ประชาชนชาวเมียนมาร์อย่างน้อย 9 คนบาดเจ็บ และ 1 รายเสียชีวิต จากการปะทะกันในเมียนมาร์ระหว่างชาวพุทธและมุสลิม โดยชาวพุทธจุดไฟเผาบ้านชาวมุสลิม และมัสยิด 2 แห่ง
โดยการปะทะกันเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่เมืองโอ๊กกะ ทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้งราว 110 กิโลเมตร สุเหร่า 2 หลัง และบ้านของชาวมุสลิมหลายหลังถูกเผา โดยในหมู่บ้าน อิน ชุก ตาล ยังคงมีกองเพลิงอยู่ตามซากปรักหักพังขณะที่ชาวบ้านต่างร้องไห้ และหอบหิ้วถังน้ำเพื่อดังเพลิง
ขิน เมือง ธัน พนักงานร้านขายของคนหนึ่งในเมืองโอ๊กกะเปิดเผยว่า เหตุปะทะดังกล่าว เกิดเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมง และผู้ก่อเหตุเป็นคนในหมู่บ้าน ราว 50 คน ขณะที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า มีประชาชนหลายร้อยคนเข้าร่วมกับเหตุการณ์ดังกล่าว
การ ยุติความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและมุสลิมในประเทศกลายเป็นเรื่องท้าทายต่อ ประธานาธิบดีเต็งเส่งของเมียนมาร์หลังความขัดแย้งปะทุขึ้นครั้งแรกที่รัฐยะ ไข่ เมื่อปีที่แล้วโดยกลุ่มเรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชนออกมาโจมตีรัฐบาลชุดปัจจุบันของเมียนมา ร์ว่า ไม่สามารถยุติความรุนแรงของชาวพุทธต่อชาวมุสลิมได้ และการปะทะเริ่มขยับเข้าใกล้เมืองย่างกุ้งมากขึ้นเรื่อยๆ
"ฮิวแมนไรทส์ วอทช์" กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่นั้น มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน รวมทั้งอ้างว่ารัฐบาล พระ นักการเมืองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายชาวมุสลิมในครั้งนี้
โดยประชาชนกว่า 125,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมต้องกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ ประชาชนชาวมุสลิมมีจำนวนราวร้อยละ 4 ของประชากรเมียนมาร์ทั้งหมด 60 ล้านคน และ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศเป็นชนกลุ่มน้อย ซึ่งส่วนใหญ่มักก่อความไม่สงบต่อต้านรัฐบาลเพื่อแยกตัวเป็นรัฐอิสระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น