วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฉลองเผาเมือง! ‘เต้น’ปลุกแดงไหลเป็นลาวา/‘เกษียร’:ปรองดองที่เลวร้าย เมื่อ 18 พ.ค.56


ฉลองเผาเมือง! ‘เต้น’ปลุกแดงไหลเป็นลาวา/‘เกษียร’:ปรองดองที่เลวร้าย




รำลึกครบรอบ 3 ปีไฟท่วมกรุง "เผาไปเลย ผมรับผิดชอบเอง" ตอกย้ำเสื้อแดงมากับไฟ ร่ายบทกลอนเปรียบเปรยเป็น "ลาวาสีแดงสุดแรงร้อน เคลื่อนสู่มหานครไม่ขาดสาย" คึกคักลั่นนายใหญ่สไกป์มาแน่ เพื่อแม้วอ้อมแอ้ม อ้าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับล้างผิด-คืนเงิน เป็นเรื่องส่วนตัวของ "เฉลิม" ยังไม่ใช่มติพรรค "เกษียร" ชำแหละด็อกฯ เหลิม-149 ส.ส.เพื่อไทย กำลังเลือกทางเดินเลวร้ายที่สุด  
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวเมื่อวันเสาร์ถึงร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่า จุดยืนของนปช.ยังเหมือนเดิม คือจุดยืนเรื่อง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมที่ได้เสนอในสภา และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีแนวทางเดียวกัน  ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็อยู่ภายใต้หลักการเดียวกัน คือทำให้บ้านเมืองคืนสู่ภาวะปกติ
      “ส่วนที่แตกต่างคือแกนนำ คนสั่งฆ่าประชาชน ได้หมด แต่ถ้าจะเดินหน้าร่างฉบับนี้ คงต้องมาปรึกษาหารือกันอีกครั้ง และไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาขัดแย้งกัน ถ้าได้นั่งคุยกันจะนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของพวกผม แลกเปลี่ยนกับร.ต.อ.เฉลิมด้วย เมื่อฝ่ายเดียวกัน มีข้อเสนอคลี่คลายปัญหาเราก็ควรเปิดโอกาสให้ท่านได้อธิบาย” นายณัฐวุฒิ กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า นปช.จะอธิบายกับคนเสื้อแดงอย่างไร หากยกมือสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม นายณัฐวุฒิบอกว่า การที่จะยกมือสนับสนุนคงอีกไกล แต่สิ่งที่ปรากฏชัดต่อสังคมคือ นปช.ได้เสนอไปแล้ว และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับของตนก็ยังค้างอยู่สภา แต่หาก ร.ต.อ.เฉลิมจะเสนอเข้าสภา ก็เป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้
    สำหรับการจัดงานรำลึกครบรอบ 3 ปีของคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ในวันอาทิตย์นี้ นายณัฐวุฒิ   บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะสไกป์เข้ามาเวลา 20.30 น. คงจะมีการพูดถึงเหตุการณ์การเมืองวันนี้ ภาพรวมทั้งหมด แนวทางของคนเสื้อแดง คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมถึงหลักแสนคน เพราะประชาชนตื่นตัวในการออกมาแสดงพลัง
    นายณัฐวุฒิยังได้โพสต์บทกลอนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เป็นลาวาสีแดงสุดแรงร้อน เคลื่อนสู่มหานครไม่ขาดสาย มารำลึกกลางถนนมีคนตาย มาประกาศความหมายประชาชน ราชประสงค์ พรุ่งนี้พบกันครับ”
ตร.เชื่อแดงพับเพียบม็อบ
    ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในวันที่ 19 พ.ค. ที่ นปช.จะจัดกิจกรรมรำลึก 3 ปีว่า มีความมั่นใจ สามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้กำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบในวันดังกล่าว พร้อมกับจะไม่ให้มีการปิดถนนเด็ดขาด ขณะที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้ประกอบการบริเวณแยกราชประสงค์ก็ได้พูดคุยทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยืนยันว่าจะชุมนุมด้วยสงบ และจะไม่มีการชุมนุมยืดเยื้อ         
    นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม  ว่า กลุ่ม 42 ส.ส.ที่เข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมติพรรค แต่ขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยยังสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอยู่ ส่วน พ.ร.บ.ปรองดองยังไม่มีการพูดถึง คงต้องให้เวลา ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงทำความเข้าใจอย่างหนักในช่วง 3 เดือนนี้
