วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปูส่งเหลิมล้างผิดแม้ว 163ขี้ข้ายัดปรองดองเข้าสภา-1ส.ค.เลื่อนวาระด่วน ข่าวหน้า 1 24 May 2556 - 00:00

ปูส่งเหลิมล้างผิดแม้ว 163ขี้ข้ายัดปรองดองเข้าสภา-1ส.ค.เลื่อนวาระด่วน



จับเหี้ยได้แล้ว! หลัง 163 ส.ส.เพื่อไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภา ยันทำเพื่อช่วยทักษิณเป็นหลัก เผยริเริ่มโดย “เหลิม” ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ “พีรพันธุ์” แบไต๋เปิดสภา 1 สิงหา.มีแนวโน้มเลื่อนขึ้นเป็นวาระด่วน จับตาขมวดรวมกับร่างนิรโทษฯ ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตเสื้อแดงแฉฉบับวรชัยสอดไส้ช่วยแกนนำ ผู้สั่งการและทหาร ตอกเอื้อประโยชน์ฝ่ายการเมือง แต่ประชาชนตายฟรี เตรียมรวมญาติผู้สูญเสียทุกสีแถลงคัดค้าน ด้านพันธมิตรฯ นัดกำหนดท่าทีวันจันทร์นี้    
    ร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มี ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยจำนวน 163 คน ร่วมลงนามสนับสนุน ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีได้เสนอต่อรัฐสภาแล้ว โดยนายพีรพันธ์ พาลุสุข, นายสุรจิตร ยนต์ตระกูล และ พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย พร้อมด้วยส.ส.เพื่อไทยอีก 13 คน ได้เป็นตัวแทนยื่นผ่านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายพีรพันธุ์กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต้องการนิรโทษกรรมให้กับความผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความปรองดองและความสามัคคีในประเทศ
“ยืนยันว่า พ.ร.บ.ปรองดองมาจากการริเริ่มของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลความมั่นคง” นายพีรพันธุ์กล่าว 
นายพีรพันธุ์กล่าวต่อว่า เนื้อหาในร่างมีเพียง 5 มาตรา ตอนแรกมี 6 มาตรา โดยได้มีการตัดมาตรา 5 ที่จะไปเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองออกไป เพราะเกี่ยวข้องกับการเงินที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ จะต้องลงนามรับรองออกไป เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลได้เยียวยาไปเรียบร้อยแล้ว
“ส่วนหัวใจหลักสำคัญ พ.ร.บ.ปรองดองฉบับนี้ คือ มาตรา 3 ที่ยกเว้นความผิดทั้งหมด ตั้งแต่ 2549 จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาที่ตัดสินไปแล้ว หรืออยู่ระหว่างการสอบสวนหรือดำเนินการฟ้องร้องอยู่ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง รวมถึงผลพวงของคณะรัฐประหาร ให้ถือว่าไม่มีความผิดต่อไป”
เขากล่าวว่า สำหรับมาตรา 4 ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าทำเพื่อคืนเงินจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาทแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวศาลได้ตัดสินให้ตกเป็นของแผ่นดินไปแล้ว หากจะคืนเงินแนวทางที่ทำได้คือไปออกกฎหมายเรียกคืนเท่านั้น
    “ผมยอมรับว่าเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณได้รับผลกระทบมากที่สุด หากพวกเราไม่ใส่ใจท่าน ต่อไปจะอยู่ได้อย่างไร” นายพีรพันธุ์ตอบคำถามที่ว่า งานนี้จะผลักดันแน่นอน ไม่หลอก พ.ต.ท.ทักษิณอีกใช่ไหม
     ผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดปรากฏการณ์ตัวเงินตัวทองอยู่บนเพดานโถงอาคารรัฐสภา 1 ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับที่แถลงข่าว จะถือเป็นลางบอกเหตุทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ นายพีรพันธุ์หัวเราะก่อนตอบว่า ตัวเงินตัวทองรู้ว่าพวกเราจะมายื่นก็จะมาขอปรองดอง
เหี้ยก็อยากปรองดอง
“ขนาดเหี้ยยังอยากปรองดอง แล้วคนอย่างเราจะไม่ปรองดองได้อย่างไร” นายพีรพันธุ์กล่าว และว่า ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม มีแนวโน้มว่าอาจจะเลื่อนระเบียบวาระเมื่อเปิดประชุมสภาในวันที่ 1 สิงหาคมแล้ว แต่ต้องไปหารือกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ว่าจะไปไว้รวมกับร่าง พ.ร.บ.ของนายวรชัย หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับ ที่อยู่ในระเบียบวาระของสภาหรือไม่
พ.ต.อาณันย์กล่าวว่า การเสนอกฎหมายดังกล่าวคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดความปรองดอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการนับหนึ่ง และ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาและความขัดแย้ง แต่เป็นเป้าหมายที่ถูกจำกัด และ พ.ต.ท.ทักษิณก็ต่างจากผู้นำในยุคตุลา 16 เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีได้ทำประโยชน์ให้ประเทศมากมาย ดังนั้นเมื่อกฎหมายเข้าสภา หากเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรก็จบ
