เงินโกงไม่เอาคืน รมต.แดงยันทักษิณเมิน4.6หมื่นล./ปชป.ฮาปรองดองเหี้ย
ประชาธิปัตย์ปลุกต้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับเหี้ยยังเห็นด้วย “มาร์ค” ย้ำฉบับวรชัยไม่ใช่ของจริง เพราะไม่ได้ช่วยคนโกง แต่ของจริงคือฉบับเหลิม ไม่เช่นนั้นทักษิณสั่งให้หยุดแล้ว ทีมกฎหมาย ปชป.นัดถกวันจันทร์หาช่องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่แก๊ง ส.ส.เสื้อแดงแทงกั๊ก
“ณัฐวุฒิ” อ้างเป็นเอกสิทธิ์ของผู้แทนฯ เสนอกฎหมายได้ แต่แบไต๋คุยกับเฉลิมแล้วไม่มีปัญหาอะไร จับตาชั้นแปรญัตติรวมสองร่างเป็นฉบับเดียว “โอ๊ค” โพสต์ระบุพ่อโทร.บอกขยายรางวัลแค่ให้ปากคำใครจ้างเผาเซ็นทรัลเวิลด์รับไปเลยคนละ 10 ล้าน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีผ่าความจริงฯ ที่จังหวัดเลย เมื่อวันเสาร์ ตอนหนึ่งว่า มีนิยายสร้างขึ้นใหม่บอกเสื้อแดงไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ แต่รัฐบาลขณะนั้นเป็นคนเผาเพื่อสร้างสถานการณ์เอาทหารไปยิงประชาชน ขอเตือนความจำหน่อยว่า การเผาเกิดขึ้น การชุมนุมจบแล้ว นายณัฐวุฒิ นายจตุพร ขึ้นเวทีตั้งแต่ 11 โมง รัฐบาลยังบอกว่าก่อนมอบตัวให้ส่งคนกลับบ้านให้เรียบร้อยแต่เบี้ยว รีบมอบตัว เพราะส่งสัญญาณไว้แล้วก่อนว่าเผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง มันถึงวุ่น ทำให้เกิดการเผา มีการยิงต่อสู้กันจนเกิดการเสียชีวิตบริเวณวัดปทุมฯ
“คิดว่าคนไทยความจำสั้นหรือ เพราะเผาหลายแห่ง เสื้อแดงแจ๋เลยยกพวกไปเผาช่องสาม ยังไม่นับศาลากลางที่ภาคอีสาน ศาลตัดสินลงโทษแล้ว แต่ยังกล้ามาเล่านิยายใหม่ว่าไม่เกี่ยวกับเสื้อแดง เอาง่ายๆ ถ้าคนเผา คนยิงระเบิด ไม่เกี่ยวกับเสื้อแดง แล้วจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้เขาทำไม ถ้าคนเผาและคนยิงระเบิดเป็นรัฐบาลก่อนจะนิรโทษกรรมทำไม ให้เขาติดคุกไปสิ ผมงงกับสมองพวกนี้จริงๆ”
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันก่อนเห็นนายจตุพรบอกว่าป่วย ตนเห็นใจ ที่ฟังมาเหมือนบอกว่าเจ็บหลัง ก็ไปถามดูสิว่าคนที่หักชื่อณัฐวุฒิหรือเปล่า เผื่อจะได้รู้ตัว แล้วจะได้ไปตกลงกันเองให้เรียบร้อย เพราะแว่วๆ ว่าเที่ยวนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ใครจะเป็นไม่เป็นไร เรื่องใหญ่กว่าคือกฎหมายนิรโทษกรรมพยายามสร้างความสับสนไปหมด
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันก่อนเห็นนายจตุพรบอกว่าป่วย ตนเห็นใจ ที่ฟังมาเหมือนบอกว่าเจ็บหลัง ก็ไปถามดูสิว่าคนที่หักชื่อณัฐวุฒิหรือเปล่า เผื่อจะได้รู้ตัว แล้วจะได้ไปตกลงกันเองให้เรียบร้อย เพราะแว่วๆ ว่าเที่ยวนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ใครจะเป็นไม่เป็นไร เรื่องใหญ่กว่าคือกฎหมายนิรโทษกรรมพยายามสร้างความสับสนไปหมด
“ผมฟันธงมานานแล้วว่าฉบับวรชัยไม่ใช่ของจริง เพราะไม่ได้ช่วยคนโกง ความจริงผมบอกว่าถ้านิรโทษกรรมเฉพาะคนชุมนุมตามปกติจะไม่คัดค้าน แต่ไม่มีเหตุผลนิรโทษกรรมให้คนยิงระเบิดใส่วัดพระแก้ว ยิงประชาชน ทหาร ตำรวจ และไม่มีเหตุผลที่ต้องนิรโทษกรรมให้กับคนโกง เพราะฉะนั้นผมยืนยันที่เฉลิมบอกฉบับของเขาของจริง ไม่อย่างนั้นคงไม่มี ส.ส.เซ็นเป็นร้อย ถ้าฉบับของวรชัยเป็นของจริง คงให้เฉลิมหยุดแล้ว และเมื่อวันศุกร์ก็ยังบอกจะเอาทักษิณกลับบ้าน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ตนเห็นแล้วเป็นห่วง เพราะวันแรกที่ ร.ต.อ.เฉลิมแถลงที่ทำเนียบฯ ว่ามีความคิดจะทำกฎหมายปรองดอง ที่มาปรองดองก่อนคือเหี้ยตัวหนึ่งเดินเข้ามา อาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีเหี้ยบุกสภา เจ้าหน้าที่พยายามจับ มันไปแอบบนฝ้าเพดานหายไปหนึ่งวัน โผล่อีกทีตอน ส.ส.เพื่อไทยไปยื่นกฎหมายของ ร.ต.อ.เฉลิม
