วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

โอละพ่อ! คลิปฉาว ด.ต.จิกหัวสาวบนโรงพัก เหยื่อสารภาพตบหน้า ตร.ก่อน เมื่อ 30 ก.ค.57



โอละพ่อ! คลิปฉาว ด.ต.จิกหัวสาวบนโรงพัก เหยื่อสารภาพตบหน้า ตร.ก่อน
 


คลิปฉาว! ตำรวจจิกหัวทำร้ายสาวบนโรงพักถูกแชร์ว่อนเน็ต ผู้เสียหายสาวออกมายอมรับผิด โดยเดินเข้าไปในห้องขังเพื่อเยี่ยมเพื่อนชายจริงทั้งที่หมดเวลาเยี่ยม เมื่อถูกห้ามปรามจึงขว้างรองเท้าและเข้าไปตบหน้าดาบตำรวจ ขณะที่ดาบหมวกแดงปฏิเสธไม่ได้ทำร้ายสาวตามที่ปรากฏภาพในคลิป พร้อมขอโทษหากทำรุนแรงไป ส่วนด้านคดีก็ให้ดำเนินต่อไป

จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊กในเว็บเพจ youlike (คลิปเด็ด) มีผู้โพสต์คลิปโดยใช้ชื่อว่า ตำรวจทำร้ายประชาชน โดยนำมาจากเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Little Dinosauregg ที่ระบุว่า
 “กูเมาเข้าด่าน เพื่อนมาประกันกู ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ตีเพื่อนกู” 

ซึ่งถูกบันทึกโดยผู้หญิงที่อ้างว่า โดนตำรวจทำร้าย จำนวน 2 คลิป โดยคลิปแรกนั้นเห็นหน้าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอย่างชัดเจน ก่อนที่โทรศัพท์จะตกลงไปที่พื้น และคลิปที่ 2 ถูกบันทึกผ่านทางห้องขัง คาดว่าเป็นของผู้ที่โดนจับในข้อหาเมาแล้วขับ พบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวใช้มือกดไปที่ศีรษะของหญิงสาวที่ถูกทำร้ายจนกระทั่งล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจะเดินออกนอกห้องไป

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ สน.ลาดกระบัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าพนักงานสอบสวนได้เรียก ด.ต.หมวกแดง แก้วประเสริฐ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ลาดกระบัง เข้าให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด.ต.หมวกแดงให้การว่า
 เหตุการณ์วันนั้นทางกองบังคับการตำรวจจราจรได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์และจับผู้ต้องหาที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกิน 50 มิลลิกรัม ปอร์เซ็นมาควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจจำนวน 7-8 คน 

มีเพื่อนของผู้หญิงที่ปรากฏในคลิปถูกจับกุมมาด้วย ขณะที่หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางมากับผู้ที่ถูกจับและมีอาการมึนเมาจึงมีปากเสียงกับทางเจ้าหน้าที่ ก่อนพยายามที่จะเข้าไปในส่วนของห้องขังซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตเนื่องจากหมดเวลาเยี่ยมแล้ว

ทั้งนี้ มีตารางเวลากับป้ายเตือนแสดงไว้อย่างชัดเจน 
แต่หญิงคนดังกล่าวยังคงพยายามที่จะเข้าไปภายในห้องขัง ทางพนักงานสอบสวนจึงให้ ด.ต.หมวกแดงไปนำตัวออกมา โดยในครั้งแรกก่อนที่จะมีการบันทึกคลิปดังกล่าวได้มีการว่ากล่าวตักเตือน พร้อมทั้งเอ่ยปากห้ามไม่ให้หญิงคนนั้นเข้าไปภายในห้องขังแล้ว 

แต่หญิงคนดังกล่าวก็ยังคงใช้ถ้อยคำไม่สุภาพกับเจ้าหน้าที่และไม่ยอมออกจากส่วนของห้องขัง ตนจึงเข้าไปจับกุมตัวหญิงคนดังกล่าวออกมา การกระทำดังกล่าวนั้นตนทำไปตามขั้นตอนของกฎข้อบังคับและยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายคู่กรณีแต่อย่างใด ทั้งนี้หญิงคนนั้นก็ออกไปขว้างรองเท้าส้นสูงใส่ตน

