วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พลิก ใช้ กม.ล้อม ทักษิณให้ตรึงกับที่ เบรกเกมโลกล้อมประเทศ !? โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2557 06:47 น.

พลิก ใช้ กม.ล้อม ทักษิณให้ตรึงกับที่ เบรกเกมโลกล้อมประเทศ !?

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์1 สิงหาคม 2557 06:47 น.

ผ่าประเด็นร้อน 
       
       คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อหลายวันก่อนในทำนองว่า "ใครที่กระทำความผิดจริง ก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่ให้ถูกลงโทษก็ต้องหนีไป จะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ ถ้ากลับมาอยู่ที่ประเทศไทย ต้องถูกติดตามจับกุมดำเนินคดี" แม้ว่าจะเป็น “ตรรกะแปลกๆ”แต่ก็พอทำให้พอมองเห็นแนวทางในการดำเนินการกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในอนาคตได้เป็นอย่างดี 
       
       เพราะตามหลักการก็คือ " หากทำผิด มีการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรมปกติ และศาลพิสูจน์แล้วว่าผิด ถ้าอยู่ในประเทศไทยก็ต้องถูกดำเนินคดี หากหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ก็ต้องตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้หนีออกไป "
       
        หลักการมันต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ !!
       
       อย่างไรก็ดีถ้าไม่สงสัย ปล่อยให้ผ่านไป ก็มาพิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่ง พิจารณากันแบบแยกเรื่องออกมาต่างหาก แยกกรณีของ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาต่างหาก แม้ว่าจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าถ้าไม่อยากให้ถูกดำเนินคดีก็ต้องหลบหนีอยู่ต่างประเทศตลอดไป รวมไปถึงกรณีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีน้องสาวของเขา ที่กำลังถูกดำเนินคดีความผิดหลายคดี ซึ่งหลายคดีหากในอนาคตมีการพิสูจน์ว่ามีความผิดจริงก็จะเสี่ยงต่อการติดคุกและห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ตามกรอบของรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่กำลังจะมีขึ้นราวปีหน้า (2558) ที่ห้ามใครก็ตามที่เคยมีประวัติในคดีทุจริต ลงสมัครรับเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว
       
       เวลานี้ ยิ่งลักษณ์ ได้ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิด ฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จนสร้างความเสียหายกับรัฐหลายแสนล้านบาท และส่งเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนออกจากตำแหน่งทางการเมือง แม้ว่าเวลานี้จะไม่มีวุฒิสภา แต่ก็กำลังจะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เกิดขึ้นมาแทน และหากรับช่วงมาพิจารณาต่อจนสำเร็จ มันก็มีผลต่ออนาคตทางการเมือง หากออกมาในทางบวกถอดถอนไม่ได้ ก็โชคดีไปเปลาะหนึ่ง แต่ถ้าออกมาในทางลบ มันก็มีผลกระทบต่ออนาคตทางการเมืองนั่นแหละ
       
       นั่นเป็นเพียงคดีแรก ยังมีอีกหลายคดีตามมาเป็นหางว่าว จาก ปปช.เพราะยังมีอีกคดีที่เป็นคดีอาญาในความผิดตามมาตรา 157 ล่าสุด ปปช.ได้ส่งสำนวนไปถึงอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องไปแล้ว นี่ก็หากพลาดท่าก็หมายถึงคุก แม้ว่าจะยังมีเวลาอีกนานนับปี แต่เป็นใครหากโดนแบบนี้มันก็ต้องเสียวเป็นธรรมดา ยัง ยังไม่พอ เพิ่งจะโดนคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แจ้งข้อหาใช้ตำแหน่งหน้าที่หาเสียงโดยมิชอบ หลังมีการยุบสภาระหว่างการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้ยังต้องรอการชี้ขาดจาก กกต.อีกครั้งหนึ่งและยังมีเวลาอีกนาน แต่ก็นั่นแหละเมื่อเป็นมติเอกฉันท์มันก็พอเห็นแนวโน้มกันบ้างละ
       
