ก็มาถึง "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง"
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รัก "ลุงตู่" ได้อย่างไรไหว.....?
ขนาดแฟนยังไม่เอาใจขนาดนี้เลย แต่ลุงตู่ รู้ใจ-เอาใจไปเสียหมดทุกอย่าง ชาวบ้านอยากดูหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค ๕" แต่ติดเคอร์ฟิวบ้าง ติดเงินในกระเป๋าบ้าง
ลุงตู่ก็จัดให้ "ดูฟรี" พร้อมกันทั่วประเทศ รอบ ๕ โมงเช้า อาทิตย์ที่ ๑๕ มิ.ย.นี้เลย!
"บอลโลก" เริ่มเตะกันวันนี้ (๑๒ มิ.ย.๕๗) ที่บราซิลเหมือนกัน มันเป็นความสุขที่ต้องมีต้นทุนไปแล้ว ที่จะมีทีวีพูลให้ดูฟรีเหมือนตะก่อน มันกลายเป็น "ความสุขจากของฟรี" ที่หายไปเสียแล้ว
แต่ ย.ห...อย่าห่วง ลุงตู่ "คนรู้ใจ" จัดให้ สั่งช่อง ๕ ช่อง ๗ สี อันเป็นเครือข่ายทหารบก เป็นฟรีทีวี มีให้ดู มีให้ลุ้น ครบทุกนัด
รวมทั้ง "นัดฝากขัง" ถ้าเล่นพนัน!
ไม่ใช่ใช้อิทธิพล คสช.เบ่งเอาฟรีนะ โปรดเข้าใจ เฮียฮ้อ แห่งอาร์เอสคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ ลุงตู่ให้ กสทช.เอาเงินกองทุนโปะให้เท่านั้น
เรียกว่า อะไรที่เป็นเรื่องนอกอ้อมแขนแล้วละก็ "ลุงตู่" ทำแทนได้หมด คืนความสุขให้คนไทย ครบทุกเม็ด!
พูดถึงหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี" ที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้
ผมก็ตั้งท่าจะต้องไปดูตั้งแต่รอบแรก แต่จนเข้าสัปดาห์ที่ ๒ ที่ ๓ ก็ยังไม่ได้ไป เพราะรอบที่พอจะไปดูได้ เขาก็ไม่ฉาย
คงกลัวต้องปูเสื่อให้คนดูนอนในโรง รอพ้นเคอร์ฟิวตอนตี ๔ ค่อยปล่อยกลับบ้านกันได้!?
ถามหลายคนที่ไปดู เขาบอกว่า "ควรต้องไปดู" เรื่องฉาก เรื่องเทคนิค "ท่านมุ้ยซะอย่าง" ไม่ต้องพูดถึง
แต่บทเจรจาในเรื่องนี่ซี...ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน ช่างคมบาดใจ เข้ายุค-เข้าสมัย ดูแล้ว-ฟังแล้ว นอกจากขนแขนสแตนด์อัพ หัวใจยังเปียกชื้นด้วยรอยสะอื้นแห่งจิตสำนึกไทยในอก!
ยิ่งฉาก "ผู้พันเบิร์ด" โชว์มัดกล้ามแผงอก ตอนเข้าพระ-เข้านาง ด้วยแล้ว....จากฝ่ายหญิงที่ผมถาม เหล่าเธอประสานเสียงบอกว่า....
กรี๊ดดดดด....กรี๊ดดดดด...กรี๊ดดดดดด...
& กรี๊ดดดดดๆๆๆๆๆ กันโรงร้าวสลบไปเลย!
กลายเป็นทีเด็ดในเรื่องที่คนดูนำมาพูดจาโจษจันกันให้ขรม โดยเฉพาะในหมู่หญิง ทำให้อยากกลับไปเล่นกล้ามขึ้นมาติดหมัด
ผมคงโม้ตามน้ำไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดู สำหรับหนังประวัติศาสตร์ไทย ผมว่าถ้าจะให้บรรลุเป้าหมายครบด้าน ใครสร้างเรื่องไหน ควรประมวลเรื่องราวประวัติศาสตร์นั้น พิมพ์แจกคนดูด้วย
น่าเสียดายตรงนี้แหละ คือทั้งระบบศึกษาและทั้งคนไทย "ส่วนหนึ่ง" ไม่คอยสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ชาติของตัวเองมากนัก คนไทยวันนี้จึงเป็น
"คนไทยรากตื้น"!
