วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เรื่องร้อนใน สธ.กำลังปะทุวันที่ 25/05/2556 เวลา 5:03 น




เรื่องร้อนใน สธ.กำลังปะทุ

กระทรวงสาธารณสุข ที่มี น.พ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ กลายเป็นหน่วยงานที่มีรอยร้าวลึกมากขึ้นทุกขณะ ถึงแม้บุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขจะได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนในสังคมมากที่สุด เนื่องจากว่าแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลาย ล้วนได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ โดยเฉพาะการให้ชีวิตดูแลรักษาพยาบาลผู้คนทุกระดับชั้นในช่วงเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งป็นเรื่องที่ทุกๆ คนหนีไม่พ้น
ดังนั้น แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายจึงมีความสำคัญ ทำให้หน่วยงานอย่างกระทรวงสาธารณสุขที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลด้านสุขภาพอนามัยประชาชนทั้งประเทศ เป็นหน่วยราชการระดับเกรดเอ มีงบประมาณสูงในแต่ละปี เป็นเหตุให้ผู้ที่จะเข้ามาบริหารงานคงมีความจำเป็นต้องคัดจากผู้มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง แต่ก็นั่นแหละ เพราะนอกเหนือจากการรักษาพยาบาล งานบริหารที่มีงบประมาณจำนวนมากย่อมเป็นเหตุทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน
เพราะไม่ว่ากรณีกลุ่มแพทย์ชนบทประท้วงและต่อต้าน น.พ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กรณีการปรับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย เป็นจ่ายตามภาระงาน หรือพีฟอร์พี ซึ่งเรื่องดังกล่าวกำลังบานปลายลุกลามขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้บริหารยังคงยืนกราน โดยมีกลุ่มแพทย์ชนบทประท้วงถึงขนาดขับไล่ให้ รมว.สาธารณสุขพ้นจากตำแหน่ง หรือแม้แต่ความขัดแย้งในองค์การเภสัชกรรม ระหว่างบอร์ดผู้บริหารกับผู้ทำหน้าที่เป็น ผอ.องค์การเภสัชกรรม
ความขัดแย้งดังกล่าวถึงขนาดบอร์ด อภ. มีมติเป็นเอกฉันท์ยุติสัญญาจ้าง น.พ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม โดยให้ยุติการปฏิบัติงานในหน้าที่ทันที จึงเป็นเหตุให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรมออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคัดค้านการกระทำของบอร์ด อภ. มิหนำซ้ำยังประกาศเข้าร่วมกับสหภาพฯ ประปา-ไฟฟ้า ทั้งตั้งเครือข่าย ไฟฟ้า ประปา และยา เพื่อชาติและประชาชน เดินหน้าและคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และให้บอร์ด อภ.ลาออกยกชุด
มิหนำซ้ำกลุ่มแพทย์ชนบทยังประกาศจะมีการเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม ในวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้ เท่ากับว่าความขัดแย้งในหลายๆ หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขกำลังปะทุร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคงไม่สามารถคาดเดาได้ว่า เหตุการณ์จะเลยเถิดบานปลายเลวร้ายขนาดไหน ทั้งนี้เพราะการประท้วงคัดค้านผู้บริหารอาจมองได้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่หากมองดูลึกๆ แล้วล้วนมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น