ชิงยื่นสภาฯแล้วปรองดองพรบ.ฉบับเหลิม
“พีระพันธุ์”ยกเหี้ยยังขอร่วมปชป.เสี้ยมเสื้อแดงฮือต้าน
163 ส.ส.เพื่อไทย ชิงยื่นร่างปรองดองฉบับ “เฉลิม” เข้าสภาฯ แล้ว อ้างเพื่อชาติเกิดความสามัคคี ยันไม่เกี่ยวทวงคืน 4.6 หมื่น ล.ทักษิณ ปากแข็งป่าวสับขาหลอกนิรโทษฯ ฉบับวรชัย ขณะที่ “พีรพันธ์” แบไต๋จ่อรวมร่างนิรโทษฯ ฉบับวรชัย เล็งดันถกวาระแรกทันทีเปิดสภา 1 ส.ค.นี้ ชูตัวเงินตัวทองยังอยากปรองดอง ด้าน “ปชป.” กร้าวขวางถึงที่สุดร่างปรองดองสุดซอยเหลิม เสี้ยมเสื้อแดงร่วมต้าน กม.ล้างผิดคนโกง แต่ปล่อยคนฆ่า ปชช.ลอยนวล ส่วน “มาร์ค” ซัดรัฐบาลเดินเกมตีสองหน้า แต่เป้าหมายเดียวช่วยล้างผิดทักษิณ ขณะที่ “นายกฯ ปู” จ้อสื่อยุ่น ไม่เข็ดอ้างอีกคุยตามวิถีประชาธิปไตย จะนำชาติสันติ-ลดขัดแย้งได้ วอนทุกฝ่ายอดทน ด้าน “อภิสิทธิ์” ตอกกลับปู อ้าง ปชต.แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม ซัดมุ่งใช้อำนาจรัฐ-มวลชนกดดัน เป็นประชาธิปไตยตรงไหน
163 ส.ส.พท.ชงปรองดองเฉลิมเข้าสภา
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.56 ที่รัฐสภา นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายสุรจิตร ยนต์ตระกูล ส.ส.มหาสารคาม และ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.เพื่อไทยอีก 13 คน เป็นตัวแทนเข้ายื่นร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ….ต่อนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผู้ร่วมลงชื่อเสนอร่าง 163 คน โดยนายพีรพันธ์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต้องการนิรโทษให้กับความผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดความปรองดองและความสามัคคีในประเทศ ทั้งนี้ยืนยันว่า พ.ร.บ.ปรองดองมาจากการริเริ่มของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ดูแลความมั่นคง สำหรับเนื้อหาในร่างมีเพียง 5 มาตรา จากที่ทราบกันดีว่าตอนแรกมี 6 มาตรา โดยได้มีการตัดมาตรา 5 ที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่จะไปเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เพราะเกี่ยวข้องกับการเงินที่นายกฯ จะต้องลงนามรับรองออกไป เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลได้มีมาตรการเยียวยาไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนหัวใจหลักสำคัญ พ.ร.บ.ปรองดองฉบับนี้คือ มาตรา 3 ที่ยกเว้นความผิดทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาที่ตัดสินไปแล้วหรืออยู่ระหว่างการสอบสวนหรือดำเนินการฟ้องร้องอยู่ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ให้ถือว่าไม่มีความผิดต่อไป สำหรับมาตรา 4 ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าทำเพื่อคืนเงินจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาทแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตนยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวศาลได้ตัดสินให้ตกเป็นของแผ่นดินไปแล้ว หากจะคืนเงินแนวทางที่ทำได้คือไปออกกฎหมายเรียกคืนเท่านั้น
ยืนกรานไม่เกี่ยว กม.การเงิน
นายพีรพันธ์ ยืนยันว่า ร่างดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเงินเพราะได้นำบรรทัดฐานจากกรณีที่ประธานสภาฯ ได้เคยประชุมร่วมกับประธาน กมธ.สามัญสภาทุกคณะ ที่เคยวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน ส่วนข้อกังวลว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวจะขัดกับ รธน.