จึงเกิดปรากฏการณ์ "ขายบ้าน-ขายเมือง" แลกเศษน้ำข้าว ทำเอาแทบ "สิ้นชาติ-สิ้นอนาคต" จนกองทัพต้องเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ เป็นการหยุดยั้ง "ตลิ่งพัง" นี่ไง
อย่าว่าแต่ระดับชาวบ้านเลย ระดับครูบาอาจารย์ นักวิชาการหัวใน-หัวนอก ก็ยังเป็นไป ฝรั่งมะกันมันเอาทุนมาล่อเข้าหน่อย ให้ทำวิจัยนั่น-นี่ บังหน้า
พอกลับมาเท่านั้นแหละ....!
คลั่งสิทธิมนุษยชน คลั่งประชาธิปไตย คลั่งกฎหมายอุ้มโจร ภายใต้การชักใยกลไก "องค์กรนอกชาติ"
อะไร-ใคร ที่ขัดขวางการครอบงำและเข้าครองของ "อำนาจทุน"
เลวหมด!
กระทั่งระบอบและสถาบันบ้านเมือง ที่คุ้มหัวพวกมันมาตั้งแต่โคตรพงศ์วงศายันตัวเอง มันก็ยังว่าเลว "ต้องล้มล้าง"
ก็ไม่โทษพวกมันโดยตรงหรอก ต้องโทษระบบศึกษายุคใหม่ ไม่ต้องสาวไปไกลถึงประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์หรอก
เอาแค่จาก ๒๕๐๐ เรื่อยมาถึง ๑๔ ตุลา ๑๖ และ ๖ ตุลา ๑๙ แถม พฤษภาทมิฬ ๓๕ อีกนิดหน่อย
ใครเป็นใคร เรื่องราวเป็นยังไง คนอายุ ๓๐-๔๐ วันนี้ จากระบบศึกษายุคใหม่ใช่ว่าจะรู้เรื่อง?!
ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-อินเดีย เจริญเทคโนโลยี เจริญวิทยาการ เจริญวัตถุ ไปถึงขนาดไหน หลายๆ อย่าง ฝรั่งยังไม่ติดตีนด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความเป็นคนมีรากของเขา ต่อให้ก้าวหน้าทางวิทยาการขนาดไหน "ใหม่" กลืนหลายๆ อย่างได้ แต่ไม่สามารถกลืน "เก่า" ที่เป็นชาติและวัฒนธรรมได้เลย!
หนุ่มสาว อินเดีย-ญี่ปุ่น-เกาหลี ยังแต่งชุดประจำชาติไปไหน-มาไหนตามท้องถนน ขึ้นรถเมล์ ลงเรือไฟ ไปเครื่องบินได้ ด้วยความภาคภูมิใจ ในเอกลักษณ์ชาติตน
แม้แต่พม่า ที่ชอบพูดกันว่าล้าหลังกว่าไทยเกือบร้อยปี!
ถามว่า อะไรที่ว่าล้าหลัง ถ้าตอบว่า ตึกสูง ผับ บาร์ ยาเสพติด อาบนวด โรงหนัง โรงละคร การแปลงเพศ สถานการพนัน-อบายมุข ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ละก็
ใช่...พม่าล้าหลังกว่าไทย!
แต่ด้านเอกลักษณ์วัฒนธรรม-ศาสนาและจิตสำนึกในความเป็นชาติ ไทยล้าหลังกว่าพม่าเป็นพันๆ ปี!
การเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศของคณะ คสช.นี้ มุ่งเน้นสร้างสามัคคี มุ่งเน้นพัฒนาวัตถุ และการเศรษฐกิจ นั่นก็ใช่...ไม่เถียง
แต่นี่ คือการ "รดน้ำทางยอด"!
ผมอยากให้ "รดน้ำทางโคน" ด้วย เพราะเอาแต่รดทางยอด ไม่ช้า..ต้นก็ตาย แต่ถ้ารดทางโคน ยอดจะแตกกิ่ง-แตกใบ โตไป ๕๐-๑๐๐ ปีข้างหน้า
"รดน้ำทางโคน" คือต้องปฏิวัติระบบศึกษา-ระบบสังคมใหม่หมด เริ่มจากขั้นที่ ๑ คนไทยต้องหัด "เข้าแถว-เข้าคิว" ให้เป็น!
เรียน "หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม" ผู้ชาย-ผู้หญิง ต้องเข้าค่าย "ฝึกทหาร" ทุกคน
การศึกษาวันนี้ ต้องไม่ใช่แบบเรียนเพื่อรู้ตัวหนังสืออย่างเดียว ต้องเป็นแบบ เรียนเพื่อเอาวิชาไปทำมาหากินในชีวิตประจำวันจริงๆ ได้ด้วย
ต้องรู้จักชาติตัวเอง.....!
