"หลานชายกำนัน" ใน อ .สะเก็ดดาว จ.เชียงใหม่ ที่ก่อเหตุฉุด "ครู" อดีตแฟนสาว ถึงในบ้านพักและกักขังหน่วงเหนี่ยวนาน 3 วัน เข้ามอบตัวสู้คดีแล้ว พบครูสาวถูกซ้อมน่วมทั้งตัว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีที่ นายศุภชัย สุวรรณ์ หรือ อู๋ อายุ 27 ปี หลานชายกำนันตำบลแม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ก่อเหตุฉุด น.ส.จิราพร พรหมวงศ์ อายุ 29 ปี ครูธุรการโรงเรียนแห่งหนึ่งคาบ้านพักเลขที่ 190 หมู่ 1 ต.แม่ฮ้อยเงิน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และใช้อาวุธมีดหมายจะทำร้ายนายนิรันดร์ พรหมวงศ์ อายุ 51 ปี พ่อครูสาว โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 1 พ.ค.) นายศุภชัย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่โป่ง จ.เชียงใหม่ แล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาให้การว่า ได้เรียกให้ญาติของนางสาวจิราพร เดินทางไปรับตัวกลับไปแล้ว ก่อนจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพแต่อย่างใด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านพักของน.ส.จิราพร โดยพบว่าที่ร่างกายครูสาวมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง มีรอยถูกของมีคมบาดที่มือซ้าย และที่ศีรษะด้านซ้าย และมีรอยฟกช้ำจากการถูกทุบตีที่ไหล่ขวา และมีรอยฟกช้ำอีกหลายแห่ง โดยบรรยากาศภายในบ้านมีญาติพี่น้องครูสาวจำนวนมากมาให้กำลังใจและอยู่ในอาการหยาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
น.ส.จิราพร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาตนเองตกใจและหวาดผวาอย่างมาก โดยหลังจากที่ถูกฉุดไปนั้น นายศุภชัย นำตนเองขับรถวนไปมาตามถนนต่างๆโดยไม่มีจุดหมายตลอดระยะเวลา 3 วัน โดยใช้กำลังทุบตีตนเองถึง 3 ครั้งด้วยความรุนแรง จากนั้นก็นำตนไปกักตัวไว้ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในเขตอ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ครูสาว บอกอีกว่า ระหว่างที่ถูกกักตัวที่แมนชั่นดังกล่าวนายศุภชัย จะคุมอยู่แบบไม่ให้คลาดสายตา เวลาจะไปข้างนอกก็จะนำตนเองออกไปด้วย โดยใช้มีดบังคับอยู่บนรถ นายศุภชัย แสดงอาการทางจิตที่รุนแรงตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าทางฝั่งนายศุภชัย ให้การว่า ตนเองรักและชอบพอกับนายศุภชัย นั้น ไม่เป็นความจริง ตนเลิกนายศุภชัย เพราะมีอาการหึงหวงรุนแรง ประกอบกับชอบใช้กำลังทำร้ายตนซ้ำยังมีครอบครัวและบุตรอีก 2 คน
โดยที่ตนรอดกลับมาได้เนื่องจากได้ใช้อุบายหลอกว่าจะยินยอมทุกอย่าง และอาศัยช่วงหนึ่งขอติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ของนายศุภชัย ก่อนที่จะขอให้พ่อแม่ของนายศุภชัยช่วยเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จยอมพาตัวกลับมาส่งให้กับทางตำรวจดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น