มาตรา 309 ที่รองรับผลพวงจากการรัฐประหารหรือไม่นั้น คิดว่าไม่ขัดแต่ก็ค่อยไปว่ากัน ยอมรับว่าเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับผลกระทบมากที่สุด หากพวกเราไม่ใส่ใจท่าน ต่อไปจะอยู่ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดปรากฏการณ์ตัวเงินตัวทองอยู่บนเพดานโถงอาคารรัฐสภา 1 ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับที่แถลงข่าวในวันนี้จะถือเป็นลางบอกเหตุทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ นายพีรพันธ์ หัวเราะก่อนตอบว่า ตัวเงินตัวทองรู้ว่าพวกเราจะมายื่นก็จะมาขอปรองดอง ขนาดตัวเงินตัวทองยังอยากปรองดอง แล้วคนอย่างเราจะไม่ปรองดองได้อย่างไร ทั้งนี้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม มีแนวโน้มว่าอาจจะเลื่อนระเบียบวาระเมื่อเปิดประชุมสภาในวันที่ 1 ส.ค.แล้ว แต่อาจจะต้องไปหารือกับพรรคอีกครั้งว่าจะไปไว้รวมกับร่าง พ.ร.บ.ของนายวรชัย หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับ ที่อยู่ในระเบียบวาระของสภา
โต้สับขาหลอกนิรโทษฯ ฉบับวรชัย
พ.ต.อณันย์ กล่าวว่า การเสนอกฎหมายดังกล่าวคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดความปรองดอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการนับหนึ่ง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาและความขัดแย้ง แต่เป็นเป้าหมายที่ถูกจำกัด และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต่างจากผู้นำในยุคตุลา 16 เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีได้ทำประโยชน์ให้ประเทศมากมาย ดังนั้นเมื่อกฎหมายเข้าสภา หากเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรก็จบ และยืนยันว่าไม่เป็นการสับขาหลอกกับร่างนายวรชัย เพราะร่าง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นการล้างต้นเหตุของปัญหา แต่ร่างของนายวรชัย เป็นการบรรเทาปัญหาแค่บางส่วนเท่านั้น วันนี้มีแต่เผด็จการเสียงข้างน้อยออกมาขัดขวาง หากเสียงข้างมากทำไม่ถูก ก็จะทำให้กลายเป็นเสียงข้างน้อย แต่หากเสียงข้างน้อยทำไม่ถูกก็จะเป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ เพื่อนๆ ทะเลาะกันทุกวัน พ่อแม่จะไม่ทุกข์ใจหรือ เพราะวันนี้ผู้ที่คัดค้าน มีอยู่ 2 ส่วน คือคนที่ไม่เข้าใจกับคนที่เสียประโยชน์
เดินหน้าเปิดเวทีแจงเสื้อแดง
นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ร.ต.อ.เฉลิม จะขึ้นเวทีปราศรับที่ ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เพื่อปราศรัย ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ให้ชาวบ้านฟัง คาดว่าจะมีชาวบ้านมาฟัง 5-7 หมื่นคน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการนับหนึ่งประเทศไทย โดยผู้ขึ้นเวทีปราศรัยมีข้อห้าม 3 ข้อคือ ห้ามพูดถึงสถาบัน ศาล ทหาร ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.อีสาน บางส่วน จะถอนชื่อออกจากร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีใครขอถอนชื่อ ทุกคนลงชื่อด้วยความเต็มใจ ส.ส.ทุกคนมีศักยภาพพอ ไม่ต้องเกรงใจใครที่ต้องไปลงชื่อ
ฉะพวกค้านติดหล่มก้าวไม่ข้ามทักษิณ
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ห้ามปรามการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น เรื่องการเสนอกฎหมายเป็นสิทธิหน้าที่ของ ส.ส.ที่เป็นผู้แทนประชาชน ใครจะมาสั่งนายกฯ ให้ไปเจ้ากี้เจ้าการกับฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ไปพูดในสภา จะโหวตไม่เห็นด้วยก็ทำไป แต่อย่ามากดดันคุกคามนายกฯ ตนกำลังเฝ้าดูกฎแห่งกรรม กำลังจะตามไปเล่นงานใครบางคนที่เอาอุจจาระตัวเองไปขว้างปาคนอื่น วันนี้วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองชัดเจนว่าคือการปั้นน้ำเป็นตัว ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หมกเม็ด ซ่อนเร้น น่ากลัว แอบแฝงเจตนาช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ได้เงินคืนนั้น อยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยเอ่ยปากขอเอาเงินคืน มีแต่เรียกร้องขอความเป็นธรรม ความพยายามกล่าวหา โยงใยให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาเกี่ยวข้อง ล้วนเป็นพฤติกรรมซ้ำซากน่าเบื่อ ติดหล่มก้าวไม่พ้น เป็นอาการของพรรคการเมืองที่กำลังเดินเข้าสู่ยุคตกต่ำ เพลี่ยงพล้ำ วันนี้ถูกต้องแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องปฏิรูปตัวเอง ก็ขอฝากให้ไปปฏิรูปขัดเกลาทัศนคติของตัวเองเสียใหม่ด้วย
