วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุมตัวหนุ่มเมืองเบียร์หนีออกจากสนามบินทำแผน-สารภาพไม่ตั้งใจหนี แค่อยากเที่ยวพัฒน์พงศ์-ข้าวสาร เมื่อ 1 มิ.ย.56



คุมตัวหนุ่มเมืองเบียร์หนีออกจากสนามบินทำแผน-สารภาพไม่ตั้งใจหนี แค่อยากเที่ยวพัฒน์พงศ์-ข้าวสาร
 
ภาพจากข่าวสด
ภาพจากข่าวสด

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. นางระวีวรรณ เนตรคะเวสนะ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่บก.ตม2  ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรณณภูมิราว 50 นาย ควบคุมตัวนายคาร์โล คอนแสตนติน โคห์ล (Carlo Konstantin Kohl) สัญชาติเยอรมัน อายุ 25 ปี 

ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียที่ก่อเหตุหลบหนีช่วงรอเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างถูกควบคุมตัวโดยตำรวจออสเตรเลียมาจากเมืองเมลเบิร์น และรอเดินทางต่อไปยังเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2556 ไปทำแผน ณ ประตูจุดเกิดเหตุ ที่อาคารรับรองพิเศษ VIPท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายคาร์โล มีสีหน้ายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับพูดทักทายเป็นภาษาไทยสั้นๆว่าสวัสดีครับ ขอบคุณครับ ผมทำผิดไปแล้ว จากนั้นจึงนำตัวนายคาร์โลขึ้นรถกลับไปคุมขังไว้ที่บก.ตม.2 รอการประสานจากออสเตรเลียมานำตัวไป 

น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า จุดที่มาทำแผนเป็นจุดเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารบริเวณอาคารเทียบเครื่องบินจี ซึ่งเป็นส่วนของห้องพักผู้โดยสารรอเปลี่ยนเครื่อง(Day Room) เนื่องจากวันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจของออสเตรเลีย ร้องขอห้องพัก 2 ห้องเพื่อพักผ่อนระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องเพราะเที่ยวบินล่าช้า ทำให้นายคาร์โล ใช้ช่วงเวลาประมาณ 04.00น.ออกมาจากห้องและเดินหาทางออกจากอาคารผู้โดยสาร ซึ่งก่อนหน้านั้นนายคาร์โล ได้เดินเข้าไปใช้บริการนวดแผนโบราณภายในสนามบิน ก่อนที่จะหลบซ่อนตัวอยู่ในช่องปรับอากาศ จนกระทั่งมาถึงประตูที่เป็นทางเข้าออกของแม่บ้าน ที่ใช้อยู่เป็นประจำซึ่งใช้เวลาอยู่ในสนามบินราว 30 ชม.  นายคาร์โล ให้การว่า ใช้เหรียญเปิดกล่องสัญญาณ ก่อนที่จะตัดสายไฟที่มีอยู่ 2 เส้น โดยใช้การคาดเดา แต่เมื่อตัดแล้วไม่มีสัญญาณดังจึงเปิดประตูออกมา ก่อนนั่งรถโดยสารเข้าไปในกรุงเทพฯ 

และเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นข้อบกพร่องของระบบการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นจุดที่เชื่อมกับอาคารผู้โดยสาร จะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่และพนักงานของสายการบินที่ใช้เข้าออก จึงต้องมีการแก้ไขให้รัดกุมมากขึ้น รวมถึงระบบการรักษาความปลอดภัย ณ จุดอื่นภายในสนามบินด้วยเช่นกัน ซึ่งจากสำรวจแล้วพบว่ามีประตูถึง 900 จุด จากนี้คงต้องให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินการต่อหลังได้ประชุมมอบแนวทางการทำงานไปแล้ว 

ด้านพล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. กล่าวเพิ่มเติมว่า นายคาร์โล ถูกจับกุมได้ขณะย้อนกลับไปติดต่อที่สถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทย เมื่อวานนี้(30 พ.ค.) เจ้าหน้าที่จึงนำตัวขึ้นศาลเพื่อดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยศาลพิพากษาสั่งจำคุก4 เดือน ปรับ 5,000 บาทแต่โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนายคาร์โล ได้ดำเนินการจ่ายค่าปรับเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้รอทางการออสเตรเลียประสานมาเพื่อรับตัวนำไปส่งยังประเทศเยอรมันต่อไป และจากการสอบสวน นายคาร์โลให้การว่า ไม่ได้มีการวางแผนที่จะหลบหนี เพียงแต่รู้สึกอึดอัดเพราะหลังพ้นโทษก็ต้องเดินทางกลับประเทศทันทีไม่มีโอกาสท่องเที่ยว ประกอบกับเคยได้ยินคนเล่าให้ฟังว่าเมืองไทยสวยงาม จึงอยากออกไปเที่ยว จึงใช้โอกาสหลบหนีออกไป โดยไปเที่ยวสถานที่หลักๆที่ชาวต่างชาติมักนิยมไปท่องเที่ยวกันในกทม. เช่น พัฒน์พงศ์  ข้าวสาร ซอยคาวบอย เป็นต้น ซึ่งนายคาร์โลยอมรับว่า เมืองไทยสวยงามอย่างที่ได้ยินมาจริง รู้สึกประทับใจ และจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยอีกหลังจากนี้แน่นอน 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น