|
สองสามีภรรยาร้องปวีณาลูกชายที่เพิ่งคลอดได้ 2 วันขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในตู้อบโรงพยาบาล
นายปฏิภาน มงคล อายุ 20 ปี พร้อม น.ส.ดวงพร คงแจ่ม อายุ 19 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.6 ต.หนองรี อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เนื่องจากสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรชายที่เพิ่งคลอดออกมาได้เพียง 2 วันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี จึงเข้าร้องเรียนขอให้นางปวีณาช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของบุตรชายและให้ความเป็นธรรมด้วย
นายปฏิภาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 00.20 น. ภรรยาปวดท้องจะคลอด จึงได้นำภรรยาส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ซึ่งมีอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ หรือ 9 เดือนเศษ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล พยาบาลได้ให้ภรรยาเข้าไปนอนรอในห้องคลอดและทำการตรวจปากมดลูก จากนั้นได้แจ้งกับภรรยาว่าปากมดลูกเปิด 4 ซม.แล้ว ให้นอนรอจนกว่าปากมดลูกจะเปิดกว่า 10 ซม. ถึงพร้อมที่จะคลอดส่วนสามีให้นั่งรออยู่บริเวณหน้าห้องคลอด จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.18 นาที ภรรยาคลอดบุตรออกมา เป็นเพศชาย มีน้ำหนักตัว 3,280 กิโลกรัม และมีร่างกายสมบูรณ์และแข็งแรงดี
ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 กว่าๆ มีแม่บ้านของโรงพยาบาลออกมาตามหาตนแล้วบอกว่าให้รีบเข้าไปพบแพทย์ แพทย์ได้แจ้งว่าขณะนี้บุตรชายมีอาการตัวเขียวเนื่องจากขาดอากาศหายใจ
ทั้งที่หลังคลอดก็ได้นำเด็กเข้าตู้อบปรับอุณหภูมิแล้ว เด็กพลิกคว่ำหน้าทำให้เด็กขาดอากาศหายใจ ตนจึงได้รีบไปดูบุตรที่ห้อง ICU เด็ก พบว่าบุตรใส่เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องวัดคลื่นหายใจ เนื่องจากเด็กขาดอากาศหายใจไปช่วงหนึ่ง จึงทำให้ตัวเขียวและหัวใจหยุดเต้นโดยแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแต่ อาการเด็กยังไม่ดีขึ้น
ส่วนภรรยาได้เล่าว่า ขณะที่คลอดบุตรออกมาแล้วผู้ช่วยพยาบาลได้นำบุตรไปทำความสะอาดและได้นำเข้าตู้ปรับอุณหภูมิ
หลังจากนั้นก็ไม่มีพยาบาลเข้าไปดูแลอีกเลย ซึ่งเตียงที่ภรรยานอนพักจะมองเห็น บุตรตลอดและช่วงที่บุตรอยู่ในตู้อบนั้นภรรยาได้ยินเสียงลูกร้องอยู่ประมาณ 3 ครั้ง ก็ไม่มีพยาบาลเข้ามาดู ต่อมาเสียงร้องก็เงียบหายไปจึงคิดว่าลูกหลับ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.40 น. นาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานในห้องคลอดดังขึ้น ได้มีผู้ช่วยพยาบาลเดินเข้ามาในห้องคลอดแล้วพูดขึ้นมาว่า “อุ๊ย ลืมดูน้องเลย” และได้รีบเดินไปเปิดดูบุตรชายในตู้อบแล้วพูดออกมาว่าน้องนอนคว่ำหน้า
ผู้ช่วยพยาบาลจึงได้จับตัวน้องเขย่าแต่ตัวน้องเขียวมาก ด้วยความตกใจผู้ช่วยพยาบาลคนดังกล่าวจึงได้วิ่งไปตามพยาบาลอีกคนมาช่วยดูและ ได้ทำการปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ พยาบาลจึงได้รีบโทรศัพท์ไปแจ้งกับแพทย์เจ้าของคนไข้ เมื่อแพทย์มาถึงได้นำสายออกซิเจนมาใส่ให้กับบุตรแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ผู้ช่วยพยาบาลคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาบอกว่า “พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ให้ใจเย็นๆก่อนนะ” จากนั้นจึงได้ย้ายเด็กขึ้นไปที่ห้อง ICU เด็ก แพทย์พยายามช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตลงในวันที่ 22 พ.ค.
นายปฏิภาณฯ เล่าต่ออีกว่า ตนเองและภรรยาสงสัยสาเหตุการตายของบุตรชายเพราะระหว่างที่เด็กอยู่ในห้องตู้อบเด็กเจ้าหน้าที่อาจจะมีการละเลยขาดการดูแล
แต่ทางโรงพยาบาลได้ระบุสาเหตุการตายว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ตนและภรรยารู้สึกเสียใจมากเพราะหลังจากที่แต่งงานอยู่กินกับภรรยาเพิ่งจะมีลูกคนแรก แต่ได้เห็นหน้าลูกเพียงไม่นานก็ต้องมาจากไป หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลพบุรี กับพ.ต.ท.ประวิทย์ ยง ยุทธ พนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค.
เพื่อขอนำศพบุตรชายไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่เกรงว่าคดีจะล่าช้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
ภายหลังรับแจ้งนางปวีณา หง สกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กละสตรีได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร.ดูแลกำกับการกองบังคับการสถาบันนิติเวชวิทยาและพ.ต.อ.ณัชภูมิ วรรณวิไล ผกก.สภ.เมืองลพบุรี เพื่อช่วยตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น