วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กองทัพฮึ่ม! รองโฆษก ทบ.ยันทหารไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อ 24 พ.ค.56



กองทัพฮึ่ม! รองโฆษก ทบ.ยันทหารไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะโดนยิงสวนตลอด ลั่นอย่านำเรื่องที่มีองค์ประกอบของข้อเท็จจริงที่ยังไม่ครบถ้วนไม่ตรงกับสถานการณ์จริงไปเผยแพร่ จะเป็นการสร้างรอยร้าวและความสับสนให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น รองอธิบดีดีเอสไอเผย เคยออกหมายจับชายในภาพถ่ายแจ้งข้อหาวางเพลิงแล้ว แต่ศาลยกฟ้องเพราะไม่มีหลักฐาน ชักเข้าเค้าชูรูปโชว์นักข่าวสับขาหลอก หลักฐานอ่อน ปล่อยแดงเผาเมืองอีก
    ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดีคอรัปชั่น วิดีโอลิงค์ในเวทีรำลึกเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองของคนเสื้อแดงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ให้สินบนนำจับ 10 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สามารถหาคนเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ได้ ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับลูกด้วยการเผยภาพผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 1803/53 และ 1804/53 ลงวันที่ 18 ส.ค.53 ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นซึ่งเป็นโรงเรือนหรือที่เก็บสินค้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ และผู้ต้องสงสัยอื่นอีก 6 คน นำไปสู่การวิจารณ์ว่าบุคคลในภาพเป็นทหาร 
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวชี้แจงว่า ห้างดังกล่าวถูกเผาในช่วงเวลา 14.00-15.00 น. ซึ่งขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุได้ ในขณะที่เพลิงกำลังเริ่มไหม้นั้นมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามจะเข้าไปดับไฟ แต่ถูกยิงต่อต้านจากกำลังไม่ทราบฝ่ายจนต้องถอยออกมา และได้ติดต่อมาที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพื่อขอกำลังคุ้มครอง ทำให้ต้องส่งเจ้าหน้าที่ทหารบางส่วนไปจากทางด้านเพลินจิต เพื่อคุ้มครองการดับเพลิง 
    แต่เนื่องจากพื้นที่ยังคงไม่มีความปลอดภัย จึงต้องถอยกลับออกมา โดยเจ้าหน้าที่ทหารจากแยกปทุมวันก็พยายามเคลื่อนที่เข้ามาเพื่อคุ้มครองการดับเพลิงด้วยเช่นกัน แต่ต้องตัดสินใจหยุดอยู่แถวสถานีรถไฟฟ้าสยาม  เพราะถูกต่อต้านด้วยอาวุธ อีกทั้งเกรงว่าถ้าในพื้นที่ยังคงมีการใช้อาวุธกันแล้ว อาจจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่ทหาร ทำให้การเข้าพื้นที่เป็นไปด้วยความระมัดระวัง ซึ่งกว่าจะเข้าไปได้จริงก็เป็นช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยทุกจุดได้ถูกเผาทำลายเสียหายไปจนหมดแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ในช่วงเวลาที่ห้างฯ ถูกเผา
    พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ที่ทีมดับเพลิงของ พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยกลุ่มบริษัท  เซ็นทรัลพัฒนาฯ อ้างว่าถูกทหารสกัดไม่ให้ไปดับไฟในบริเวณห้าง เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะไปพิจารณาเอาเองจากการแต่งกาย ซึ่งในปัจจุบันการแต่งกายคล้ายทหารจะพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ได้มีแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่สวมใส่ ที่สำคัญที่ผ่านมามีผู้ที่กระทำความผิดหลายคนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ก็จะแต่งกายในลักษณะนี้หลายคน 
    “กองทัพบกขอวิงวอนไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 53 อย่าได้นำเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มีองค์ประกอบของข้อเท็จจริงที่ยังไม่ครบถ้วน ไม่ตรงกับสถานการณ์จริง หรืออ้างอิงออกไปเผยแพร่ เพราะเกรงว่าจะเป็นการสร้างรอยร้าวและความสับสนให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น กองทัพบกขอย้ำว่า การปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 53 เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติตามคำสั่งและเป็นไปตามกรอบกฎหมาย มีขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจนแบบเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ประสงค์ที่จะใช้ความรุนแรง จึงขอให้ทุกฝ่ายได้ใช้ความอดทน ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินไปในขณะนี้ ซึ่งน่าจะดีที่สุด” พ.อ.วินธัยกล่าว
    นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า การเผาเซ็นทรัลเวิลด์นั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นฝีมือใคร เพราะในเวลาเดียวกันมีการเผาศาลากลางจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งก็เป็นฝีมือคนเสื้อแดง ที่ศาลก็ได้ตัดสินจำคุกไปแล้ว ตนจึงเชื่อว่าเมื่อคนเสื้อแดงเผาศาลากลางได้ ก็ต้องเผาเซ็นทรัลเวิลด์ได้ ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานในเรื่องนี้ ทั้งคลิปวิดีโอการปราศรัยของบรรดาแกนนำทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีการปราศรัยปลุกระดมให้ประชาชนไปรวมกันที่ศาลากลาง โดยเฉพาะคำพูดของนายณัฐวุฒิที่บอกว่า “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” นอกจากนั้นก็มีคลิปจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ในขณะที่เกิดเพลิงไหม้ ทั้งที่ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ รวมทั้งคลิปของชาวต่างชาติ ที่บอกชัดว่าเขากำลังจะไปปล้นเพชรและทองในเซ็นทรัลเวิลด์ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้