“ที่อัศจรรย์คือ ส.ส.ที่ไปยื่นภูมิใจมากบอกขนาดเหี้ยยังปรองดองกับมัน ผมก็สรุปว่า เชิญมันปรองดองกับเหี้ย เพราะคนดีๆ เขาไม่เอากฎหมายแบบนี้ ไม่ต้องมาขู่ ไม่ต้องมาหลอกล่อต่อรอง ผม สุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนใจซักฉบับ ไม่ว่าจะเป็นของคนหรือของเหี้ย”
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า วันนี้พวกเรามั่นคงหนักแน่น บ้านเมืองนี้ต้องทำให้คนดีมีที่ยืน คนชั่ว คนเลว ทำผิดกฎหมาย ไปยืนในคุก แล้วเราจะเดินหน้าต่อสู้ ต่อต้าน กับความพยายามที่จะเอาชนะกฎหมายไทย ลบล้างระบบศาล ทำให้คนพาล คนโกง ไม่มีความผิด แต่เราต้องได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องทุกคน ขอพี่น้องชาวเลยยืนยันให้ถึงดูไบ ให้ถึงอังกฤษว่าเราสู้ และพวกผมจะสู้เคียงข้างพี่น้องตลอดไป
“เทือก” ขวางปู้ยี่ปู้ยำชาติ
“เทือก” ขวางปู้ยี่ปู้ยำชาติ
ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศบนเวทีว่า จะไม่ยอมให้ประเทศถูกปู้ยี่ปู้ยำอีกต่อไป เราจะลุกขึ้นสู้ จะสู้เคียงข้างพี่น้อง สู้เพื่อประเทศไทย
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ปรองดองว่า แม้ ร.ต.อ.เฉลิมจะตัดมาตรา 5 ออกไป แต่ก็ยังถือว่าเป็น พ.ร.บ.การเงินอยู่ดี เพราะมาตรา 4 ระบุถึง คตส. ซึ่งมีที่มายึดโยงกับมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญ และจะเป็น พ.ร.บ.ที่มีปัญหาถึงความชอบของกฎหมาย เนื่องจากจะเอากฎหมายชั้น พ.ร.บ.ไปง้างหรือลบล้างมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะโดยศักดิ์ของกฎหมายทำไม่ได้ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมเองก็รู้ แต่ต้องทำไปเพื่อเอาใจนายใหญ่คือฉบับเดินสุดซอย ก็ต้องเอากันให้สุดๆ จริงๆ
“ประเมินไว้ว่าเขามองเห็นช่องทางแล้ว คือต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยแก้มาตรา 309 ทิ้งไปด้วย เพื่อให้สอดรับกับปรองดองสุดซอยของ ร.ต.อ.เฉลิม หากสังเกตพรรคเพื่อไทยจะเห็นว่า เขาแยกเดิน ร่วมตี คือเดินแก้รัฐธรรมนูญควบคู่ไปกับนิรโทษกรรมหรือปรองดอง ทำเป็นคู่ขนานเพื่อให้สอดรับในการช่วยตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่มีความผิดใดๆ”
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า ตนไม่เชื่อ ส.ส.เพื่อไทยจะไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับสุดซอยอย่างที่ข่าวออกมา เพราะร่างของ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นที่ถูกใจของบรรดา 24 แกนนำแดงที่ติดคดีก่อการร้ายทั้งสิ้น รวมถึงนายใหญ่ ทั้ง 24 คนต่างกลัวหมด เห็นชัดเจนคือตอนที่ศาลแพ่งตัดสินคดีเผาเมืองว่าเป็นการจลาจล นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ถึงเนื้อเต้นวิ่งไปหา รมว.ยุติธรรมและดีเอสไอ ขอให้ถอดชื่อออกจากคดีก่อการร้ายทันที แต่ทำไม่ได้ ทั้งหมดจึงคาดหวังในฉบับสุดซอยนี้ ซึ่งนายใหญ่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณก็ชอบใจ
