน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Unlimited Hack Team หรือไม่นั้น คงจะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
       ด้าน พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายขว้างลูกเปตองจำนวน 2 ลูก และประทัดยักษ์ใส่ป้อมรักษาความปลอดภัยของสำนักพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 11 พ.ค.ว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการหาภาพจากกล้อง
วงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี ส่วนมาตรการป้องกันเหตุ ได้สั่งเพิ่มความถี่ของสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบในการตรวจหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเพิ่มมากขึ้น
    พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่ง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้แบ่งงานชุดทำงานลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นเรียกประชุมชุดสืบสวนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันที่ 13 พ.ค. เพื่อติดตามความคืบหน้าในการจับกุมคนร้ายต่อไป
    พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำลูกเปตองทั้ง 2 ลูก ซึ่งเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อส่งให้สำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) นำไปตรวจสอบอย่างละเอียด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบลายนิ้วมือของคนร้ายที่ติดอยู่ที่บนลูกเปตองแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบดีเอ็นเอ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 40 ตัว ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง และพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้ายด้วย แต่ว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ยังคงปิดทำการอยู่ จึงไม่สามารถประสานของภาพจากกล้องวงจรปิดได้
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีการใช้ลูกเปตองและประทัดยักษ์ป่วนสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า ขอประณามการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมอย่างยิ่ง หากคนเหล่านั้นเห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐทำเรื่องที่ละเมิดกฎหมาย ก็ควรใช้กระบวนการยุติธรรมในการดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย ดีกว่าที่จะไปใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน ทั้งนี้ มีสิ่งน่าสังเกตคือ เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงรีบออกมายืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยไปประท้วงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐก่อนหน้านี้     
    "การที่จะระบุได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นฝีมือของกลุ่มใดนั้นควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะหาพยานหลักฐาน และนำคนผิดมาดำเนินการตามกระบวนการตามกฎ
หมาย พรรคการเมืองไม่ควรไปชี้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน มีเสียงข้างมากในสภา และบริหารประเทศอยู่ ซึ่งการออกมาชี้นำอาจทำให้ผลการสืบสวนสอบสวนถูกบิดเบือนไปได้ อย่างไรก็ตาม อยากเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาคนผิดมาลงโทษ เพื่อไม่ให้การใช้ความรุนแรงเป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นอีกต่อไป" นายองอาจกล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น