วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

"ยิ่งลักษณ์" เทงบฯแสนล้าน ซื้อใจทหาร ต้านข่าวปฏิวัติวันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 15:31 น. ข่าวสดออนไลน์



วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 15:31 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


"ยิ่งลักษณ์" เทงบฯแสนล้าน ซื้อใจทหาร ต้านข่าวปฏิวัติ

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ : ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ทุกครั้งที่มีข่าวลือว่านายกรัฐมนตรีเตรียม "ปลด" ผู้บัญชาการทหารบก ให้พ้นจากการคุมกำลังรบ สิ่งที่ตามมาคือข่าวลือว่าจะมีการ "ปฏิวัติ-รัฐประหาร"

เช่นวันนี้ที่กระแสการปลด "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" พ้นจากเก้าอี้ ผบ.ทบ.ดังขึ้น ท่ามกลางกระแสการเมืองที่ปั่นป่วน บ้านเมืองแบ่งเป็นฝัก-ฝ่าย เงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มส่งสัญญาณความร้อนแรง

ทั้งกระแสคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ทั้งกระแสไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจากคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ผนวกกับเสียงของ 1 รองนายกรัฐมนตรี กับ 1 ที่ปรึกษานายกฯ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาสำทับการดำรงอยู่ของคำว่า "ปฏิวัติ-รัฐประหาร" 

1 รองนายกฯคนนั้นคือ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ที่พูดเป็นนัยว่า มีนักธุรกิจ 3 คนออกมาทุ่มเงินล้มรัฐบาล 

1 ที่ปรึกษานายกฯคือ "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" ออกมาเปิดเผยบรรยากาศการกินข้าวระหว่างนายกฯและผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อค่ำคืนวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าจะไม่มีการทำรัฐประหาร     จึงมีเสียงตอบโต้จากปากของ "พล.อ.ประยุทธ์" เมื่อถูกสื่อถามว่า สัญญากับนายกฯว่าจะไม่หยิบปืนมายึดอำนาจ

"นำเรื่องอะไรมาพูด เพราะไร้สาระ ใครจะปฏิวัติ ใครจะรัฐประหาร ใครสัญญาหรือไม่สัญญาจะเขียนและให้ความสำคัญกันทำไม ถ้าไม่ไปให้ความสำคัญทุกเรื่องก็คงจะจบแล้ว เขียนกันไปมาจนกระทั่งเขียนเสือ แล้วก็กลัวเสือที่ตัวเองเขียนขึ้นมา"

แม้วาจาของผู้นำทหารบกจะสะท้อนความคิดว่า จะไม่จับปืน-เข็นรถถัง ออกมายึดอำนาจ

แต่หากในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โยงใยถึงกองทัพทุกยุคทุกสมัย ผู้เป็น "ผบ.ทบ." มักปฏิเสธว่าไม่คิดรัฐประหาร แต่แล้วปฏิบัติการลับ-ลวง-พราง ชิงอำนาจรัฐด้วยกระบอกปืนกลับบังเกิดขึ้นทุกครั้ง

เมื่อ "กองทัพ" ยังมีอำนาจทั้งด้านที่มองเห็นและมองไม่เห็น สามารถต่อกรกับฝ่ายการเมืองได้ทุกชั่วเวลา

ยิ่งในภาวะที่การเมืองยังต้องออกอาการ "เกรง" กองทัพ และขณะเดียวกันการเมืองก็ต้อง "พึ่งพา" เพื่อค้ำบัลลังก์อำนาจ

"รัฐบาล" กับ "กองทัพ" จึงต้องเกี้ยเซียะ ประนีประนอม เพื่อประคองความสัมพันธ์อันเปราะบางไม่ให้แตกหัก

ดังนั้น จึงเห็นการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ที่มีจำนวน 2.525 ล้านล้านบาท ได้ถูกเจียดไปให้กระทรวงกลาโหม ยุคที่ "บิ๊กโอ๋" พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เป็นเสนาบดีถึง 184,737.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่างบฯปี 2556 ที่ได้ 180,491.53 ล้านบาท กว่า 4,245.94 ล้านบาท

เมื่อลงลึกไปยังแต่ละหน่วย พบว่าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรงบฯปี"57 ทั้งสิ้น 6,140.09 ล้านบาท มากกว่างบฯปี"56 ที่ได้ 6,090.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50,025.30 ล้านบาท 

โดยในแผนงานของสำนักปลัด มี 5 แผนงาน ประกอบด้วย 1.แผนงานเทิดทูน พิทักษ์ และรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ 22.76 ล้านบาท 2.แผนงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์และฟื้นฟูประชาธิปไตย 7.56 ล้านบาท 3.แผนงานเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศ 6,056.28 ล้านบาท 4.แผนงานป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 2.51 ล้านบาท และ 5.แผนงานรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 50.96 ล้านบาท ขณะที่กรมราชองครักษ์ อันมีแผนงานเทิดทูนพิทักษ์และรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้งบฯทั้งสิ้น 684.58 ล้านบาท 

ส่วนหน่วยรบ ทั้งบก-เรือ-อากาศ-กองบัญชาการกองทัพไทย ได้รับการเพิ่มงบฯทุกเหล่าทัพ มีเพียงกองทัพอากาศเท่านั้นที่ถูกปรับลด     โดยกองทัพบกได้รับการเจียดงบประมาณมากที่สุด ได้รับทั้งสิ้น 91,597.55 ล้านบาท มากกว่างบฯปี"56 กว่า 3,039.17 ล้านบาท 

อันดับสอง เป็นกองทัพเรือ 36,216.78 ล้านบาท ได้ปรับเพิ่มจากปี"56 ถึง 1,145.73 ล้านบาท

อันดับสาม เป็นกองบัญชาการกองทัพไทย ได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น 15,144.61 ล้านบาท ปรับขึ้นจากงบฯปี"56 ถึง 9.92 ล้านบาท

อันดับสี่ คือกองทัพอากาศ ถูกปรับลดงบฯลงจากปี"56 โดยรับงบฯทั้งสิ้น 33,619.11 ล้านบาท ลดลงจากงบฯปี"56 กว่า 262.74 ล้านบาท

แต่หากโฟกัสไปยังงบฯที่รัฐบาลเจียดให้กับกองทัพ และมักถูกวิจารณ์ว่า "เอาใจ" กองทัพ คืองบฯจัดซื้ออาวุธ-ยุทโธปกรณ์ เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บ ภายใต้ "แผนงานเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศ" 

"กองทัพบก" ได้งบฯกว่า 90,411.74 ล้านบาท มากเป็นอันดับหนึ่ง "กองทัพเรือ" ได้ทั้งสิ้น 35,237.22 ล้านบาท "กองทัพอากาศ" ถูกปรับลดลงจากงบฯปี"56 เหลือ 33,283.94 ล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย 14,682.51 ล้านบาท ขณะที่สำนักงานปลัดได้งบฯ 6,056.28 ล้านบาท และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ได้งบฯ 1,334.73 ล้านบาท

เมื่อรัฐบาลจัดงบฯเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพเพิ่มขึ้นมโหฬาร โดยเฉพาะ "กองทัพบก" ที่เป็นหน่วยคุมกำลังหลักในการยึดอำนาจ ข่าวคราวการปฏิวัติ-รัฐประหาร ในภาวะที่แรงต้านการยึดอำนาจจากมวลชนเสื้อแดงมีสูง แถมรัฐยังเอาใจประเคนงบฯไปซื้ออาวุธกว่า 9 หมื่นล้านบาท 


การรัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลมีโอกาสเป็นไปได้น้อย !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น