“มาร์ค” ซัดรัฐบาลเดินเกมสองหน้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ไม่รู้สึกแปลกใจที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นร่างกฎหมายปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เข้าสภา เพราะตนบอกมาตลอดว่าสุดท้ายก็ต้องเดินต่อเนื่องจากเป็นผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคงจะมีการผลักดันให้ผ่าน ซึ่งการที่รัฐบาลเดินเกมสองหน้าโดย พรรคเพื่อไทยสนับสนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ แต่ยังเสนอร่างกฎหมายของ ร.ต.อ.เฉลิม เข้าสภาด้วยนั้น เป็นเพราะสุดท้ายต้องไปจบที่ผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าประชาชนมองออกเหมือนกำลังตบตา มีแต่ในหมู่เสื้อแดงที่ไม่สนับสนุนร่างของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็อาจจะพยายามหาทางกดดัน แต่สุดท้ายแล้วก็คงพยายามหาคำตอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ดี ส่วนปลายทางจะใช้วิธีเอามารวมกันพิจารณาหรือแปรญัตติก็ต้องให้สังคมจับตาและตรวจสอบตลอดเวลา เพราะถ้า ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่ากฎหมายสองฉบับนี้ไม่สามารถนำมาพิจารณารวมกันได้เพราะหลักการต่างกันนั้น ตนก็จะได้อ้างในเวลาที่มีการเสนอให้พิจารณารวมกันว่าทำไม่ได้ อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าเวลาที่ ร.ต.อ.เฉลิม เพลี่ยงพล้ำ เช่น ยอมรับว่าเป็นกฎหมายการเงิน ตอนนี้ก็พยายามแก้ไขไม่ให้เป็นกฎหมายการเงิน แม้จะตัดมาตรา 5 ออกไป กฎหมายดังกล่าวก็ยังเป็นกฎหมายการเงิน เนื่องจากในมาตรา 4 ที่ยกเลิกคดีของ คตส.ทั้งหมด เป็นการก่อให้เกิดสิทธิที่จะเรียกร้องต่อรัฐได้ ดังนั้นการเสนอกฎหมายนี้ ต้องให้นายกรัฐมนตรีลงนาม แต่คาดว่าคงมีความพยายามที่จะตีความว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน เหมือนกับที่เคยมีปัญหาในการเสนอกฎหมายปรองดองที่ค้างอยู่ในสภาว่าไม่ใช่กฎหมายการเงินมาแล้ว จึงต้องดูว่าคราวนี้จะทำอย่างไร
ปชป.เสี้ยมแดงร่วมต้านปรองดองเฉลิม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีการตัดมาตรา 5 เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาเกี่ยวข้องในการลงนามรับรองกฎหมาย แต่หากกฎหมายนี้ผ่านไปได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืนแน่นอน เพราะกฎหมายนี้บัญญัติให้มีผลยกเลิกในคดีอาญา ถือเป็นการสับขาหลอกของ ร.ต.อ.เฉลิมโดยแท้ เพราะมาตรา 5 มีส่วนหนึ่งที่ระบุถึงการช่วยเหลือประชาชนด้วย เมื่อถูกตัดออกกก็เป็นการตัดความช่วยเหลือประชาชน ขณะที่มาตรา 4 จะเห็นได้ชัดว่า เน้นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว เพราะจะเกี่ยวข้องกับการยกเลิกผลการพิจารณาของ คตส. ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ จะต่อต้านร่างกฎหมายนี้อย่างเต็มที่ และขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงทั้งประเทศออกมาร่วมต่อต้านด้วย เพราะเป็นกฎหมายล้างผิดคนโกง ปล่อยคนฆ่าประชาชนลอยนวล และอยากถามไปยัง ส.ส.รัฐบาล โดยเฉพาะแกนนำคนเสื้อแดง ทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จะยกมือให้ข้างไหน หรือจะใช้วิธีงดออกเสียง แล้วปล่อยให้กฎหมายนี้ผ่าน ซึ่งตนเชื่อว่าคงจะมีละครฉากใหม่ในสภาฯ ที่ทำเป็นคัดค้าน แต่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
