58 ส.ว.นาม"ส.ว.รักชาติ"ร่วมแถลงจี้นายกฯขอโทษ ปชช. เหตุพูดให้ร้ายประเทศที่มองโกเลีย เล็งเชิญเข้าแจงกมธ. ขณะ"สมเจตน์"เผยยังไม่ส่งปปช.ขอดูคำชี้แจงก่อน
วันนี้ ( 2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม"ส.ว.ผู้รักชาติ" จำนวน 58 คน ร่วมออกแถลงการณ์ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอโทษกับประชาชน กรณีที่ปาฐกถาพิเศษที่ประเทศมองโกเลีย และเตรียมเชิญเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา 4 ชุด โดย แถลงการณ์มีเนื้อโดยสรุป 6 ข้อว่า 1.นายกรัฐมนตรีพูดในทางที่สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในต่างประเทศและสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทย และยังแฝงนัยการเมืองที่สอดประสานการแก้รัฐธรรมนูญและต่อต้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2.นายกรัฐมนตรีกล่าวหาว่า พี่ชายถูกรังแกเป็นการพูดความจริงไม่ครบถ้วน เพราะการรัฐประหารในปี 2549 มาจากการใช้อำนาจโดยมิชอบ แทรกแซงอำนาจการตรวจสอบทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญปี 2540 จนเกิดการต่อต้านจากประชาชนอย่างกว้างขวาง
3.การที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐประหาร 2549 และการเข่นฆ่าประชาชนเมื่อ พ.ค.2553 มีสาเหตุเดียวกัน เท่ากับกล่าวหาศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ประกอบไปด้วยหลายหน่วยงานทั้งอดีตรัฐบาล ทหาร ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฏหมาย 4.การพาดพิงองค์กรอิสระสอดประสานกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง เป็นการทำหน้าที่สุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ หลักประชาธิปไตย และหลักนิติธรรม เพราะมีแต่การสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองด้านเดียว เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบจากคำตัดสินขององค์กรอิสระแต่ไม่เคยพูดถึงที่มาของความผิด
5.นายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจหลักของประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ โดยเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้แก่นแท้เป็นไปเพื่อรวบอำนาจไว้กับนักการเมืองเท่านั้น ขณะที่ประชาชนแทบจะไม่ได้ประโยชน์ 6.นายกรัฐมนตรี มีความสับสนและขัดแย้งในตัวเอง ด้วยการเชิญชวนนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยไม่มีความปลอดภัยทำให้ประเทศชาติเสียหาย
ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว.สรรหา กล่าวว่า ในขั้นตอนนี้จะยังไม่เชิญนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงด้วยการใช้อำนาจ พรบ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 โดยจะทำเป็นจดหมายเชิญไปก่อน แต่หากเชิญไปแล้วยังไม่ได้รับการตอบรับก็เตรียมพิจารณาต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะเรื่องดังกล่าวอยู่ในความห่วงใยของประชาชน อย่างไรก็ตามก็จะยังไม่มีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อให้เอาผิดทางอาญา เนื่องจากอยากรอฟังคำชี้แจงจากนายกรัฐมนตรีก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น