วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

นาทีชีวิต...3แม่ลูกพ้นมือ'โจร'บังคับพาหนี เมื่อ 1 พ.ค.56



นาทีชีวิต...3แม่ลูกพ้นมือ'โจร'บังคับพาหนี
 
นาทีชีวิต... 3แม่ลูก พ้นมือ'โจร'บังคับพาหนี 

 ภัยสังคมเกิดขึ้นรอบตัว โดยเฉพาะกับผู้หญิงและเด็ก ล่าสุดเกิดขึ้นกับคุณแม่ลูกสอง ต้องตกเป็นเหยื่อโจรใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ขับรถยนต์พาหลบหนี ระหว่างกำลังขึ้นนั่งหลังพวงมาลัยเตรียมสตาร์ทรถยนต์ส่วนตัวออกมาจากห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต คนร้ายก็เปิดประตูหลังเข้ามาใช้อาวุธปืนบังคับให้พาไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เมื่อถึงจุดหมายคนร้ายก็ไม่ยอมลงจากรถ แถมยังเปลี่ยนเป้าหมายให้ไปส่งสถานที่ใหม่ ด้วยความกลัวจะเกิดอันตรายกับลูกๆ เธอจึงตัดสินใจหยุดรถยนต์กลางถนน แล้ววิ่งลงไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจจราจร!!

ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดบริเวณถนนพหลโยธินขาออกหน้าปากซอยประทานพร หลักกิโลเมตร 34 + 400 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระหว่างที่ ด.ต.วรโชติ โหมดเทศ และ ด.ต.ปรีชา ภูผา ผบ.หมู่งานจราจร สภ.คลองหลวง ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ยืนอยู่ตรงป้ายรถประจำทาง และเห็นสุภาพสตรีคนหนึ่งวิ่งมาหาพร้อมตะโกนว่า "พี่ตำรวจช่วยด้วยๆ"

ด.ต.ปรีชา กำลังอำนวยความสะดวกช่วงทางลงทางด่วนโทลล์เวย์ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือจึงหันมาพบสุภาพสตรีวิ่งหน้าตาตื่นแล้วบอกให้ ด.ต.วรโชติ ทราบ จึงวิ่งข้ามถนนมาพบเธอทันที

 "เธอบอกว่าพี่ตำรวจช่วยด้วยหนูโดนจี้มา ลูกชาย 2 คนอยู่ในรถยนต์  ผมจึงหันไปที่รถยนต์ของสุภาพสตรี จังหวะเดียวกันนี้ มีประชาชนเห็นผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเป็นคนร้ายลงจากประตูหลังด้านซ้าย ทำให้ผมและด.ต.วรโชติ วิ่งไล่ตามไป แต่พบว่าบริเวณที่คนร้ายหนีเข้าไปเป็นรั้วสูง พื้นที่รกและกว้างมาก อีกทั้งเป็นที่ส่วนบุคคลมีรั้วรอบขอบชิดหากเข้าไปสามารถหลบออกได้หลายทาง จึงแจ้งวิทยุสื่อสารขอความช่วยเหลือปิดล้อมค้นหากว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบคนร้ายจึงยุติการค้นหา" ด.ต.ปรีชา กล่าว

 หลังยุติการค้นหา พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้แนะนำให้สุภาพสตรีคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังว่า นางแสงดาว แตงกระโทก อายุ 30 ปี ชาว ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับแจ้งความได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายภายในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทีอาร์ดี สีขาว หมายเลขทะเบียน ญภ 6049 กรุงเทพมหานคร

 นางแสงดาว เล่านาทีชีวิตของตนเองกับลูกชาย 2 คนว่า ช่วงเย็นของวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาเดินทางมาทำธุระภายในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตพร้อมกับลูกชายอายุ 5 ขวบและ 1 ขวบ หลังทำธุระเสร็จเดินออกมาที่ลานจอดรถชั้น 1 เพื่อเดินทางกลับ นำลูกชายคนโตนั่งเบาะหลัง ส่วนลูกชายคนเล็กนั่งเบาะหน้า หลังจากขึ้นรถยนต์เสร็จก็เปิดประตูด้านหน้าขวาเพื่อขับขี่ ระหว่างสตาร์ทเครื่องยนต์ก็มีผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์สีดำ มีผ้าปิดหน้า เปิดประตูด้านหลังเข้ามาแล้วใช้อาวุธปืนบังคับ

"ตกใจมากตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก เพราะประตูรถยนต์ยังไม่ได้ล๊อกอัตโนมัติเพราะรถยนต์รุ่นนี้ต้องเคลื่อนตัวออกไปสักพักประตูถึงล๊อกอัตโนมัติ ซึ่งผู้ชายคนนั้นบอกว่าถูกตำรวจไล่จับมาขอเข้ามาหลบซ่อนแล้วให้พาออกจากที่นี่โดยให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่พอขับรถยนต์มาถึงผู้ชายคนนี้ไม่ยอมลงจากรถยนต์บอกให้ไปส่งต่อ แล้วถูกบังคับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งขับรถยนต์มาถึงช่องคู่ขนานคิดว่าเห็นท่าไม่ดีแล้วกลัวลูกชายได้รับอันตราย จังหวะนั้นเห็นตำรวจจราจร จึงตัดสินใจหยุดรถแล้วรีบเปิดประตูออกมาวิ่งไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจจราจร" นางแสงดาว เล่านาทีชีวิต

  พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของศูนย์การค้า พบว่าจุดที่รถยนต์ของสุภาพสตรีจอดถูกเสาอาคารบังไว้ทำให้ไม่เห็นภาพคนร้าย ชุดสืบสวนพยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อหาคนร้าย อีกทั้งรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากผลลายนิ้วมือแฝงและเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายภายในรถยนต์

 "ตอนนี้ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ของคนร้ายว่าต้องการสิ่งใด นอกจากนี้คนร้ายใช้อาวุธปืนปลอมในการก่อเหตุและทำตกอยู่ภายในรถยนต์ ขอเวลาให้ชุดสืบสวนทำงานก่อน อยากฝากเตือนสุภาพสตรีที่พาบุตรไปเที่ยวภายในห้างสรรพสินค้า เวลาขึ้นรถยนต์ให้มองซ้ายมองขวา แล้วหากขึ้นรถยนต์แล้วให้รีบล๊อกประตูไม่ต้องรอให้ระบบอัตโนมัติทำงานเป็นการป้องกันคนร้ายวิธีหนึ่ง" พ.ต.อ.ตระกูล กล่าวเตือน........
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น