“สุริยะใส” ชี้เกมลับลวงพราง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงเปิดสภาสมัยสามัญเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ และ 42 ส.ส.เพื่อไทยแล้วจะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เพิ่งยื่นเสนอ เข้ามาประกบในการพิจารณาวาระที่ 1 จากนั้นก็ใช้เสียงข้างมากรับไปทั้ง 2 ร่างเพื่อพิจารณาร่วมกันในขั้นตอนแปรญัตติ หรือรวมทั้งร่างอื่นๆ ที่ค้างอยู่ในสภาก่อนหน้านี้ด้วย หรือรับไปร่างเดียวแต่ไปแปรญัตติขยายความเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ แม้จะไม่มีสัญญาณสนับสนุนหรือใบสั่งชัดเจนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ไม่เคยสั่งหยุดหรือสั่งห้ามการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์เต็มๆ เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทยไม่แสดงท่าทีชัดเจนต่อการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองก็เพราะเกรงว่าคนเสื้อแดงบางกลุ่มจะไม่พอใจเพราะเป็นการนิรโทษทหารและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลด้วย จึงใช้วิธีลับ ลวง พราง หลิ่วตาให้ ส.ส.163 คนเดินเกมเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้และอธิบายคนเสื้อแดงแทน ที่สำคัญก็จะใช้นายขวัญชัย ไพรพนา เปิดแนวรบในขบวนคนเสื้อแดงอีกทางหนึ่ง ซึ่งต้องจับตาดูการสไกป์มาที่เวทีคนเสื้อแดงอีกกลุ่มที่ จ.อุดรธานี พรุ่งนี้ (24 พ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณอาจมีท่าทีคนละอย่างกับการสไกป์มาที่เวทีราชประสงค์ ซึ่งไม่พูดถึงร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเลย เพราะ นปช.ส่งสัญญาณไม่สนับสนุน แต่ระดับแกนนำ นปช.เองก็มีท่าทีคลุมเครือ ค้านไม่เต็มปาก เพราะอาจถูกยื่นข้อเสนอให้สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรืออย่าขวางเพื่อแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี
คนไทยรักชาติฯ ให้กำลังใจ ปธ.ศาลฎีกา
วันเดียวกัน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติรักแผ่นดิน พร้อมผู้ชุมนุมกว่าร้อยคน เดินทางไปเพื่อยื่นหนังสือต่อนายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานของฝ่ายตุลาการ โดยมีตัวแทนศาลฎีการับมอบ เพื่อขอสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ และแสดงเจตจำนงจะปกป้องอำนาจตุลาการศาล ในฐานะปฏิบัติหน้าที่และเพื่อหยุดยั้งการทำลายชาติ ในการกระทำทั้งปวงอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายหลังที่มีนักการเมืองบางกลุ่มปฏิเสธที่จะยอมรับอำนาจตุลาการ และสนับสนุนให้มวลชนเข้าคุกคามการทำหน้าที่ขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย ภายหลังการยื่นหนังสือ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ทางแนวร่วมเป็นตัวแทนของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย เดินทางไปให้กำลังใจและขอพึ่งอำนาจตุลาการ เพื่อหยุดยั้งการทำลายชาติ รวมถึงการกระทำที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งอำนาจตุลาการถือเป็นฝ่ายสูงสุดฝ่ายเดียวที่จะหยุดการทำลายชาติได้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติฯ มีมติแต่งตั้ง พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทนในการประสานกับกลุ่มอื่นที่มีเป้าหมายเดียวกัน อาทิ องค์การพิทักษ์สยาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยมีผู้ใหญ่อย่าง น.อ.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสถาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นคนกลางช่วยให้ทุกกลุ่มได้หารือกัน ซึ่งทางมวลชนก็เห็นด้วยเช่นกัน
