| จนท.ห้องเอ็กซเรย์หื่น! ข่มขืนคนไข้วัย 70 คารพ.ดัง เผ่นหนีกบดาน-ญาติจี้ล่าตัว |
| |
จนท.ห้องเอ็กซเรย์หื่น! ข่มขืนคนไข้วัย 70 คารพ.ดัง เผ่นหนีกบดาน-ญาติจี้ล่าตัว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ได้รับการร้องเรียนเหตุเจ้าหน้าที่ ร.พ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้ป่วยวัยชราภายในห้องเอ็กซเรย์ เหตุเกิดวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ทุ่งสง แต่คดีไม่คืบหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวหลบหนีไป ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ โรงพยาบาลดังกล่าว พบผู้เสียหายทราบชื่อนางช้อย (นามสมมติ) อายุ 70 ปี อยู่ ต.นาไม้ไผ่ อ.ทุ่งสง พร้อมกับบรรดาลูกๆ ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ห้องพิเศษ
นางช้อย กล่าวถึงเหตุการณ์ว่า หลังจากป่วยได้เข้ารักษาตัวที่ ร.พ.ทุ่งสง เมื่อวันที่ 10 ก.ค. เพื่อตรวจโรค
และแพทย์ให้นอนพักที่โรงพยาบาล ต่อมาวันที่ 12 ก.ค. แพทย์ส่งตัวไปเอ็กซเรย์ที่ห้องเอ็กซเรย์ หลังเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าห้องเอ็กซเรย์ ตนก็อยู่กับเจ้าหน้าที่ชายเพียง 2 คน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวฉีดยาให้ทางสายน้ำเกลือ และรู้สึกชาทั้งตัว ก่อนจะใช้เจลฉีดไปที่ช่องคลอดแล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็นำตนไปส่งด้านนอก
หลังจากนั้น 2 วัน ตนได้แจ้งไปยังแพทย์ของโรงพยาลว่า ถูกเจ้าหน้าที่ห้องเอ็กซเรย์ข่มขืน ทางแพทย์จึงนำตนไปตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐาน
ผลตรวจพบร่องรอยถูกข่มขืนจริง ต่อมาทางนพ.จรัส จันทร์ตระกูล ผอ.ร.พ.ทุ่งสง ได้สอบหาคนผิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือนายชัชรินทร์ ไกรวัฒนพงศ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ถ.เวชพฤกษ์พิทักษ์ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่เข้ามารับเหมาช่วงบริการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน ซึ่งได้ลาออกจากงาน หลบหนีไปแล้ว
ต่อมาในวันเดียวกันนี้ ร.ต.อ.หญิงทัศน์มน สงฆ์แก้ว พนักงานสอบสวนคดีทางเพศ สภ.ทุ่งสง
ได้เดินทางมาสอบปากคำนางช้อย เพิ่มเติมที่โรงพยาบาล เบื้องต้นทราบว่านายชัชรินทร์ ผู้ต้อหาหลบหนีไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช แต่ได้สึกหลบหนีไปแล้ว ทำให้ญาตินางช้อย ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ว่าทำไมทางโรงพยาบาลและตำรวจถึงไม่ดำเนินการใดๆ เพราะแจ้งความไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ก.ค. แต่เพิ่งมาสอบปากคำวันนี้
ญาติ ของนางช้อย ระบุว่า หลังเกิดเหตุนางช้อยบอกกับแพทย์ว่าจะแจ้งความ แต่ไม่อยากให้ลูกๆ ทราบ
แต่ตนมาทราบภายหลังว่าทางตำรวจได้แต่ลงบันทึกประจำวัน โดยไม่ดำเนินการใดๆ และทางโรงพยาบาลก็นิ่งเฉย ไม่ยอมดำเนินการใดๆ กับผู้กระทำผิด จึงต้องร้องไปยังผู้สื่อข่าว เรื่องที่เกิดขึ้นขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับผู้ป่วยหรือคนอื่นอีก
ญาติของนางช้อย กล่าวว่า ผู้เสียหายไม่ต้องการการเยียวยาหรือค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ขอให้โรงพยาบาลทุกแห่งมีมาตรการดูแลผู้ป่วยที่เป็นหญิง ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ให้ดีกว่านี้ ขณะที่ต้องอยู่ในห้องบริการทางแพทย์ที่มิดชิด และเชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้ ไม่ได้เกิดกับนางช้อยรายเดียว น่าจะมีรายอื่นถูกกระทำ แต่ไม่มีใครกล้ามาร้องทุกข์กับโรงพยาบาล หรือแจ้งความดำเนินคดี และขอเรียกให้ผู้ที่เคยโดนกระทำรายอื่นมาแจ้งความกับตำรวจ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ใจก่อเหตุเลวร้ายอย่างนี้อีก
ด้านนพ.จรัส จันทร์ตระกูล ผอ.ร.พ.ทุ่งสง กล่าวว่า นายชัชรินทร์ ผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ของบริษัทเอ็กซเรย์ คอมพิวเตอร์ที่มาเช่าพื้นที่โรงพยาบาลให้บริการเอ็กซเรย์
ได้ล่วงละเมิดทางเพศผู้ป่วยหญิงรายนี้จริง หลังจากทราบเรื่องได้ให้จิตแพทย์ไปดูแลผู้ป่วยหญิงคนดังกล่าวแล้ว และสืบสวนสอบสวนทางลับเป็นการภายใน หาตัวผู้กระทำผิด ดูเวลาคนเข้าออก และสอบถามรูปพรรณสัณฐานของผู้กระทำผิด ที่สอดคล้องกับที่ผู้เสียหายให้การไว้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่คนนี้จริง
“ต่อ มาได้เรียกนายชัชรินทร์มาสอบ ก็ให้การสารภาพ โดยมีผู้บริหารบริษัทเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ มารับรู้ด้วยว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และทางโรงพยาบาลจะปรับปรุงการทำงาน ไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมาอีก ซึ่งผู้กระทำผิดระบุว่ายินดีรับผิดชอบทั้งหมด และจะมาขอขมาผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากเห็นหน้าคนก่อเหตุ แต่ต้องการให้สังคมได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันคนอื่นตกเป็นเหยื่อแบบตนเอง และโรงพยาบาลพร้อมให้ความร่วมมือตามที่ผู้เสียหายต้องการ” นายแพทย์จรัสกล่าว
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สุรจิต ตะกรุดเดิม รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งสง ได้มาติดตามคดี
โดยส่งพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง และระบุว่าจะเร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวนายชัชรินทร์ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เชื่อมั่นว่าจะจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้ ท่ามกลางการเรียกร้องของหลายฝ่ายที่ต้องการให้คนร้ายคดีข่มขืนต้องได้รับโทษ ประหารชีวิต |
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น