วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ระเบิดทหาร บึ้มเสาไฟฟ้า! ยะลาปั่นป่วน เมื่อ 25 พ.ค.56


ระเบิดทหาร บึ้มเสาไฟฟ้า! ยะลาปั่นป่วน



โจรใต้เหิมหนัก ระเบิดเสาไฟฟ้าเมืองยะลา 6 จุดพร้อมกัน ป่วนวันเปิดงานสมโภชหลักเมือง ที่ จ.นราธิวาส ยิงใส่ป้อมตำรวจล่อให้ไปตรวจสอบแล้วฝังระเบิดฆ่า แต่รัศมีการทำลายหักเห ตำรวจรอดตายได้หวุดหวิด ระเบิดทหารพราน ฉก.นราธิวาส 30 เจ็บไปอีก 5 ทบ.แฉผู้ก่อการร้ายรุกหนักเพราะเจ้าหน้าที่เปิดกลยุทธ์เชิงรุก   จับกุมยึดอาวุธได้จำนวนมากจึงออกมาตอบโต้ ยันจะไม่หลงกลไปใช้ความรุนแรง สตช.สั่งด่วนให้ตำรวจสวมเสื้อเกราะปฏิบัติงาน เตรียมพร้อมแผนตอบโต้ ระวังสถานที่สำคัญ ทั้งระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่ง เป้าหมายที่เป็นจุดอ่อน
    ที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 05.15 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ได้เกิดเหตุระเบิดดังกึกก้องติดต่อกันหลายครั้งในเขตเทศบาล ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้ไฟฟ้าในพื้นที่ดับทันที  สร้างความโกลาหลให้ประชาชน โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา แพทย์และพยาบาลต่างวุ่นวาย เพราะจุดระเบิดเกิดขึ้นที่เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายยะหา-กาบัง จำนวน 5 ต้น ห่างจากโรงพยาบาลประ
มาณ 30 เมตรเท่านั้น และเกิดระเบิดที่ริมถนนทางไป ต.ปะแต และบริเวณทางแยกคอกไก่ หมู่ 3 ต.ยะหา ทำให้เสาไฟฟ้าหักอีก 2 จุด
    พ.ต.ท.สายูตี กาเตะ รอง ผกก.ป.สภ.ยะหา พร้อมพ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ผบ.กรม ทพ.47 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด สนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบ พบเสาไฟฟ้าหักปิดเส้นทาง 5 ต้น เศษคอนกรีตกระจายเกลื่อนถนน มีเศษอิเล็กทรอนิกส์ตกอยู่ทั่วไปพร้อมกับเศษถังแก๊สปิคนิค จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    ขณะที่เกิดเหตุระเบิดในลักษณะเดียวกันที่ อ.กาบัง เขตติดต่อ อ.ยะหา อีก 3 จุด โดยจุดแรกที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ตั้งอยู่หน้าร้านขายโทรศัพท์ไม่มีชื่อ เลขที่ 26/6 หมู่ 1 ต.กาบัง ของนายรอเซะ ทำให้ตู้เอทีเอ็มเสียหาย, จุดที่ 2 เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายกาบัง-ยะหา เสาไฟฟ้าหักโค่น และจุดที่ 3 ที่เสาไฟฟ้าริมถนนสายบันนังดามา-กาบัง ช่วงทางโค้งหักศอกบ้านบาซากาแป หมู่ 8 ต.กาบัง เสาไฟฟ้าหักโค่นเป็นเหตุให้ไฟฟ้าดับไปทั่วพื้นที่ไปจนถึงรอยต่อ อ.สะบาย้อย จ.สงขลา
    หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธวัชชัย ดุกสุกแก้ว ผกก.สภ.กาบัง, นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอกาบัง นำกำลังไปตรวจสอบ พบทุกจุดใช้ระเบิดแบบแสวงเครื่องอัดกล่องเหล็กหนักไม่ต่ำกว่า 5 กก. จุดชนวนโดยตั้งเวลาให้ระเบิดพร้อมกันในเวลา 05.15 น. คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้วุ่นวาย เนื่องจากเป็นวันเปิดงานสมโภชหลักเมืองและกาชาดยะลา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 พ.ค.-4 มิ.ย.
    ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 07.05 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ใต้ต้นกระท้อนตรงข้ามหน้าร้านรงค์พาณิชย์ จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เลขที่ 41 ถ.จารุเสถียร เขตเทศบาล ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบแรงระเบิดทำให้เป็นหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิคหนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อน รัศมีกว้างกว่า 100 เมตร
วางระเบิดซ้ำ
    พ.ต.ต.กิตติสัณห์ เหิกขุนทด สวป.สภ.สุไหงปาดี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังสายตรวจ 1 ชุดมาที่จุดตรวจตลาดล่าง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 50 เมตร เพื่อตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมายิงถล่มใส่จุดตรวจช่วงเวลา 04.45 น. ขณะที่จะเดินเข้าไปคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่แอบวางไว้ใต้ต้นกระท้อน แต่รัศมีการทำลายได้หักเหทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด
    ด้าน พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร ผกก.สภ.สุไหงปาดี เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นคนร้ายมีการวางแผนไว้อย่างดี โดยให้ชุดแรกก่อกวนโดยยิงใส่จุดตรวจ แล้วชุดที่ 2 แอบจุดชนวนระเบิดที่ฝังไว้ใต้ต้นกระท้อนเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ระหว่างเข้าตรวจสอบ แต่โชคดีระเบิดพลาดเป้าทำให้ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บและเสียชีวิต
    จากนั้น เวลา 11.10 น. วันเดียวกัน คนร้ายก็ลอบวางระเบิดหวังสังหารเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร้อย ร.15122 ฉก.นราธิวาส 30 จำนวน 5 นาย หลังจากเสร็จการประชุมปรับแผนการรักษาความปลอดภัยที่ ฉก.นราธิวาส ด้วยรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ เพื่อกลับฐานบ้านบาตง หมู่ 3 ต.บางตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มาตามถนนสายท่าเรือ-โกตาบารู หมู่ 4 บ้านบลูกาฮีเล ต.บางอ อ.รือเสาะ
    ขณะที่ใกล้จะถึงฐานประมาณ 1 กิโลเมตร คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่า จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่นำไปวางใต้ในท่อลอดกลางถนนจนระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถกระบะลอยขึ้นฟ้าพลิกหลายตลบไปตกห่างจากจุดเกิดเหตุถึง 40 เมตร ทหารที่อยู่ในรถแม้จะบาดเจ็บก็ยังยิงตอบโต้คนร้ายจนหลบหนีไป ชาวบ้านผ่านมาประสบเหตุจึงช่วยกันนำส่ง รพ.รือเสาะ ประกอบด้วย พลฯ สรวิทย์ อ่อนจันบก อาการสาหัส, ร.ท.ชัยวัฒน์ กาหลง ผบ.ร้อย ร.15122,  ส.อ.สุนทร แท่งอิน, พลฯ วุฒิชัย ถึงชุมพร และพลฯ บุรินทร์ ฟักทอง ทั้งหมดถูกสะเกิดระเบิดบริเวณลำตัว
    สำหรับกรณีผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดรถยนต์ของทหารพรานชุดร้อย ร.4024 ฉก.ปัตตานี 42 ขณะเดินทางไปมอบสิ่งของให้ชาวบ้านชุดชุมชนสัมพันธ์ในหมู่บ้านบือเระ ต.บือเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนเสียชีวิต 5 นายเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคมนั้น วันที่ 25พฤษภาคม ได้มีพิธีรดน้ำศพทหารพรานทั้ง 5 นาย ที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดย พล.ท.โชค เพิกโสภณ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4เป็นประธาน พร้อมมอบเงินเยียวยาให้ครอบครัว โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ร่วมพิธีจำนวนมาก จากนั้นได้ทำการส่งศพกลับภูมิลำเนา โดย ศพ ร.อ.สุบิน พวงมณี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานชุดร้อยร.4020 ทพ.42, จ.ส.อ.ชยพล เมืองแก้ว, อ.ส.พิชพล สะทองแอ่น นำไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สุราษฎร์ธานี, ศพ ส.อ.มงคล พลภักดี ส่งกลับไปที่ จ.ศรีสะเกษ และ อส.ทพ.อนุชา วงษ์สวัสดิ์ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ส่วน อส.ทพ.รณชิต ชาวงศ์ ยังคงพักรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