“ปู” จ้อสื่อยุ่นไทยสงบด้วยการพูดคุย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NHK ของประเทศญี่ปุ่น ว่า ความขัดแย้งในไทยที่เกิดขึ้นจะสงบลงได้ ด้วยการที่ทุกฝ่ายอดทน พูดคุยกันตามวิถีประชาธิปไตย เพื่อนำชาติกลับสู่ความสันติ เช่นเดียวกันกับเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ที่ทุกประเทศต้องใช้ความอดทนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ลดความขัดแย้ง ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ ในการสร้างบรรยากาศที่ดีด้านการลงทุน เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจไทย และจากที่เคยเป็นผู้บริหารองค์กรธุรกิจมาก่อน เชื่อว่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารประเทศ ผลักดันให้ประเทศไปข้างหน้า และทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ จึงขอว่าอย่าดูที่ความเป็นหญิงหรือชาย เพราะขณะนี้ประชาชนได้ไว้วางใจมอบให้บริหารประเทศแล้ว สำหรับบทบาทที่ไทยร่วมพัฒนาเมียนมาร์นั้น ไทยจะมีส่วนในการผลักดันให้เมียนมาร์เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ และไทยจะมีความร่วมมือด้านโครงการทวายร่วมกับเมียนมาร์ จึงอยากเชิญญี่ปุ่น มาร่วมลงทุน เหมือนเคยร่วมลงทุนใน Eastern Seaboard ของไทย ทั้งนี้เมื่ออาเซียนรวมตัวกันเป็นประชาคมในปี 2015 ไทยจะเป็นประตูสู่อาเซียนอย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันข้อกังวลเรื่องของการขึ้นค่าแรงที่จะส่งผลกระทบต้นทุนผู้ประกอบการนั้น การขึ้นค่าเเรง 300 บาท ถือว่าเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้ซื้อสินค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และขณะนี้กำลังหารือร่วมกับภาคอุตสาหกรรมในการช่วยลดต้นทุนการผลิต โดยรัฐจะลงทุนปรับระบบโลจิสติกส์ครั้งใหญ่ เพื่อที่จะช่วยลดต้นทุนอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่คนไทยนิยมมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ดีในทุกระดับกว่า 100 ปีแล้ว และอยากเห็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระหว่างกัน
“มาร์ค” ตอกปูอ้าง ปชต.พร่ำเพรื่อ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุกับสื่อมวลชนญี่ปุ่นว่า ปัญหาของประเทศไทยจะจบลงได้ด้วยการพูดคุยตามวิถีประชาธิปไตยนั้น กระบวนการประชาธิปไตยและกระบวนการยุติธรรมเป็นคำตอบที่ดี แต่ต้องแยกแยะให้ถูกว่า เรื่องไหนควรใช้กระบวนการยุติธรรม เรื่องไหนควรใช้เสียงข้างมาก แต่ขณะนี้ปัญหาของรัฐบาลคือไม่ได้ใช้สองกระบวนการนี้อย่างเดียว แต่มีการใช้มวลชนอำนาจรัฐ ในการกดดัน ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตย และพยายามให้เกิดความสับสนในเรื่องที่ต้องจบโดยกระบวนการยุติธรรมแต่จะใช้เสียงข้างมากลบล้าง ตนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างถึงคำว่าประชาธิปไตยบ่อยครั้งก็อยากเรียกร้องให้มาปฏิบัติด้วย เพราะหากยังปล่อยให้ผู้สนับสนุนตัวเองข่มขู่คนอื่น เจ้าหน้าที่รัฐยังถูกใช้ไปข่มขู่ในทางการเมือง อย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองเดินไปไหนไม่ได้ เพราะยังวนเวียนอยู่กับผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่ง และยังเป็นการสร้างมาตรฐานหรือบรรทัดฐานที่อันตราย เนื่องจากมีการเอากำลังมวลชนมากดดันฝ่ายต่างๆ ที่ควรจะทำงานอย่างอิสระและเที่ยงตรง ซึ่งตนเห็นว่าสังคมต้องเข้มแข็ง ไม่หวาดกลัวกับแรงกดดัน ทั้งนี้ยังเชื่อว่า ยิ่งมีแรงกดดันมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้เกิดการผนึกกำลังของคนที่ไม่ยอมให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเข้ามาครอบงำมีเพิ่มมากขึ้น
วันที่ 24/05/2556 เวลา 7:43 น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น