    “แม้ ร.ต.อ.เฉลิมจะมีเจตนาดี แต่อารมณ์ร่วมของสังคมขณะนี้ยังไม่เอาด้วย เพราะยังติดใจว่าจะมีการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และปัญหาสำคัญคือ จะตอบคำถามญาติพี่น้องคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างไร เพราะเป็นการนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่าย รวมทั้งคนสั่งการฆ่าประชาชนด้วย จะถูกมองว่าเป็นการซูเอี๋ยกันหรือไม่ และจะมีการถนอมน้ำใจ เยียวยาคนเสื้อแดงอย่างไร ต้องตอบคำถามให้ได้จริงๆ ว่าเป็นการช่วยเหลือทุกฝ่ายจริงๆ ไม่ใช่ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคงตอบลำบาก จึงเป็นงานหนักของ ร.ต.อ.เฉลิม ในการชี้แจงที่ต้องใช้เวลา”
    นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นการทำตามสัญญาของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่บอกว่าจะพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน ซึ่งตนเคารพในความคิดของร.ต.อ.เฉลิม แต่ส่วนตัวยังยืนยันจุดยืนเดิมว่า คนที่สั่งการฆ่าประชาชนต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ความปรองดองจะเกิดก็ต่อเมื่อความยุติธรรมเกิดขึ้น ดังนั้นการเกี้ยเซี้ย กวาดขยะเข้าใต้พรม ไม่ทำให้เกิดความปรองดอง จะยิ่งทำให้ประชาชนค้างคาใจว่าฆาตกรยังไม่ถูกลงโทษ
    นพ.เหวงกล่าวว่า ขณะนี้ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยยังมีมติสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หากเปลี่ยนท่าทีสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม พรรคก็จะเสียหาย ถูกมองว่าเปลี่ยนจุดยืน ส่วนกรณีที่เครือข่ายเสื้อแดงบางส่วนไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ปรองดองนั้น เชื่อว่าคงไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มคนเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทย เพราะจุดยืนของคนเสื้อแดงคืออยากเห็นการมีประชาธิปไตย เพียงแต่อาจมีมุมมองที่แตกต่างกันบ้าง เพราะคนเสื้อแดงมีจำนวนมาก
    ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันที่ 19 พ.ค. คนเสื้อแดงจะออกมาชุมนุมเพื่อรำลึกเหตุการณ์ความสูญเสียของประเทศ แต่หนึ่งสิ่งที่คนเสื้อแดงควรทำคือ ทำความเคารพประชาชนที่ประกอบอาชีพ ทั้งในบริเวณดังกล่าวและพื้นที่ต่างๆ ของ กทม.ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง นอกจากนี้ ตนอยากให้คนเสื้อแดงตั้งคำถามกลับไปยังแกนนำต่อเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะขณะนี้ทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาตอบรับกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่สำคัญเนื้อหาของกฎหมาย ยกความผิดให้ทุกกลุ่มทุกฝ่าย รวมถึงคนที่แกนนำคนเสื้อแดงอ้างว่าเป็นคนสั่งฆ่าประชาชนด้วย
ปชป.ฉะละครต้มเสื้อแดง
    “นายณัฐวุฒิต้องอธิบายกับประชาชนที่จะเข้าร่วมชุมนุมว่า 3 ปีที่ผ่านมาเป็นเพียงละครบทหนึ่ง ที่แกนนำคนเสื้อแดงสร้างขึ้นมา เพื่อหวังที่จะล้างผิด คืนทรัพย์สิน และทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศได้อย่างอิสระ และเผอิญว่าละครฉากนี้มันสมจริงเกินไปจนคนเสื้อแดงที่ตายจริงและตายฟรี” นายชวนนท์กล่าว
    นายชวนนท์กล่าวอีกว่า ตรงนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เจ็บปวด ที่คนเสื้อแดงกลายเป็นเหยื่อทางการเมือง และคำพูดที่บอกว่าจะเอาคนผิดมาลงโทษ ก็กลายเป็นเพียงลมปากของแกนนำคนเสื้อแดง เพราะกฎหมายดังกล่าวจะไม่มีการค้นหาความผิดและผู้บงการ เป้าหมายสุดท้ายคือล้างผิดให้ตัวเอง
    โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตว่าคนที่ถูกกล่าวหาอย่างนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ กลับกลายเป็นคนที่ต่อสู้ ปฏิเสธกฎหมายปรองดองล้างผิด แต่คนที่กล่าวหาคนอื่นกลับเดินหน้าขอล้างผิด ตนไม่แน่ใจว่าคนอย่างนายณัฐวุฒิ, นายวรชัย, นพ.เหวง, นายจตุพร และนางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง อาจจะรู้ว่าฆาตกรตัวจริงคือใคร จึงต้องรีบออกกฎหมายล้างผิดให้พวกเดียวกัน
    นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ครบรอบ 3 ปีที่แยกราชประสงค์ว่า แกนนำ นปช.ต้องการเลี้ยงกระแสนี้ ไว้ทุกปี เพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงห่างเหิน และเพื่อชี้นำอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าย่านแยกราชประสงค์ที่เสียภาษีให้รัฐ ไม่อาจห้ามการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ได้ เพราะรัฐ
บาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คอยหนุนหลังคนเหล่านี้ทุกรูปแบบ แม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิมก็ประกาศยอมรับกลางสภาว่าเป็นพวกเดียวกัน ใครจะทำไม ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม แต่คนเสื้อแดงก็รู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบิดาของพวกเขาได้รับผลกระทบมากกว่า จึงไม่แคร์ใครทั้งผู้ประกอบการและคนกทม
    นายวัชระกล่าวต่อว่า สำหรับมวลชนคนเสื้อแดงที่บริสุทธิ์ ตนรู้สึกเห็นใจมากที่ตกอยู่ในเกมอำมหิตของคนเพียงคนเดียวและบริวารแกนนำ นปช. แล้วสักวันเมื่อความจริงปรากฏ พี่น้องคนเสื้อแดงจะเข้าใจว่าพวกเราทั้งประเทศต่างตกอยู่ภายใต้ตัณหาของคนที่เห็นแก่ตัวมากที่สุด ที่ไม่เคยมีคำว่าพอในชีวิต และไม่เคยเห็นชีวิตของประชาชนมีคุณค่า นอกจากตระกูลของตัวเองเท่านั้น ตนขอให้กฎแห่งกรรมทำหน้าที่ให้เร็วที่สุด
    นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของร.ต.อ.เฉลิมว่า เป็นการเสนอเพื่อเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่สนใจกลุ่มคนเสื้อแดง ตนเชื่อว่าหากมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง จะทำให้มีกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นการเสนอนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ทำให้คนที่คนเสื้อแดงกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
ชี้เหลิมหมกเม็ดช่วยแม้ว
    “อยากบอก ร.ต.อ.เฉลิมว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็น พ.ร.บ.ที่หมกเม็ด ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นหลัก ส่วนบุคคลอื่นที่ได้รับอานิสงส์ ก็ถือว่าเป็นส่วนประกอบ ถ้า ร.ต.อ.เฉลิมจะเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่อายประชาชน ผมอยากเสนอว่า ไม่ต้องเขียนถึง 6 มาตรา เขียนเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการร่างกฎหมายเพียง 2 มาตราก็พอแล้ว คือมาตรา 1 พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรก็ไม่มีความผิด และมาตรา 2 ถ้าอะไรที่เป็นความผิดก็ให้กลับไปดูมาตรา 1” นายเทพไท กล่าว
    นายเทพไท ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ยังกล่าวถึงการพิจารณาว่าด้วยเรื่องที่มา ส.ว.ว่า ขณะนี้มีการจับมือระหว่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทยและ ส.ว.บางส่วน เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ และมีการต่อรองเงื่อนไขในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่มีการสรุป หรือหาข้อยุติในบางประเด็นไว้แล้ว แต่มีความพยายามให้นายใหญ่ลงมาสั่งการล็อบบี้ และบังคับให้เป็นไปตามความต้องการของ ส.ว. มีความพยายามกลับมติเหมือนกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่พรรคเพื่อไทย แพ้มติในวาระ 2 จากนั้นเพียง 1 คืนที่ พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์มา ก็มีการกลับมติ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ในการแก้ไขประเด็นวาระของ ส.ว. โดยที่ประชุมได้มีข้อยุติว่าให้ ส.ว.เลือกตั้ง มีวาระ 4 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับวาระการเมืองฝ่ายอื่นๆ
