วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"เฟซบุ๊ก"กลับคำ ยอมลบ"คลิปตัดหัว" หลังเจอแรงกดดันจากสาธารณะ เมื่อ 2 พ.ค.56



"เฟซบุ๊ก"กลับคำ ยอมลบ"คลิปตัดหัว" หลังเจอแรงกดดันจากสาธารณะ
 
"เฟซบุ๊ก"เปิดเผยว่า เตรียมลบวิดีโอที่เป็นภาพของคนที่กำลังถูกตัดศีรษะ ที่ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในเว็บไซต์




ข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความปลอด ภัยของเฟซบุ๊กแสดงการวิพากษ์วิจารณ์ต่อจุดยืนของบริษัท ที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธที่จะลบคลิปดังกล่าว โดยอ้างว่า ทุกคนมีสิทธิในการพรรณาถึงโลกที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน ที่ขัดต่อความเห็นของสถาบันด้านความปลอดภัยทางออนไลน์ของครอบครัว ที่ระบุว่า คลิปตัดศีรษะ"ล้ำเส้น" และเป็นการกระทำที่ขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ ขณะที่องค์การอุศลหลายแห่งของอังกฤษ เรียกร้องให้เฟซบุ๊กพิจารณาจุดยืนของตน  โดยชี้ว่าคลิปวิดีโออาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ชมในระยะยาว

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีผู้อัพโหลดคลิปดังกล่าว ที่มีความยาว 1 นาที ลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพของสตรีรายหนึ่งที่กำลังถูกบั่นศีรษะโดยชายที่สวมหน้ากาก โดยเสียงที่ได้ยินเข้าในได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเม็กซิโก ส่วนคลิปที่สองเป็นภาพการสังหารชายสองคนที่ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 24 เม.ย. เหยื่อกล่าวว่าพวกเขาเป็นพ่อค้ายาเสพติดให้แก่แก๊งค้ายา ก่อนที่จะถูกสังหารด้วยเลื่อยไฟฟ้าและมีด

นายไรอัน แอล นักศึกษามหาวิทยาลัยเบลฟาสต์ ติดต่อสถานีโทรทัศน์บีบีซี หลังเห็นคลิปดังกล่าวบนหน้าฟีด และกดแจ้งเฟซบุ๊กว่าเป็นจ้อความที่ไม่เหมาะสม และได้รับคำตอบจากเฟซบุ๊กว่า พิจารณาแล้วเห็นว่าคลิปดังกล่าวไม่ได้ละเมิดข้อบังคับมาตรฐานด้านภาพรุนแรง ของเว็บ และไม่ได้เป็นการกระทำที่ทำร้ายและก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่นและสาธารณะ และจะคงไว้ซึ่งคลิปดังกล่าว

เฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อวิดีโอการสังหารสตรีว่า การแบ่งบันวิดีโอดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อต้องการประณาม เช่นเดียวกับที่มีการเผยแพร่ภาพเช่นนี้ทางโทรทัศน์ ทุกคนสามารถเผยแพร่วิดีโอที่มีเนื้อหาในลักษณะเช่นนี้ในเฟซบุ๊ก เพื่อสร้างคววามระแวดระวัง และเฟซบุ๊กเองมีนโยบายคุ้มครองสิทธิในการอธิบาย พรรณา และแสดงความเห็นเกี่ยวกับโลกที่เราอาศัยอยู่

ด้านนักจิตวิทยาประจำองค์กรการกุศลที่ดูแลด้านการป้องกันการฆ่าตัว ตาย เปิดเผยว่า สภาพทั่วไปของเฟซบุ๊กในขณะนี้อาจกำลังสร้างปัญหา และเตือนว่าการรับชมวิดีโอดังกล่าวอาจส่งผลเสียหายในด้านจิตวิทยาในระยะยาว และอาจทำให้ภาวะความเคารพตนเองถูกตีความไปในทางที่ผิด และที่สำคัญคือ อาจมีผู้บริสุทธิ์ที่แบ่งปันคลิปดังกล่าวเพื่อชี้ให้เห็นถึงความน่ารังเกียจ ของมัน ที่อาจส่งผลกระทบที่ควบคุมไม่ได้ที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น