“วันนี้มีแต่เผด็จการเสียงข้างน้อยออกมาขัดขวาง หากเสียงข้างมากทำไม่ถูก ก็จะทำให้กลายเป็นเสียงข้างน้อย แต่หากเสียงข้างน้อยทำไม่ถูก ก็จะเป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ อยากบอกว่า เพื่อนๆ ทะเลาะกันทุกวัน พ่อแม่จะไม่ทุกข์ใจหรือ เพราะวันนี้ผู้ที่คัดค้านมีอยู่ 2 ส่วน คือคนที่ไม่เข้าใจกับคนที่เสียประโยชน์” พ.ต.อาณันย์กล่าว
    หลังการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร (ศปภ.กทม.) นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 15 นาย ดำเนินการจับตัวเงินตัวทอง ขนาดความยาวประมาณ 1.5 เมตร ภายในบริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 หลังจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ได้มีความพยายามของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิตที่จะดำเนินการจับตัว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบบริเวณเพดานห้องโถงรัฐสภา ปรากฏว่าตัวเงินตัวทองได้คลานไปยังเพดานของห้องทำงาน ส.ส. ระหว่างนี้เอง นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ และนายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาฯ ได้เข้ามาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงสามารถจับตัวเงินตัวทองซึ่งมีบาดแผลบริเวณเล็บเท้าอยู่ประมาณ 4-5 จุดได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำยามาใส่แผลให้และนำตัวไปพักฟื้นที่ ศปภ.กทม.สามเสน ก่อนปล่อยตัวกลับคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป
นายวัฒนากล่าวว่า ตัวเงินตัวทองเข้ามาในสภาถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะต่อไปรัฐสภาจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามา
ด้านความเคลื่อนไหวของ ร.ต.อ.เฉลิม ในช่วงบ่ายวันเดียวกันได้เตรียมเดินทางไป จ.อุดรธานี เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยของชมรมคนรักอุดรฯ โดยจะใช้เวลาพูดเรื่องทางการเมืองหลายเรื่อง รวมถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.ปรองดองด้วย
          นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ  แกนนำในการจัดงานครั้งนี้เผยว่า งานในวันที่ 24 พฤษภาคม จะมีพี่น้องมาร่วมชุมนุมรับฟังการปราศรัย 7-8 หมื่นคนแน่นอน และ ร.ต.อ.เฉลิมจะขึ้นเวทีในช่วงเย็นราว 18.00 น. ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น ไม่เข้าใจว่า ส.ส.หลายคนที่เกาะกระแสเหตุการณ์พฤษภาปี 53 จนได้เป็นผู้แทนราษฎร ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ไม่อยากสนับสนุน คนพวกนี้ลืมคำที่เคยหาเสียงกันไปหมดแล้วได้อย่างไร การนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน คือเป้าหมายหนึ่งที่บรรดา ส.ส.หลายคนก็ใช้ในการหาเสียงมาตลอด แต่เมื่อเดินทางกันมาจนวันนี้กลับไม่เห็นด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 23 พ.ค. มีการตั้งเวทีที่ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี บนเวทีเขียนข้อความระบุชัดเจนว่า “เอาทักษิณกลับบ้าน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นเอชเคของประเทศญี่ปุ่นว่า ความขัดแย้งในไทยที่เกิดขึ้นจะสงบลงได้ด้วยการที่ทุกฝ่ายอดทน พูดคุยกันตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อนำชาติกลับสู่ความสันติ เช่นเดียวกันกับเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ที่ทุกประเทศต้องใช้ความอดทนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ลดขัดแย้ง
ขวางนิรโทษยกเข่ง
ขณะที่ นายณัทพัช อัคฮาด น้องชาย น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามฯ ระหว่างการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 กล่าวถึงความพยายามผลักดันจากฝ่ายการเมืองในการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ว่าเป็นสิทธิที่ใครจะยื่นเสนอกฎหมายเป็นเรื่องของเขา แต่ในนามของกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต มองถึงพ.ร.บ.ปรองดอง 4-5 ฉบับที่เคยเสนอมา มีสิ่งที่เห็นด้วยเพียงเรื่องเดียวคือการให้นิรโทษฯ ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้เขาได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานออกมาต่อสู้คดี ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นให้นิรโทษฯ แกนนำ ผู้สั่งการ ทหาร ไม่เห็นด้วย
“พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ตอนแรกบอกไม่คุ้มครองทหาร แกนนำ และผู้สั่งการ แต่ไปๆมาๆ วันยื่นร่างเพิ่งรู้จาก ส.ส.บางคนบอกมีการสอดไส้  แกนนำ และทหารจะได้ประโยชน์ด้วย และเรื่องนี้เขาก็ทำกันเอง ไม่เคยมาถามพวกเราเลย และไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ฉบับไหน เห็นว่าเป็นการปกป้องทหารให้พ้นจากข้อกล่าวหาทั้งสิ้น” นายณัทพัชกล่าว
    นายณัทพัชกล่าวต่อว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่ออกมา ฝ่ายการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ประโยชน์ เช่นเดียวกับกองทัพ  แล้วประโยชน์ญาติคนเจ็บคนตายอยู่ที่ไหน ถึงมี พ.ร.บ.ออกมาแล้วมีอะไร รับประกันได้หรือไม่ว่าคนในประเทศจะปรองดองกันได้จริงๆ ที่เราเงียบๆ ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ทำอะไร 
“สัปดาห์หน้าจะมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ในนามของกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะสีเสื้ออะไร จากทุกเหตุการณ์  จะมาร่วมแถลงข่าวแสดงความเห็นไปยังฝ่ายการเมือง ที่พยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม แต่เท่าที่คุยกันเบื้องต้นเขาเห็นด้วยที่จะให้ประชาชนออกมา แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ปล่อยแกนนำ ผู้สั่งการ” นายณัทพัชกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เคยหารือกับนางนิชา ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ด้วยหรือไม่ นายณัทพัชบอกว่า มีโอกาสหารือกับภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 10 เม.ย.53 ซึ่งก็เห็นเหมือนกัน คือเห็นด้วยหากจะนิรโทษฯ ให้ประชาชน เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครฆ่าสามี เช่นเดียวกับตน ก็อยากรู้ใครฆ่าพี่สาว ตอนนี้เราพยายามแยกเรื่องประชาชนออกจากการเมือง กำลังคุยกันพยายามจะรวมทุกสีเสื้อให้ได้เพื่อประกาศออกมาเป็นแนวทางของเรา
    เมื่อถามว่า อะไรคือสาเหตุในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายณัทพัชกล่าวว่า น่าจะเป็นการต่ออายุให้รัฐบาล คาดการณ์ได้เลย ฝ่ายที่ยื่นร่าง พ.ร.บ.จะออกมากล่าวหาพวกเรา ว่าไม่อยากให้นักโทษออกจากคุก เชื่อได้เลยเขาจะเอาตรงนี้เป็นข้ออ้าง แต่ไม่ใช่ ที่ห้ามคือไม่อยากให้พวกคุณหลุดไปฟรีๆ แล้วญาติคนตายไม่ได้อะไร คุณก็พูดได้เพราะญาติพวกคุณไม่ได้มาเจ็บ มาตายจากการชุมนุม ลองญาติของพวกคุณสักคนมาตายจากการชุมนุมสิ  คุณจะกล้าให้ผู้สั่งการได้ด้วยหรือไม่
    ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็จะได้ประโยชน์ด้วยหรือไม่ นายณัทพัชกล่าวว่า ตรงนี้ไม่ทราบ ไม่รู้ ก็พูดในภาพกว้างๆ ขอให้คิดถึงประชาชนเป็นหลัก อยากให้ไปถามประชาชน ไปทำโพลก็ได้ วันนี้พร้อมปรองดองกันหรือยัง มั่นใจเลยว่าเขายังไม่พร้อม ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เหมือนล้างไพ่ แล้วมาเล่นการเมืองกันใหม่
    ด้านนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ในฐานะแกนนำ 42 ส.ส. เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ระบุว่าเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเขียนไว้แบบกว้างๆ น่ากลัว และอาจมีปมซ่อนเงื่อนว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ได้เสนอเข้าสู่สภาไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อน เจตนามุ่งหมายช่วยเหลือประชาชนผู้เป็นเหยื่อทางการด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือเสื้อสีอะไร ล้วนได้อานิสงส์หมด
นายวรชัยอ้างว่า เราเขียนไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรมแกนนำ คนสั่งการ แต่นายอภิสิทธิ์แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ เพื่อทำลายความชอบธรรมใช่หรือไม่ ถ้ามีอะไรสงสัยก็ไปอภิปรายถามกันในสภา ยินดีตอบทุกคำถาม ตนเสนอกฎหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้เสนอกฎโจร ส่วนที่ระบุว่าอาจมีการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปรวมพิจารณากับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น  ยืนยันว่าหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นคนละเรื่องกับฉบับอื่นๆ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ยังไม่มีการพิจารณาหรือตั้งคณะกรรมาธิการอะไรเลย จะร่วมกันได้อย่างไร