นายเทพไทกล่าวอีกว่า แต่เมื่อมีการพิจารณาสรุปร่างเพื่อจะนำเสนอสภาใหญ่ ก็มี ส.ส.เพื่อไทย และ ส.ว.บางส่วนเสนอให้เปลี่ยนแปลงเป็นวาระ 6 ปีตามเดิม ซึ่งก็ได้รับเสียงคัดค้านจากกรรมาธิการซีกพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้วิธีการนับองค์ประชุม จนทำให้องค์ประชุมล่ม ทั้งนี้เชื่อว่าในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. น่าจะมีการโหวตเปลี่ยนวาระของส.ว. ให้เป็น 6 ปี ตามความต้องการของ ส.ว. โดยเร่งรีบแก้ไขให้กฎหมายฉบับนี้ทันการหมดวาระของ ส.ว. ในวันที่ 2 มี.ค.2557 เพื่อสอดคล้องกับ ส.ส.บ้านเลขที่ 109 ที่ปลดล็อก 5 ปี เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ส.ว.ได้โดยสะดวก
    "นอกจากนี้ เงื่อนไขของการเข้าดำรงตำแหน่งของ ส.ว. ไม่กำหนดคุณสมบัติว่าคนที่เคยเป็น ส.ส. อดีต ส.ว. คู่สมรส ลูกหรือใครก็ตาม จึงถือว่านี่เป็นการปล่อยผีครั้งใหญ่ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง" นายเทพไทกล่าว
    นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะผู้ดำเนินการประสานทุกฝ่ายการเมือง เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างความปรองดองด้วยการออกกฎหมาย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานดังกล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประสานกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหารือเพื่อสร้างแนวทางปรองดองที่ตนได้ดำเนินงาน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม
    นายเจริญกล่าวว่า ส่วนเหตุผลที่ตนต้องชี้แจงในประเด็นดังกล่าวกับนายอภิสิทธิ์ เพราะเข้าใจว่าพรรคฝ่ายค้านค่อนข้างจะมีความกังวลในประเด็นนี้ เบื้องต้นเชื่อว่าระหว่างการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ค.นี้ จะมีโอกาสได้หารือกัน
    เขากล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาบรรจุร่าง พ.ร.บ.การปรองดองว่า เมื่อมีผู้ที่ยื่นเสนอต่อสภาแล้ว ตนจะพิจารณาในชั้นต้นว่าเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณเพื่ออุดหนุนหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายดังกล่าว จะส่งเรื่องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาลงนามรับรอง ซึ่งนายกฯ อาจใช้ดุลยพินิจรับรอง หรือไม่รับรองก็ได้ ขึ้นอยู่กับเหตุผลส่วนตัว โดยไม่มีกฎหมายบังคับ แต่หากนายกฯ รับรองแล้ว นายกฯ ต้องส่งคืนมาให้สภาเพื่อบรรจุในระเบียบวาระประชุมต่อไป ส่วนจะถูกหยิบยกมาพิจารณาเมื่อใดขึ้นอยู่กับ ส.ส.
ชี้ปรองดองล้างผิด-คืนเงิน
    นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นระเบิดเวลาทางการเมือง ที่อาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สังคมไทยอาจจะคาดไม่ถึง เพราะสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือการลบล้างความผิดและคืนเงินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นหลัก ข้ออ้างที่ว่าทุกสีทุกฝ่ายได้ประโยชน์นั้น เป็นแค่ความพยายามหาเหตุผลมาบังหน้า เพื่อให้การฟอกผิดทักษิณมีความชอบธรรมเท่านั้นเอง เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครหนีกระบวนการยุติธรรม มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ที่หนีกระบวนการยุติธรรม
      นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีทางปรองดองที่ดีกว่านี้สำหรับประเทศไทย แต่คุณเฉลิมและส.ส.พรรคเพื่อไทย 149 คน กำลังเลือกทางปรองดองที่เลวร้ายที่สุด แทนที่จะนิรโทษกรรมเฉพาะมวลชนผู้ชุมนุม เพื่อให้แกนนำ/ชนชั้นนำ ต้องพร้อมรับผิดต่อการตัดสินใจทางการเมืองในการชุมนุมต่อสู้
    นายเกษียรระบุว่า แทนที่จะนิรโทษกรรมเฉพาะมวลชนผู้ชุมนุม เพื่อให้ผู้สั่งการและเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการปราบปรามสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องพร้อมรับผิดต่อการใช้ความรุนแรงโดยมิชอบ แทนที่จะนิรโทษกรรมเฉพาะมวลชนผู้ชุมนุม เพื่อให้ผู้ใช้ความรุนแรงก่อการร้ายด้วยอาวุธสงครามต่อร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องพร้อมรับผิดต่อพฤติกรรมของตน