       อย่างไรก็ดีเวลานี้เธอได้รับอนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เดินทางออกนอกประเทศ และมีกำหนดกลับมาภายในวันที่ 10 สิงหาคมที่จะถึงนี้ แต่ก็มีรายงานว่ากำลังยื่นเรื่องเพื่อขยายเวลาเดินทางกลับออกไปอีกระยะหนึ่ง
       
       การเดินทางออกนอกประเทศของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงที่ผ่านมาด้วยเหตุผลว่าไปท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรป และอเมริการวมไปถึงถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนและร่วมฉลองวันเกิดครบรอบ 65 ปีของ พี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายคนเฝ้ามองกันว่านี่คือการหลบหนีออกนอกประเทศหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรยังไม่ถึงกำหนดกลับมาจึงยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ เพียงแต่ว่าได้ข่าวว่า ยิ่งลักษณ์ “กำลังหาโรงเรียนนานาชาติ”ที่อังกฤษ มันอาจเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างนำร่องเอาไว้ก่อนหรือไม่ 
       
       ขณะเดียวกันเมื่อหักมุมกลับมาที่ ทักษิณ ชินวัตร อีกที ก็เริ่มได้เห็นปรากฏการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแบบตรงกันข้าม ที่เห็นได้ชัดก็คือท่าทีจากมิตรที่สนิทชิดเชื้อ อย่าง ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา ที่ล่าสุดส่ง รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เตียบัญ นำคณะใหญ่มาเยี่ยมเยียนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยในจำนวนนั้นยังหอบเอาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทายาทอำนาจคนต่อไป อย่าง พล.ท.ฮุน มาเน็ต มากันแบบสมเกียรติ ขณะเดียวกันก็ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติยิ่งใหญ่ ให้เกียรติไม่ต่างกับการต้อนรับระดับผู้นำประเทศ
       
       แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.เตียบัญ ก่อนเดินทางกลับไปว่า “เราจะไม่ยอมให้มีการใช้กัมพูชาเป็นฐานในการต่อต้าน คสช.อย่างเด็ดขาด” และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ฮุนเซน ก็เคยกล่าวยืนยันมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยคราวนั้นยังได้ฝากคำพูดไปไกลทำนองว่า “หวังว่า ทักษิณ ชินวัตร คงเข้าใจดี” 
       
       นอกจากนี้เมื่อพิจารณาจากท่าทีของประเทศมหาอำนาจอื่นๆ อย่างสหรัฐอเมริกา และสภาพยุโรป ระยะหลังเริ่มเปลี่ยนไป ลดความแข็งกร้าวต่อ คสช.ลง อาจเป็นเพราะมีการเคลียร์ชี้แจงกันเป็นระยะ อีกทั้งยังไม่ได้คุกคามผลประโยชน์ของประเทศเหล่านั้น ตรงกันข้ามยังไฟเขียวอำนวยความสะดวกในการการค้าการลงทุนได้อย่างราบรื่น จนแทบไม่มีปัญหา ทุกอย่างเริ่มเข้ารูปเข้ารอย
       
       แต่กลายเป็นว่า ลักษณะความเคลื่อนไหวดังกล่าวน่าจะมีผลกระทบ ต่อ ทักษิณ ชินวัตรและเครือข่ายโดยตรง กลายป็นว่า ที่เคยใช้ยุทธวิธี“โลกล้อมประเทศไทย” กำลังจะบล็อกเขาให้อยู่นิ่งๆ อยู่ข้างนอก เพราะหากย้อนกลับไปพิจารณาคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหัวหน้า คสช.ที่บอกว่า อยากให้ “คนแดนไกล” กลับมาสู้คดีแล้วจะรับรองความยุติธรรม รวมไปถึงคำพูดที่ว่า “ถ้าไม่อยากให้ถูกลงโทษก็ให้หนีไป จะอยู่ในประเทศไม่ได้” 
       
       และหากคนแดนไกลที่ว่าหมายถึงเขาคนนั้น เขาคงเข้ามาไม่ได้ !! 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น