    “ผมอยู่ใน ศอฉ. อยู่ในเหตุการณ์ตลอด ยืนยันได้ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ และไม่ได้ฆ่าประชาชน เพราะไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะทำเลย เนื่องจากการชุมนุมได้จบไปแล้ว”
    นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ผ่านมา 3 ปีแล้ว เหตุใดกองบัญชาการตำรวจนครบาลถึงจะเพิ่งมาเร่งรัดเอาจริงเอาจัง หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์เข้ามาประกาศให้หาตัวมือเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ตนจึงไม่อยากให้การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐขึ้นอยู่กับการสไกป์ของนักโทษหนีคดี จึงอยากให้มีการเร่งรัดเอาจริงเอาจังที่จะหาตัวคนผิดมาลงโทษ
    นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชายชุดดำจากกรณีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองปี 53 กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงอย่างต่อเนื่องประมาณ 3 เดือน และได้ข้อเท็จจริงและพยานบางคนให้การว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เบื้องหลัง การสั่งการทั้งหมดให้เกิดความวุ่นวาย ผ่านนายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำ นปช.คนอื่นๆ ให้ปลุกระดมประชาชน และพูดเป็นระยะผ่านเวทีการปราศรัยที่ราชประสงค์ และผ่านโทรทัศน์ของคนเสื้อแดง ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและเกิดความฮึกเหิมและดำเนินการเผาห้างสรรพสินค้า และศาลากลางจังหวัดหรือไม่  
    "โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิบอกว่า หากตกใจก็ให้เผาห้างเกษรพลาซ่า ตกใจก็ไปเอาแบรนด์เนมและเครื่องเพชร และพลอยในห้าง เป็นต้น รวมทั้งพูดว่าเผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง จึงเป็นเหตุให้พี่น้องหลงเชื่อและไปเผาตามคำปราศรัย"
    นายวัชระกล่าวว่า วันนี้พี่น้องที่เผาบ้านเผาเมืองถูกจำคุก บ้างก็ตายในคุก ครอบครัวเกิดความเดือดร้อน แต่คนที่ได้ประโยชน์คือ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำเสื้อแดง อีกทั้งยังมาพูดแก้เกี้ยวอีกว่าจะให้เงิน 10 ล้านหากใครให้เบาะแสผู้เผาบ้านเผาเมือง อยากถามว่าที่ผ่านมา 3 ปี ทำอะไรอยู่ หรือเป็นแค่วิธีการ จะพยายามลบภาพของคนเสื้อแดงหรือไม่
    ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ บช.น.ยังไม่ได้ประสานงานการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจาก บช.น.บอกว่าจะต้องประชุมกันอีกครั้งก่อน และหากประชุมเสร็จ จึงจะส่งสำนวนมาให้ดีเอสไอ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยออกหมายจับตามภาพถ่ายในที่เกิดเหตุ คนแรกกำลังทุบกระจก และอีกคนอยู่ในบริเวณเดียวกัน และได้แจ้งข้อหาร่วมกันวางเพลิง เผาทรัพย์ผู้อื่น และเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไปแล้ว แต่ศาลได้ยกฟ้อง เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 6 คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ดีเอสไอมีสำนวนอยู่แล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการทำงานร่วมกับตำรวจนครบาล เพราะตำรวจนครบาลมีหน้าที่ในการสอบสวน ซึ่งต้องมีการประสานงานร่วมกัน และคาดว่า บช.น.จะจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้
    ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก  วันเดียวกันนี้ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 20 พฤษภาคม 2553 ต่อเนื่องกัน เพื่อกดดันให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา
    พ.ต.อ.ศณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 ขึ้นเบิกความเป็นพยานปากที่ 3 สรุปว่า พบว่ามีการใช้อาวุธสงคราม เช่น ระเบิดเอ็ม 79 และอาวุธปืนเอ็ม 16    การปะทะกันในวันดังกล่าวมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายปะปนอยู่ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนทำการสืบพยาน ศาลได้กล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาทางกฎหมาย นปช. ที่ระบุว่า “การเข้าร่วมรับฟังการสืบพยานคดีนี้ เพราะส่วนตัวมีความกังวลในเรื่องของความยุติธรรมและกระบวนการของศาลไทยในการไต่สวนและสืบพยาน เนื่องจากคดีนี้ในองค์กรระหว่างประเทศ ถือเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง” ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ที่ชาวต่างชาติพูดให้สัมภาษณ์กระทบเกี่ยวกับการพิจารณาคดีของศาลไทย และในการสืบพยานครั้งหน้า หากมีชาวต่างชาติมาร่วมรับฟังการพิจารณาคดี จำเลยจะต้องแจ้งต่อศาลให้ทราบด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น