    ส่วนคดีนั้น จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายอาฟันดี กาฟา ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการ และเป็นผู้เชี่ยวชาญการประกอบระเบิดวางระเบิด เคลื่อนไหวอยู่กับพรรคพวกแนวร่วมรุ่นใหม่อีก 5 คน โดยมีนายมะดารี ตาเย๊ะ และนายอิสมัน เจะปา เข้ามาร่วมด้วย จึงเร่งกดดันปิดล้อมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
คุมเข้มระบบสาธารณูปโภค
    พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทางผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบิก และรอง ผอ.รมน. ได้แสดงความห่วงใยและยังคงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดและมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับเป้าหมายทุกเป้าหมาย โดยเฉพาะการ รปภ.ให้กันตนเองให้ดีที่สุด ฝ่ายตรงข้ามยังมีความพยายามสูงที่จะก่อเหตุกับทุกๆ เป้าหมาย โดยเฉพาะในห้วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้ปฏิบัติการตามมาตรการยุทธวิธีเชิงรุกค่อนข้างได้ผลเป็นบวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าปิดล้อมตรวจค้นสามารถจับกุม ตรวจจับสืบหาแหล่งประกอบซุกซ่อนระเบิดในพื้นที่ต้องสงสัยได้จำนวนมากแทบทุกวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขา ชุมชนชายเขารอยต่อเขตเมือง
    "จากการปฏิบัติดังกล่าว เป็นผลให้เกิดการสูญเสียของผู้ก่อการร้ายจำนวนมาก เนื่องจากพยายามขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง และถูกควบคุมตัวได้กว่า 20 ราย และยังมีที่ขอเข้ามอบตัวเพิ่มขึ้น สามารถยึดอาวุธปืนได้รวมเกือบ 30 กระบอก ตรวจพบระเบิดแสวงเครื่อง อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบระเบิด พบหลุมระเบิด เก็บกู้และทำลายไปแล้วจำนวนมาก ถือว่าเป็นการจำกัดเสรีการปฏิบัติฝ่ายตรงข้ามได้พอสมควร แต่สำหรับภารกิจในเชิงรับที่อาจต้องมีมาตรการเสริมให้เป็นผลในทางบวกมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายจะได้เร่งให้มีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เอง หรือการสอดประสานบูรณาการการใช้เครื่องมืออย่างกล้องซีซีทีวีของทั้งรัฐและเอกชนมาช่วยในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในมาตรการเชิงรับให้เป็นผลบวกมากขึ้น"
    พ.อ.วินธัยกล่าวยืนยันด้วยว่า เจ้าหน้าที่มีความเข้มแข็ง พร้อมและยังคงมุ่งมั่นต่อการทำหน้าที่ ที่สำคัญจะไม่เพลี่ยงพล้ำด้วยการถูกล่อลวงให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้ให้เป็นไปตามความต้องการของฝ่ายตรงข้ามเป็นอันขาด จะปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายและความถูกต้อง ในอันที่จะนำมาซึ่งความสงบสุขของพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้
    ด้าน พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือคำสั่งด่วน ให้หัวหน้าทุกหน่วยที่ปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมความพร้อมทั้งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็น ยานพาหนะ และระบบการติดต่อสื่อสาร พร้อมจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุ ในการป้องกันและตอบโต้ทางยุทธวิธีให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หลังคนร้ายลอบวางระเบิดหลายจุดทำให้มีทหารเสียชีวิต 5 นาย และระเบิดรถของตำรวจชุดลาดตระเวนทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 6 นาย รวมทั้งเพิ่มมาตรการเชิงรุก ในการดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ ระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่ง สถานที่สำคัญทางเศรษฐกิจและเป้าหมายที่เป็นจุดอ่อน อาทิ ครูหรือพระสงฆ์ ตลอดจนวางระบบประสานงานแจ้งเตือนบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัย เพื่อความรวดเร็วทันเหตุการณ์ และกำชับให้ตำรวจทุกนายเพิ่มความระมัดระวังขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยต้องสวมเสื้อเกราะ และปฏิบัติงานเป็นทีมตามหลักยุทธวิธี ส่วนนายตำรวจระดับผู้บังคับการและรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ต้องอยู่ในพื้นที่ เพื่อพิจารณาจัดกำลังสนับสนุนหากจำเป็น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น