ด.ต.หมวกแดงกล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นตนได้หลบไปอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนเพื่อช่วยทำเอกสารในการประกันตัวผู้ต้องหารายอื่น แต่หญิงคนดังกล่าวก็ออกไปใช้กำปั้นต่อยที่หน้าตนอีก 2 ครั้ง ก่อนที่ทางญาติของฝ่ายหญิงจะเดินเข้ามาห้าม ท่ามกลางพยานที่เดินทางมาประกันตัวญาติอีกหลายคน ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ทหารชื่อ เสธ.ตุ้ม  
อ้างว่ารู้จักกับหญิงคนดังกล่าวเดินทางเข้ามาขอโทษภายในคืนนั้นทันที พร้อมทั้งขอให้เรื่องทั้งหมดจบลง แต่ทางผู้ที่ถ่ายคลิปได้อัปโหลดคลิปผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ โดยผู้หญิงหญิงในคลิปบอกว่าจำอะไรไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้มีผลกระทบต่อทางครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนเองทำงานเป็นตำรวจมากว่า 20 ปี ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้องมาโดยตลอด เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดความน้อยใจเป็นอย่างมากพร้อมที่จะลาออกได้ทันที และถ้าหากการกระทำในคืนนั้นรุนแรงเกินไปตนก็พร้อมที่จะขอโทษ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายอย่างที่เป็นข่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.จิราพร อ่านคำเพชร อายุ 28 ปี หญิงสาวที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ลาดกระบัง เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.จิราพรให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาว่า
 ตนรู้สึกอับอายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวันนั้นตนเดินทางเข้ามาหาเพื่อนที่ถูกจับมาจริง แต่เมื่อสอบถามก็ไม่มีใครตอบว่าเพื่อนอยู่ไหน จึงเดินตามหาจนกระทั่งพบว่าเพื่อนอยู่ในห้องขังจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนเพื่อสอบถามว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างในการประกันตัว 

ด้วยความไม่รู้ว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าห้องขังในส่วนนี้ แต่ถูก ด.ต.หมวกแดงเข้ามาใช้วาจาไม่สุภาพไล่ตนออกไปจากห้อง จึงรู้สึกไม่ดีเกิดไม่พอใจในคำพูดของเจ้าหน้าที่ คว้าโทรศัพท์มาบันทึกเอาไว้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามาปัดโทรศัพท์ทิ้ง พร้อมทั้งกระชากผมอย่างแรงจนลงไปนอนกับพื้นตามคลิปที่ปรากฏ ก่อนที่ตนจะทนไม่ไหว หยิบรองเท้าที่สวมใส่ปาไปใส่เจ้าหน้าที่คนนั้นแต่ไม่โดนเนื่องจาก ด.ต.หมวกแดงปิดประตูไปก่อน

น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ภายหลังจากนั้นตนได้ออกไปตบเจ้าหน้าที่คนนั้น 2 ครั้งจริง 
โดยยอมรับว่าตนเองโมโหมากและแสดงอารมณ์รุนแรงจริง เนื่องจากโดนกระทำก่อน โดยมีแผลที่ใบหน้าและลำตัวซึ่งภายหลังได้ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ไทยนครินทร์ ทางแพทย์ก็ระบุว่าไม่เป็นอะไรมาก และยืนยันว่าไม่ได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้มาก่อนแต่อย่างใด รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ร้อยเวรได้ติดต่อมายังตนให้ยอมความเพื่อเรื่องจะได้จบ แต่ตนไม่ยอมและยืนยันว่าตนก็ไม่ผิด

สำหรับกรณีที่มีทหารมาติดต่อขอโทษเรื่องของตนนั้น
 ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุไม่มีทหารนายใดมาติดต่อ และไม่ได้รู้จักกับทหารนายใด เนื่องจากตนเพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ และวันเกิดเหตุก็เดินทางไปเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน โดยในวันนั้นตนดื่มจริงแต่ไม่เมา ยังคงมีสติอยู่ โดยตนพร้อมให้อภัยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว พร้อมยอมรับว่าในวันนั้นตัวเองก็ผิดจริงเช่นกัน แต่ตำรวจก็ไม่ควรกระทำกับตนเองเช่นนี้ และหลังจากนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนพยานแวดล้อมที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ต้องหาคนอื่นที่ถูกขังในวันนั้นด้วยเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 
โดยหลังจากนี้จะเรียนเชิญกรรมการตำรวจภาคประชาชนมาร่วมรับฟังเพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น