“แต่เอ่ยปากชมฉบับนายวรชัยแทน เพื่อรักษามวลชนเสื้อแดงไว้ใช้งานต่อ เชื่อว่าที่สุดแล้วจะมีการรวมร่างของทั้ง 2 ฉบับ โดยจะใช้หน้าปกฉบับวรชัย แต่เนื้อในยัดไส้ฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิม คือช่วยล้างผิดในทุกคดีทั้งอาญาให้ทุกคน ทั้งเผาเมือง ก่อการร้าย ยิงวัดพระแก้ว ยิงทหาร ฆ่าชาวบ้าน หลังจากแก้ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำแดงได้แล้ว จึงมาแก้รัฐธรรมนูญตามมาเพื่อคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของนักการเมือง ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิมกำลังบั่นทอนกระบวนการศาลในเวลานี้” นายนิพิฏฐ์กล่าว
เขากล่าวว่า ยากที่จะขัดขวาง เพราะเราเดินตามระบบรัฐสภา เสียงฝ่ายค้านมีไม่มากพอที่จะขัดขวางได้ เพราะวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณสั่งเดินหน้าใส่เกียร์ 5 แล้ว จึงเหลือแต่สังคมไทยและสื่อมวลชนที่เป็นฝ่ายตรวจสอบภาคสังคม ว่าเราจะยอมให้เขาล้มระบบกฎหมายของชาติเพื่อคนไม่กี่คนหรือ จะให้เขาทำสำเร็จหรือไม่ เพราะเขาประเมินแล้วว่าสังคมไทยเวลานี้แล้วทุกฝ่ายอ่อนล้าไร้แรงต้าน ขณะที่เขามีทุกอย่าง อำนาจรัฐ ทุน กองกำลังส่วนตัว ใครขวางเขาก็รุกหนัก ไม่เว้นแม้แต่ศาล คำตอบในเรื่องนี้คือ ขึ้นอยู่ที่ภาคประชาสังคมและคนไทยทั้งชาติจะยอมรับมันให้เกิดขึ้นหรือไม่
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า พรรคเตรียมที่จะหารือร่วมกับทีมกฎหมายในวันที่ 27 พ.ค. เกี่ยวกับกฎหมายปรองดอง และกฎหมายนิรโทษกรรมในรายละเอียด เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญว่า 2 ฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย
เต้นกั๊กหนุนฉบับเหลิม
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสภาว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ แต่ยืนยันว่าทั้งร่าง พ.ร.บ.ปรองดองและร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่มีแนวคิดเรื่องการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ จุดยืนของตนแสดงไปแต่แรกว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 1 ใน 4 ฉบับที่ค้างในสภา ที่ตนและคนเสื้อแดงเสนอ เป็นการนิรโทษกรรมให้ประชาชนทุกสีเสื้อ ยกเว้นคดีก่อการร้ายและการสั่งการสังหารประชาชน
“ ส่วนกรณี พ.ร.บ.ปรองดอง แม้มีความแตกต่างในสาระกฎหมาย แต่ ร.ต.อ.เฉลิมมีเอกสิทธิ์จะยื่นเข้าสู่สภาได้ ไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งได้ ถ้ามีเจตนาตั้งต้นให้ประเทศพ้นความขัดแย้ง เรื่องความคิดเห็นสามารถเห็นต่างกันได้เป็นเรื่องปกติ ผมคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิมตลอดเวลา ก็ไม่มีปัญหาอะไร” นายณัฐวุฒิกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมดหวังจะได้กลับประเทศไทยใช่ไหม นายณัฐวุฒิตอบว่า ยังหวังว่าวันหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาประเทศไทย มาพิสูจน์ความยุติธรรม แต่จะกลับในสถานการณ์ใด หลายฝ่ายต้องมาคิดร่วมกัน และจะกลับมาในสถานะใด ทุกฝ่ายต้องมาร่วมมือกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมดหวังจะได้กลับประเทศไทยใช่ไหม นายณัฐวุฒิตอบว่า ยังหวังว่าวันหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาประเทศไทย มาพิสูจน์ความยุติธรรม แต่จะกลับในสถานการณ์ใด หลายฝ่ายต้องมาคิดร่วมกัน และจะกลับมาในสถานะใด ทุกฝ่ายต้องมาร่วมมือกัน
