วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม 2556
ควรจะจบได้แล้ว เพราะศาลยกฟ้องจำเลยทุกคดี เพราะหลักฐานอ่อน ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าโดนหลอกอีกเลย เพราะศาลอาญายกฟ้องจำเลย เผาเซ็นทรัลเวิลด์ ยืนยัน คนเสื้อแดงไม่สามารถวางเพลิงได้ และศาลแพ่งก็เห็นว่า ไม่ใช่คดีก่อการร้าย ปชป.รอบหนึ่งกินส.ส.กทม. รอบที่สองกินผู้ว่าฯกทม. เพราะรู้จุดอ่อนคนกรุงเทพฯ วันนี้ความจริงเปิดแล้ว พี่น้องชาวกรุงเทพฯตื่นเถิดอย่าโดนหลอกอีก ทั้งนี้ พี่น้องใครจับคนวางเพลิงได้หรือชี้เบาะแสได้ ตนจะให้รางวัล 10 ล้านบาท มาจับให้หน่อย"
"ผมไม่กลับ แต่ผมขอทวงคืนประชาธิปไตยให้แผ่นดินไทย แล้วผมจะไม่เลิกทวงคืนประชาธิปไตยและสังคมไทย ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ช่วยกันวันนี้กฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย ผมไม่เกี่ยวไม่ได้ประโยชน์ให้พี่น้องหลุดจากห้องขังก่อน เพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์อย่าทำร้ายเขาเลยแค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว ขอให้ศาลช่วยประกันเขาเถิด เขาจะหนีไปไหน จนจะตาย"
"ผมไม่กลับ แต่ผมขอทวงคืนประชาธิปไตยให้แผ่นดินไทย แล้วผมจะไม่เลิกทวงคืนประชาธิปไตยและสังคมไทย ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ช่วยกันวันนี้กฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย ผมไม่เกี่ยวไม่ได้ประโยชน์ให้พี่น้องหลุดจากห้องขังก่อน เพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์อย่าทำร้ายเขาเลยแค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว ขอให้ศาลช่วยประกันเขาเถิด เขาจะหนีไปไหน จนจะตาย"
กับ ลีลาสไกป์ บางช่วงบางตอนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายใหญ่ พรรคเพื่อไทย ในการชุมนุมรำลึก ครบรอบ 3 ปี ของกลุ่มคนเสื้อแดง(นปช.) ในค่ำคืนวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ที่ฮือฮามากที่สุดคือ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมา ตั้งค่าหัวคนที่สามารถแจ้งเบาะแส หรือชี้ช่องให้ตำรวจจับตัวมือเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถึงคนละ 10 ล้านบาท พร้อมการันตี คนเสื้อแดงไม่ได้เป็นคนเผา แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนที่มีอาวุธในตอนนั้น
ร่ายยาวอีกต่างหาก โดยใช้ข้อมูลในเฟซบุ๊กของ "โอ๊ค" ลูก ชายสุดที่รัก "พานทองแท้ ชินวัตร" ที่ได้โพสต์เผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลมีเดีย ก่อนหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้พ่อ จะสไกป์เข้ามาในที่ชุมนุมกลุ่มนปช. ที่แยกราชประสงค์ไม่กี่ชั่วโมง
เป็นที่น่าสังเกตว่า "ทักษิณ" ใช้ข้อมูลชิ้นนี้อย่างละเอียดมาก เรียกได้ว่า แทบอ่านทุกตัวอักษร สรุปใจความสำคัญคือ ต้องการปฏิเสธว่า คนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ที่แยกราชประสงค์ในวันที่ 19 พ.ค. 2553 ไม่ได้เป็นผู้จุดไฟเผาบ้าน เผาเมือง หรือ เผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันสุดท้ายการชุมนุมทางการเมือง โดยระบุว่า แกนนำชุมนุมทุกคน ในวันนั้นได้ประกาศยอมแพ้และยุติการชุมนุมไปแล้ว แต่ไฟมาไหม้ในภายหลัง ทั้งยังอ้างอีกว่า จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า ถ้าไม่ถูกกลุ่มคนมีอาวุธไล่ให้ออกมาจากห้างเซ็นทรัลเวิลด์วันนั้น ไฟแค่นั้น สามารถดับได้ ไม่มีปัญหาและไม่ลุกลามแน่
ไม่ใช่ว่า คนไทยทั้งประเทศ ไม่อยากเชื่อข้อมูลที่ พ.ต.ท.ทักษิณกับนายพานทองแท้ เปิดเผย ออกมาในวันครบรอบ 3 ปี เหตุกระชับพื้นที่การชุมนุม 19 พ.ค. 2553 หากฉุกคิด ปัญหาคือ ข้อมูลดังกล่าวมีความเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่า เวลาล่วงเลยผ่านมาถึง 3 ปีแล้ว ก็เพิ่งเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ และนายพานทองแท้ นำข้อมูลชิ้นนี้มาเปิดเผยต่อสาธารณชน เป็นครั้งแรก โดยพูดออกจากปากเอง
ทั้ง นี้ถ้าอยากให้ประชาชนทั้งประเทศเชื่อ ก็ต้องออกมาตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อนว่า เหตุใดจึงเพิ่งมาเปิดเผยข้อมูลชิ้นนี้ ไม่เช่นนั้น ก็ต้องเจอกับการจองกฐินจากอีกฝ่าย ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ ที่นำโดยหัวขบวนอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลขณะนั้น ออกมาแก้ต่าง กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง อย่างที่เป็นอยู่