ชี้ปลายทางเพื่อทักษิณ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมเข้าสภาว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะตนบอกมาตลอดว่าสุดท้ายก็ต้องเดินต่อเนื่อง เพราะเป็นผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคงจะมีการผลักดันให้ผ่าน ซึ่งการที่รัฐบาลเดินเกมสองหน้า โดยพรรคเพื่อไทยสนับสนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของนายวรชัย แต่ยังเสนอร่างกฎหมายของ ร.ต.อ.เฉลิมเข้าสภาด้วยนั้น เป็นเพราะสุดท้ายต้องไปจบที่ผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
“เชื่อว่าประชาชนมองออก และมีแต่ในหมู่คนเสื้อแดงที่ไม่สนับสนุนร่างของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็อาจจะกดดัน แต่สุดท้ายแล้วก็คงพยายามหาคำตอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ดี ส่วนปลายทางจะใช้วิธีเอามารวมกันพิจารณา หรือแปรญัตติก็ต้องให้สังคมจับตาและตรวจสอบตลอดเวลา เพราะถ้า ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่ากฎหมายสองฉบับนี้ไม่สามารถนำมาพิจารณารวมกันได้เพราะหลักการต่างกันนั้น ผมก็จะได้อ้างในเวลา ที่มีการเสนอให้พิจารณารวมกันว่าทำไม่ได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า ร.ต.อ.เฉลิมเพลี่ยงพล้ำ เช่นยอมรับว่าเป็นกฎหมายการเงิน ตอนนี้ก็พยายามแก้ไขไม่ให้เป็นกฎหมายการเงิน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แม้ ร.ต.อ.เฉลิมจะตัดมาตรา 5 พ.ร.บ.ปรองดองออกไป แต่กฎหมายดังกล่าวก็ยังเป็นกฎหมายการเงินอยู่ เนื่องจากในมาตรา 4 ที่ยกเลิกคดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทั้งหมดเป็นการก่อให้เกิดสิทธิที่จะเรียกร้องต่อรัฐได้ ดังนั้นการเสนอกฎหมายนี้ต้องให้นายกรัฐมนตรีลงนาม แต่คาดว่าคงมีความพยายามที่จะตีความว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน เหมือนกับที่เคยมีปัญหาในการเสนอกฎหมายปรองดองที่ค้างอยู่ในสภาว่าไม่ใช่กฎหมายการเงินมาแล้ว จึงต้องดูว่าคราวนี้จะทำอย่างไร
    เขายังกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิมเตรียมรายงานสหประชาชาติ ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของไทยไม่เป็นไปตามหลักสากลเพราะพิจารณาศาลเดียวว่า การรายงานตามสนธิสัญญาก็ต้องรายงานตามข้อเท็จจริง แต่ในหลายประเทศก็มีการพิจารณาศาลเดียวเช่นเดียวกัน โดยเห็นว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็เป็นความพยายามที่จะรุกคืบกดดันเพื่อไปสู่จุดที่เป็นเป้าหมายคือประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นคนที่ก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณก็คือรัฐบาล
    นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน   กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงเปิดสภาสมัยสามัญเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย แล้วจะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่เพิ่งยื่นเสนอในวันนี้ เข้ามาประกบในการพิจารณาวาระที่ 1 จากนั้นก็จะใช้เสียงข้างมากรับไปทั้ง 2 ร่างเพื่อพิจารณาร่วมกันในขั้นตอนแปรญัตติ หรือรวมทั้งร่างอื่นๆ ที่ค้างอยู่ในสภาก่อนหน้านี้ด้วย หรือรับไปร่างเดียวแต่ไปแปรญัตติขยายความเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้
    “แม้ไม่มีสัญญาณสนับสนุนหรือใบสั่งชัดเจนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ไม่ได้สั่งหยุดหรือสั่งห้ามการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์เต็มๆ เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทยไม่แสดงท่าทีชัดเจนต่อการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ก็เพราะเกรงว่าคนเสื้อแดงบางกลุ่มจะไม่พอใจ เพราะเป็นการนิรโทษฯ ทหาร และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลด้วย จึงใช้วิธีลับ ลวง พราง หลิ่วตาให้ ส.ส. 163 คนเดินเกมเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และอธิบายคนเสื้อแดงแทน” นายสุริยะใสกล่าว
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์  โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่เลวร้ายลง ในที่สุดแกนนำพันธมิตรฯ ได้มีมติเห็นชอบให้มีการประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์ และอาจมีการกำหนดมาตรการหรือการเคลื่อนไหวต่อไป โดยกำหนดให้นัดประชุมและแถลงข่าวในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ที่บ้านพระอาทิตย์ เวลา 12.00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น