รู้จักรากเหง้าชาติตัวเอง ไม่ใช่รู้จัก ไมเคิล แจ็กสัน แต่ไม่รู้จัก "ศรีปราชญ์-สุนทรภู่-พระมหามนตรี" คือใคร?
รู้จักประธานาธิบดี ลินคอล์น คือใคร แต่ไม่รู้จัก "สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" คือใคร?
ทุกวันนี้รู้แต่ว่า "ชาติและทรัพยากรมีไว้ขายให้ระบบทุนต่างชาติ" แล้วระบอบทักษิณ "รวยผูกขาด" อยู่ตระกูลเดียว
และรู้แต่ว่า "ปล่อยให้มันโกงก็ไม่เป็นไร ได้แล้วเอามาแบ่งกัน"!
เมื่อวาน (๑๑ มิ.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดกับผู้บริหารกระทรวงต่างประเทศ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ ที่กองบัญชาการ ทบ. ...ดีมาก
"..........การทำงานในวันนี้มีความกดดัน เพราะมีคนรักมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีคนต่อต้าน คนด่า ผมไม่ได้โกรธ ไม่ท้อแท้ และยังคงตั้งหน้าทำงานต่อไป เพื่อให้คนไทยมีจริยธรรมมากขึ้น ควบคู่กับแก้ไขปัญหาทุจริต สร้างชาติของเราขึ้นใหม่ด้วยสติปัญญาให้โลกยอมรับ และวันนี้อยากจะคืนศักดิ์ศรี เกียรติยศ ให้กับข้าราชการไทย เป็นข้าราชการที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชน"
ถูกต้องแล้ว......!
-แก้ไขให้คนไทยมีจริยธรรม-วัฒนธรรมมากขึ้น
-แก้ไขปัญหาทุจริต-คอร์รัปชันที่ฝังรากและทอดรากยาวไขว้เกี่ยว
-สร้างชาติขึ้นใหม่ "ด้วยสติปัญญา" ไม่ใช่ด้วยอำนาจและโมหะแห่งอำนาจ
-คืนศักดิ์ศรีให้ระบบราชการ เป็นข้าราชการที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชนได้
ในประเด็นแก้ไขปัญหาทุจริต-คอร์รัปชัน พ.อ.วินธัย สุวารี แถลงในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย ว่า
"สำหรับความพยายามให้เกิดความปรองดองระหว่างคนในชาติ แต่จะไม่ปรองดองกับคนที่ทำผิด...."
นี่ไง..."หนังตัวอย่าง" การไม่ปรองดองกับคนทำผิดรอบปฐมทัศน์ สดๆ ร้อนๆ คสช.สั่งย้าย เลขาฯ สภาฯ-อัยการสูงสุด-ปลัดกระทรวง ICT มาปฏิบัติหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกฯ แล้ว
เรียกว่า เรียกเสียงกรี๊ดๆๆๆๆๆๆ จากแฟนๆ ลุงตู่ ได้ยิ่งกว่าเสียงกรี๊ดจากแผงอกผู้พันเบิร์ด นี่คือโฉมหน้าผู้ที่แฟนๆ เรียกร้องให้ไป และลุงตู่จัดให้
๑.นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
๒.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด
๓.นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวง ICT
เอ้า...สุดท้าย จากปากท่านผู้นำ คสช.ต่อคณะทูตไทย เพื่อให้นำไปบอกชาวโลกว่า.......
"จะจัดตั้งรัฐบาลภายใน ๓ เดือน ให้นับตั้งแต่วันที่ ๒๒ พ.ค.เป็นต้นไป โดยจะมีธรรมนูญปกครองชั่วคราว มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และสภาปฏิรูป
โดยในช่วงเดือน ส.ค.นี้ จะมี สนช.อย่างแน่นอน รวมถึงการกำหนดสัดส่วนตัวแทนจากภาคส่วนใดบ้าง ซึ่งจะมีจำนวนนับร้อยคน ทั้งนี้ เมื่อมีรัฐบาลเกิดขึ้น ทาง คสช.ก็ยังอยู่ดูแลความสงบอยู่ โดยทำงานควบคู่กันไปกับรัฐบาล"
ครับ...นับจาก ๒๒ พ.ค.ก็ไปตกราวๆ ๒๒ ส.ค.ประเทศไทยจะมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
และมี "สภาปฏิรูป"!
มวลมหาประชาชนทั้งหลาย การนอนกลางถนน ชีวิตบนกองเลือดพวกเราเพื่อคำ ๒ คำ "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" วันนี้ ภารกิจนั้น บรรลุแล้ว
ไม่ใช่กำนันสุเทพชนะ...ไม่ใช่มวลมหาประชาชนชนะ
แต่ "สังคมเป็นธรรม" ชนะแล้ว!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น