แทนที่จะยุติยกเลิกการดำเนินคดีด้วยอำนาจรัฐประหารอันมิชอบธรรมและผิดหลักกระบวนการยุติธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้นับหนึ่งฟ้องร้องดำเนินคดีกันใหม่ต่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตต่างๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถต่อสู้ปกป้องพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมปกติแทนที่จะยกเลิกผลพวงของการรัฐประหาร เพื่อให้คณะผู้ก่อการยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญต้องพร้อมรับผิดต่อพฤติกรรมของตัว จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้คิดทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในภายภาคหน้า
    “ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของคุณเฉลิมและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 149 คน (มีใครชื่ออะไรบ้างหนอ ช่วยกันจดจำไว้) จะทำให้พฤติกรรมที่แกนนำการชุมนุมตัดสินใจใช้มวลชนเป็นเบี้ยแลกชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของตน การฆ่าหมู่มวลชนบนถนนกลางเมืองหลวง-การก่อการร้ายทางการเมือง-การทุจริตประพฤติมิชอบ และการก่อรัฐประหาร ไม่ต้องถูกพิสูจน์ความผิดตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ต้องรับผิดชอบต่อฟ้าดิน และคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบของชนชั้นปกครองไทยและพรรคพวกบริวารต่อไปในอนาคต นี่คือเมืองไทยและความเป็นไทยอันอัปลักษณ์โหดร้ายทุเรศเดิมๆ ที่คุณเฉลิมและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 149  คน กำลังจะมอบไว้ให้เราและลูกหลานของเราตลอดกาลและตลอดไป” นายเกษียร ระบุ
    ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสภาสมัยวิสามัญว่า วันที่ 20 พ.ค. นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะประชุมร่วมกับคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เพื่อเสนอกรอบเวลาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที่ 29-30 พ.ค. โดยรัฐบาลเสนอให้พิจารณาเพียงเรื่องเดียว คือร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 คาดว่าจะใช้เวลาประชุม ประมาณ 25 ชั่วโมง แต่หากยังประชุมไม่แล้วเสร็จ ก็จะมีประชุมต่อช่วงเช้าวันที่ 31 พ.ค. ช่วงบ่ายจะเป็นการเปิดประชุมในส่วนของวุฒิสภา
ปูเยือนมัลดีฟส์ 31 พ.ค.
    ร.ท.หญิงสุณิสากล่าวว่า ดังนั้นคาดว่าจะสามารถปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญได้ในวันที่ 1 มิ.ย.56 ทั้งนี้ วันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีภารกิจจะต้องเดินทางไปราชการที่ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และสาธารณรัฐมัลดีฟส์  ซึ่งเป็นการนัดหมายที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
    ที่จังหวัดสิงห์บุรี บรรยากาศเวทีผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าผ่าความจริง หยุดล้มรัฐธรรมนูญ-ออกกฎหมายล้างผิดคนโกง บริเวณลานโรงเรียนวัดพรหมสาคร ถ.ธรรมโชติ อ.เมืองฯ ปรากฏบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งออกมาโจมตีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ มีการติดป้ายผ้าว่า “ลูกชาวบ้านบางระจันไม่ต้อนรับคนหนีทหาร”, “เราไม่ต้อนรับ ไอ้พวกแมลงสาบเน่า”, “ดีแต่พูดไม่เคยทำ ก็มาโกงอย่างเดียว”
    นายสุเทพกล่าวว่า การที่มีคนเสื้อแดงตามป่วนเวทีต่างๆ อย่างครั้งนี้ ตนไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเขาทำอย่างนี้หลายจังหวัดที่เราไป เขาก็พยายามาขัดขวางไม่ให้เราได้สื่อสารกับประชาชน แต่เราก็จะพยายามทุกครั้งเพื่อให้ความรู้กับประชาชน อย่างที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงราย มีการปิดสนามบินเพื่อขอตรวจค้นว่ามีคนของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่เราก็คงยอมให้เขาขู่ แต่จะยอมแพ้ไม่ได้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น