คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่12 มติชน 24 พ.ค. 2556

คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่12  มติชน 24 พ.ค. 2556



การชุมนุมใหญ่ของ นปช. วันที่ 19 พฤษภาคม ที่แยกราชประสงค์ในปีนี้ มีประเด็นให้กลายเป็นข่าวที่สร้างความสนใจได้ไม่น้อย กรณี อดีตนายกฯทักษิณ ประกาศตั้งค่าหัว 10 ล้านบาท เพื่อตามล่ามือเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ 

แน่นอนว่าในทางการเมือง เป็นการแสดงท่าทีเพื่อยืนยันว่า ผู้ชุมนุมประท้วงเมื่อปี 2553 ไม่ใช่คนเผาห้าง

เพื่อตอบโต้วาทกรรมของผู้มีอำนาจใน ศอฉ.ขณะนั้น 

ที่กล่าวหาว่า เป็นการชุมนุมของพวกเผาบ้านเผาเมือง

แต่ขณะเดียวกัน ในทางปฏิบัติ เงินรางวัลนำจับที่สูงขนาดนี้ มีผลจูงใจไม่น้อย

มีอยู่บ่อยๆ ที่การติดตามหาตัวอาชญากร สำเร็จได้ด้วยเงินรางวัลนำจับเป็นเครื่องมือล่อใจ

ทำให้คนใกล้ตัวผู้กระทำผิด คนในครอบครัวเดียวกันก็เคยมี ทนแรงยั่วยวนของเงินค่าหัวไม่ไหว

ยิ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลนำภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เห็นใบหน้าคนลงมือ 2 ราย ที่หน้าห้างจุดเกิดเหตุมาเผยแพร่

ตามด้วยภาพใบหน้าคนที่อยู่ใกล้ชิดในเหตุการณ์ อันอาจจะ

รู้เห็น เพื่อเรียกร้องให้เข้าให้ปากคำต่อตำรวจอีกด้วย

นี่ดูจะเป็นความคืบหน้าที่สำคัญของการคลี่คลายเหตุการณ์เผาห้างกลางเมืองหลวง

การเผาที่กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในการทำลายความชอบธรรมของผู้ชุมนุมประท้วงเมื่อปี 2553 

เป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายปราบปรามม็อบ 

ทำเอาผู้คนจำนวนหนึ่งหลงใหลไปกับการสร้างกระแสนี้ 

จนมองไม่เห็นคนตาย 99 ศพ 

กลับเห็นภาพไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าเป็นเรื่องใหญ่กว่าชีวิตประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมือง

กระทั่งใช้เป็นเครื่องมือในทางการเมืองในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อต้นปีนี้ได้อีกด้วย

อดีตนายกฯทักษิณและชาว นปช. จึงมีความหวังกับเงินรางวัล 10 ล้านบาท ว่าจะนำไปสู่การเปิดตัวคนเผาห้างให้ได้เสียที จะได้พิสูจน์ความจริงของเหตุการณ์ในวันนั้นได้ชัดเจน

ไม่เป็นเรื่องอึมครึม ที่กลายเป็นเครื่องมือทำลายทางการเมืองของคนบางคน

แต่อันที่จริง จะจับตัวมือเผาห้างได้ไม่ได้ก็ตามที

หากใช้จิตใจที่เปิดกว้าง แสวงหาความจริงเป็นสำคัญ

เราจะพบว่า การเผาห้างที่เกิดขึ้นในภายหลังเหตุการณ์สลายม็อบจบแล้ว ไม่ควรเป็นประเด็นใหญ่ที่นำมากลบเกลื่อนเหตุการณ์ฆ่าคนตาย 99 ศพได้

ในเมื่อการฆ่าคนดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2553 จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 การเผาที่มาเกิดขึ้นหลังจากนั้น จะนำมาเป็นเรื่องใหญ่เพื่อลบล้างการฆ่าคนร่วมร้อยได้อย่างไร

การเผาจะเกิดจากน้ำมือฝ่ายผู้ชุมนุมที่คับแค้นก็ได้ หรือจะเกิดจากฝ่ายผู้มีอำนาจสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายทางการเมืองและกลบเกลื่อนความผิดพลาดในการปราบม็อบจนคนตายร่วมร้อยก็ได้

จึงไม่ควรยอมให้นำมาขยายเพื่อลบล้างคนตาย 99 ศพเด็ดขาด

ที่สำคัญผู้ประดิษฐ์วาทกรรม ?เผาบ้านเผาเมือง? อาจจะเก่งกาจสามารถประดุจทนายความชั้นเทพที่ใช้เทคนิคทางกฎหมายกลบความจริง จนเอาชนะคดีในศาลได้

แต่ในความเป็นมนุษย์

เป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมประชาชนคนยากจนที่เข้ามาชุมนุมประท้วงในทางการเมืองอย่างเลือดเย็นที่สุด

ใครจะเผาก็ตาม เป็นเหตุที่เกิดภายหลัง

ความสำเร็จของวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง ก็คือความสำเร็จในการโยนศพ 99 ชีวิตเข้าไปในกองเพลิงเพื่อให้สูญสลายไปเท่านั้นเอง