เมื่อถามว่า ส.ส.กลุ่ม ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าจะเสนอให้เลื่อน พ.ร.บ.ปรองดองมาพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วนต่อจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เมื่อเปิดสภาก็ต้องพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมก่อน ส่วนจะเลื่อนวาระพ.ร.บ.ปรองดองมาต่อหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นว่าประชาชนคิดอ่านอย่างไร ต้องพิจารณาเป็นตอนๆ อย่าไปคิดคาดการณ์ล่วงหน้าจนเลยเถิดเป็นความขัดแย้งกัน
ถามว่า พ.ร.บ.ปรองดองจะเป็นกฎหมายเรียกแขกหรือไม่ เขากล่าวว่า ต่อให้ไม่เรียก แขกก็มากันเต็มอยู่แล้ว รัฐบาลชุดนี้อยู่เฉยๆ แขกก็ปีนรั้วเข้ามาหาอยู่แล้ว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์อยากให้ ส.ส.เสื้อแดงแสดงจุดยืนว่าจะให้การสนับสนุน พ.ร.บ.ปรองดองหรือไม่นั้น เราสนับสนุนพ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่จะให้ไปตอบเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ให้พรรคประชาธิปัตย์ขยายความเป็นประเด็นการเมือง ไม่ขอเล่นด้วย ไม่มีหน้าที่คอยตอบทุกจินตนาการของพรรคประชาธิปัตย์
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เสื้อแดง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคมีมติสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ของนายวรชัย ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของคนเสื้อแดง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเสนอให้นายกฯ ออก พ.ร.ก.นิรโทษฯ แต่ในตอนนั้น รัฐบาลยังไม่กล้า คราวนี้แค่เปลี่ยนจาก พ.ร.ก.มาเป็นพ.ร.บ.แทน ส่วน พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ต้องมาชั่งใจอยู่ว่าจะมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ถ้าเหตุการณ์อยู่ในสภาวะปกติก็สนับสนุน และยังมีร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของเดิมอยู่อีก 4 ฉบับ
นายก่อแก้วกล่าวว่า หากมีการเลือกร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็จะมีคำถามต่อมาว่า ทำไมไม่เลือกเอาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองอีก 4 ฉบับมา แต่เอาฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิมก่อน ดังนั้นเวลานี้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับของนายวรชัยเหมาะสมที่สุด
“ฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิม ยังไม่เคยนำเสนอเป็นทางการต่อที่ประชุมพรรค มีแต่รู้กันเองอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เหมือนฉบับของนายวรชัย ที่ผ่านมติของพรรค ในแนวทางนี้ เสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งผมก็ร่วมลงชื่อสนับสนุนฉบับนายวรชัย แต่ไม่ได้ลงชื่อในฉบับของเฉลิม” นายก่อแก้วกล่าว
ประชาอ้างแม้วไม่สนใจเงิน
ประชาอ้างแม้วไม่สนใจเงิน
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางพรรคเพื่อไทยมีมติเห็นชอบที่จะเลือกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะมีการพิจารณาในที่ประชุมพรรคก่อนร่างพ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม และทางร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ได้รับการบรรจุวาระการประชุมที่สภาแล้ว ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง จะต้องส่งให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาตรวจสอบก่อนว่าเข้าข่ายเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลา ทางพรรคเพื่อไทยเห็นสมควรที่จะช่วยประชาชนมาก่อน
“พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมนั้น แม้ผมร่วมลงชื่อไปด้วย แต่ก็ยังไม่อาจแสดงความคิดเห็นว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่อ่อนไหว ต้องใช้เวลาอธิบาย แต่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมมีเจตนาดี แต่จะต้องออกแรงมาก และต้องมีคำอธิบายได้กับฝ่ายค้านและกับทุกกลุ่ม และเชื่อว่าจะต้องมีกระแสต่อต้านแน่นอน” นายสมคิดกล่าว
นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าตีสองหน้าเรื่องการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ว่าเป็นการคิดเองเออเอง ตั้งโจทย์แล้วตอบเองหมด นายกฯ ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ไม่มีสิทธิ์ไปสั่งการหรือห้ามปรามการนำเสนอกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องการตีสองหน้าต้องไปถามนายอภิสิทธิ์ กรณีหนีทหาร การสลายชุมนุมที่เป็นวิกฤติลามมาถึงวันนี้มากกว่า
“พรรคประชาธิปัตย์ดีแต่กล่าวหาสร้างเรื่อง พยายามโน้มน้าวให้คนเข้าใจว่ากฎหมายที่นำเสนอเกี่ยวข้องกับการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มุมมองคับแคบ ไม่เคยคิดเรื่องอื่น ไม่เคยคิดถึงความปรองดอง หรือประโยชน์ประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณบอกกับผมว่าเรื่องเงินที่ถูกยึดไปเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไม่ติดใจ อยากเอาคืน สิ่งที่ต้องการคืนคือศักดิ์ศรีที่ถูกกระทำด้วยความไม่เป็นธรรมต่างๆ นานา และต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้ประเทศ” นายประชากล่าว
นายประชากล่าวต่อว่า วันนี้พิสูจน์แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ก้าวไม่เคยข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ติดหล่มจนไม่มีเวลาคิดทำอย่างอื่น พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับบ้านเมื่อไหร่ ก็มีสิทธิ์คิดตลอดเวลา เพียงแต่ท่านไม่อยากกลับมาตอนนี้ เพราะเป็นห่วงเรื่องความสงบเรียบร้อย แต่ตนเห็นด้วยกับร.ต.อ.เฉลิม ที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยต้นปีหน้า วันนี้ท่านถูกกระทำ ติดเงื่อนไขต่างๆ ที่ถูกตั้งขึ้นมา ต้องหาทางแก้ไขความไม่เป็นธรรมให้กลับสู่ความเป็นธรรม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังมีมติเพียงข้อเดียว คือสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ ส.ส.วรชัย เหมะ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ถือว่าเป็นมติของพรรค แต่ยืนยันว่า ร.ต.อ.เฉลิมมีเอกสิทธิ์ในฐานะส.ส.ที่จะเสนอกฎหมาย และแม้จะมี ส.ส.ของพรรคเข้าชื่อ แต่ยังไม่ใช่มติของพรรค ดังนั้นจึงไม่มีสับขาหลอก จึงขอให้ประชาธิปัตย์หยุดบิดเบือน หากไม่เห็นด้วยกับหลักการ หรือเนื้อหาของกฎหมายดังกล่าว ก็ขอให้ไปอภิปรายโต้แย้งได้ในรัฐสภา ใช้เวทีสภาเดินหน้าค้าน กม.ปรองดอง ทุกรูปแบบก็เป็นสิทธิ์ทำได้
ส่อรวม 2 ร่างเป็นร่างเดียว
นายสุรจิตร ยนต์ตระกูล ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้เข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเป็นวาระเร่งด่วนต่อจากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่ามีความเป็นไปได้ แต่ต้องรอหารือกันก่อน โดยอยากให้ออกเป็นมติพรรคสนับสนุนให้เลื่อนมาเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อความเป็นเอกภาพ ซึ่งในการประชุมพรรควันที่ 28 พฤษภาคม ถ้ามีโอกาส จะให้ตัวแทน ส.ส.หารือต่อที่ประชุม แต่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะมีความเห็นอย่างไร