“ถ้า คิดว่า เป็นรัฐบาล หรือ ทหาร หรือใครวางแผนไปเผา อย่านิรโทษกรรม แต่นี่นิรโทษกรรมเพราะอะไร ก็พรรคพวกตัวเองติดคุกอยู่ใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้น ผมก็คิดว่าแค่ใช้สามัญสำนึก ดูข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ง่ายๆ แค่นี้ก็รู้อยู่แล้วว่า มันเป็นความพยายามที่จะสร้างนิยาย เล่านิยายกันขึ้นมา แล้วก็โกหกต่อเนื่อง โกหกซ้ำซาก การพูดว่าการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เป็นการเผาที่เดียวทั้งที่ไม่ใช่ เพราะมีการเผาสถานที่อื่นๆ ใน กทม.ด้วย
ขณะที่ต่างจังหวัด ก็มีการเผาศาลากลาง ที่ขณะนี้ มีการอ้างว่าคดียกฟ้อง เพราะขาดการสืบพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลที่ถูกจับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่เกี่ยวกับเสื้อแดง หรือ การชุมนุม ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลเชื่อว่า คนเสื้อแดง ไม่เกี่ยวกับการเผานั้น อย่านิรโทษกรรมคนที่เผา แต่ก็สงสัยว่า เหตุใดจึงต้องเรียกร้องให้นิรโทษกรรมคนที่เผา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วน การสไกป์ในประเด็นการเมืองอื่น ของนายใหญ่นั้น ต้องยอมรับว่า ก็ไม่ถึงกับต้องแปลกใจอะไรมากนัก ไม่ว่า จะเป็นกรณี ออดอ้อนคนเสื้อแดงว่า ไม่ได้ทอดทิ้งและพยายามหาทางช่วยเหลือพี่น้องที่ติดอยู่ในเรือนจำ ก็อาจเพื่อจัดให้เสื้อแดงบางกลุ่มอยู่ในแถว เนื่องจากที่ผ่านมามีการแสดงความไม่พอใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีท่าทีสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เสนอให้มีการนิรโทษฯ ให้กับทุกฝ่าย แม้แต่คนที่อ้างว่า เป็นคนสั่งการ ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อย บาดเจ็บหลายพันคน
หรือ จะเป็นกรณีสนับสนุนให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำโครงการจำนำข้าว-กู้เงิน 2 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศต่อ แม้แต่การสั่งให้เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของ วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยพี่น้องเสื้อแดงที่ติดอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ต้องสนใจตนเอง รวมทั้งการปูดว่า มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง ในขณะนั้น เรียกเงินถึง 600 ล้านบาท เพื่อจะทำให้หลุดคดีซุกหุ้น
หรือ จะเป็นกรณีสนับสนุนให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำโครงการจำนำข้าว-กู้เงิน 2 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศต่อ แม้แต่การสั่งให้เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของ วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยพี่น้องเสื้อแดงที่ติดอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ต้องสนใจตนเอง รวมทั้งการปูดว่า มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง ในขณะนั้น เรียกเงินถึง 600 ล้านบาท เพื่อจะทำให้หลุดคดีซุกหุ้น
จาก นี้ไป อยากให้สังคมไทยจับตาดูว่า ตกลงฝ่ายใดกันแน่ ที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง กับเหตุสลด เผาบ้านเผาเมือง หรือ โศกนาฏกรรมการเสียชีวิตของประชาชน ที่มีตัวเลขเกือบ 100 ราย ซึ่งต้องยอมรับว่า ได้สร้างบาดแผลในหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ มานานหลายปี จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจ และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง จะต้องติดตามผู้กระทำความผิดตัวจริง และนำตัวมาลงโทษให้ได้...อย่าปล่อยให้เงียบหายไปโดยเด็ดขาด ....
ก็อย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์มา นั่นละถูกต้องที่สุด ขอตั้งรางวัล หัวละ 10 ล้าน ให้กับคนที่สามารถแจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูล จนทำให้เจ้าหน้าที่ ไปตามจับ คนเผาบ้านเผาเมืองตัวจริง เสียงจริงมาลงโทษให้ได้...หากความจริงทั้งหมดปรากฏออกสู่สาธารณชนก็หวังว่า ความขัดแย้ง แตกแยกของประชาชนและของประเทศ ที่กินเวลามาอย่างยาวนาน จะได้ยุติลงเสียที เพราะคนส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่า เบื่อเต็มทีแล้ว...
ไอ้ที่เบื่อไม่ใช่อะไร คนทั้งประเทศก็รู้กันอยู่ว่าใครเผา และ ใครสั่งเผา ทักษิณยังมัวแต่หลอกตัวเองอยู่ได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น