“หากที่ประชุมเห็นชอบให้ขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วน ก็อาจนำเข้ามาพิจารณารวมกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในชั้นการแปรญัตติ เพราะมีหลักการคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาว่าจะให้ยึดร่างของใครเป็นหลัก”
นายสุรจิตรกล่าวต่อว่า แม้ พ.ร.บ.ปรองดองจะถูกแรงต้านอย่างหนักจากคนเสื้อแดง แต่เจตนากฎหมายฉบับนี้ ต้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งจริงๆ ไม่ให้ทิ้งมรดกเลือดให้ลูกหลาน รู้ดีว่าเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องมีคนลุกขึ้นมาทำ ถ้าจะทิ้ง ความขัดแย้งให้ลูกหลานทะเลาะกันไปไม่จบสิ้น มันไม่ถูกต้อง ยืนยันว่า พ.ร.บ.ปรองดองไม่มีเจตนาล้างผิดหรือคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งท่านคงไม่ติดใจอยากได้เงินคืน เพราะผ่านความลำบากมา 7 ปี แค่ได้กลับประเทศไทยก็มีความสุขแล้ว
เขาอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแค่ส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่ได้อานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้ แต่คนที่ได้ประโยชน์จริงๆคือบ้านเมืองที่จะเกิดความปรองดอง ซึ่งเป็นเจตนาหลักของ พ.ร.บ.ปรองดอง
เขาอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแค่ส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่ได้อานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้ แต่คนที่ได้ประโยชน์จริงๆคือบ้านเมืองที่จะเกิดความปรองดอง ซึ่งเป็นเจตนาหลักของ พ.ร.บ.ปรองดอง
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณี ร.ต.อ.เฉลิมประกาศพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านก่อนปีใหม่ว่า การพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านนั้นเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง และเมื่อเราได้เป็นรัฐบาล เรามีโอกาส ต้องพาท่านกลับบ้านให้ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ท่านลอยคออยู่กลางทะเล อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ต้องทำ และ พ.ต.ท.ทักษิณเองก็เป็นคนไทย วันนี้ทำไมต้องมากีดกันไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย
“เราต้องการความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาพิสูจน์ตัวเอง การพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย ไม่จำเป็นหรือต้องวางกรอบเวลา รอเงื่อนไขของ พ.ร.บ.ปรองดอง พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อให้พาวันนี้พรุ่งนี้ ถ้าเรามีโอกาสพากลับมา ได้เราก็จะทำ เงื่อนไขต่างๆ ทางการเมืองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง”
นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับการออกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายฉบับใดก็ตาม ถ้าเป็นกฎหมายที่ทำให้ทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับความเป็นธรรม พวกเราเห็นด้วยทั้งสิ้น หรือถ้ากฎหมายฉบับใดที่มีข้อดีแตกต่างกัน เราก็สามารถที่จะหยิบยกมาตราต่างๆ เข้ามารวมกันได้ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย
นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับการออกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายฉบับใดก็ตาม ถ้าเป็นกฎหมายที่ทำให้ทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับความเป็นธรรม พวกเราเห็นด้วยทั้งสิ้น หรือถ้ากฎหมายฉบับใดที่มีข้อดีแตกต่างกัน เราก็สามารถที่จะหยิบยกมาตราต่างๆ เข้ามารวมกันได้ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกกฎหมายเพื่อความปรองดอง สิ่งที่ดีที่สุดคือทุกฝ่ายต้องให้อภัยกัน ให้สถานการณ์กลับไปก่อนมีการปฏิวัติ ดังนั้นร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการปรองดอง ฉบับที่ดีที่สุดก็คือร่างของนายวรชัย คือต้องนิรโทษฯ ให้แก่ประชาชนก่อน ส่วนแกนนำ ผู้สั่งการเอาไว้ทีหลัง ทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่ผิดก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม
แม้วเพิ่มรางวัลจับเผาห้าง
แม้วเพิ่มรางวัลจับเผาห้าง
วันเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตั้งรางวัลค่าหัวคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ไว้ 10 ล้านบาท ทำให้มีการเคลื่อนไหวกันคึกคักเลยครับ
อย่างแรกคือ ค่าหัวเพิ่มขึ้นแบบไม่จำกัดจำนวน คือเพื่อนๆ และบุคคลต่างๆ ทั้งไทยและเทศ ที่รักและเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วยกันลงขันเพิ่มเป็น "หัวละ 10 ล้าน" ครับ พูดง่ายๆ คือถ้าจับคนเผาได้ 5 คน ก็เอาไปเลย 50 ล้าน 10 คนก็เอาไปเลย 100 ล้าน ทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ โดยมี "นายห้างตราดูไบ (ห่อ)" ที่ไม่เคยผิดคำพูดในทุกนโยบายที่ได้สัญญาประชาคมไว้ เป็นผู้รับประกัน
อย่างที่ 2 คือ มีคนเปิดเพจชื่อกวนๆ ว่า "กูต้องได้ 10 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" แป๊บเดียวมีคนกดไลค์ 5 พันกว่าคนแล้ว ตอนแรกผมเข้าใจว่าคงเป็นเพจตลกๆ ไร้สาระ แต่พอลองเข้าไปอ่านดู ถึงได้รู้ว่ามีข้อมูลอีกเยอะที่สาธารณชนยังไม่รับทราบ ใครอยากอ่านข้อมูลดีๆ หรืออยากให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงอยากจะช่วยกัน "กด LIKE" เพื่อเป็นกำลังใจ เชิญเยี่ยมชมกันได้เลย ตามนี้ครับ https://www.facebook.com/burntobeamillionaire
ใครที่เห็นตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มุ่งมั่นทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมือง แต่กลับจะต้องถูกกลั่นแกล้งจากกระบวนการ 2 มาตรฐานอย่างไม่เป็นธรรม เห็นว่าคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมเรียกร้องขอหีบเลือกตั้ง แต่กลับได้หีบศพอย่างไม่เป็นธรรม แถมยังโดนใส่ร้ายว่า คนเสื้อแดงเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งๆ ที่ถูกสลายการชุมนุมไปแล้วกว่า 4ชั่วโมง มีเพียงบางส่วนที่ถูกกักถูกล้อม และถูกฆ่าอยู่ภายในวัดปทุม พวกเราต้องช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏครับ
ขณะที่ผมกำลังนั่งพิมพ์อยู่นี่ คุณพ่อโทรเข้ามาพอดีครับ พอผมเล่าให้ฟังว่ากำลังเตรียมโพสต์เรื่องค่าหัว 10ล้าน คุณพ่อบอกให้เขียนไปด้วยว่า ผู้ที่มีส่วนรู้เห็นกับการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ถ้ามาให้ปากคำในข้อเท็จจริง ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ทราบว่าใครเป็นผู้จ้างวาน ก็จะได้รับการดูแลเช่นเดียวกันคือ
1.ขอให้มี จนท.มาดูแลคุ้มครองความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม. 2.ขอให้กันตัวเป็นพยานในคดี และ 3.ได้ 10ล้านเหมือนกันทุกคน
เอาไหมละครับแบบนี้!! เผื่อฟลุกเราอาจได้หลักฐานชี้ชัดว่า ฆาตกรใจบาป 99 ศพ ฆ่า (คน) แล้วเผา (ห้าง) เพื่อสร้างสถานการณ์ก็เป็นไปได้ครับ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น