วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

มือถือยี่ห้อดัง'ฮิตโยนเข้าคุก เผยนักโทษใช้โทรคุยแก๊งค์ค้ายา เมื่อ 31 ก.ค.57



มือถือยี่ห้อดัง'ฮิตโยนเข้าคุก เผยนักโทษใช้โทรคุยแก๊งค์ค้ายา
 
31 ก.ค.57 เมื่อเวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา นายวิรัตน์ ปานศรี ผู้บัญชาการเรือนจำรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำรัตนบุรี ว่าได้ยินเสียงวัตถุตกกระทบหลังคาโรงอาบน้ำของนักโทษชายแดน 2 จึงสั่งการให้ นายกังสดาล บุตรประเสริฐ นักทัณฑวิทยาชำนาญการ เรือนจำรัตนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและค้นหาที่มาของเสียงภายในเรือนจำและรอบบริเวณเรือนจำ จนพบวัตถุต้องสงสัยถูกพันด้วยเทปกาวสีดำเป็นก้อนอย่างหนาแน่น ตกอยู่ในร่องน้ำติดทางเดินใกล้กำแพงเรือนจำ 1 ห่อ และบนหลังคาโรงอาบน้ำนักโทษชายอีก 1 ห่อ จึงเก็บมาเปิดตรวจสอบดู

พบว่าภายในมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ซัมซุง รุ่น ฮีโร่ อยู่มัดละ 3 เครื่อง และแต่ละมัดมีอุปกรณ์ที่ชาร์จแบ็ตเตอรี่โทรศัพท์

ซึ่งถูกแยกชิ้นส่วนแล้วอีกมัดละ 2 ชุด  รวมโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 มัด 6 เครื่อง ที่ชาร์จแบ็ตเตอรี่ 4 เครื่อง  จึงยึดอายัดไว้ตรวจสอบพร้อมจะทำการสืบสวนผู้ต้องขังต้องสงสัยทั้งหมด เพื่อหาตัวผู้บงการให้โยนโทรศัพท์ลึกลับเข้าไปในเรือนจำดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ต้องขังภายในมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไปไว้ติดต่อเพื่อการค้ายาเสพติดอย่างแน่นอน เพราะทางเรือนจำไม่ได้อนุญาตให้มีการใช้โทรศัพท์ภายในเรือนจำแต่อย่างใด

ประกอบกับขณะนี้ทางเรือนจำได้ให้เฝ้าจับตานักโทษคดียาเสพติดขาใหญ่บางรายที่ถูกย้ายมาจากเรือนจำอื่นเป็นพิเศษ  
จึงทำให้ จนท.เรือนจำต้องเข้มงวดและจับตาเป็นพิเศษดังกล่าว จนสามารถตรวจพบและยึดยึดโทรศัพท์ของกลางได้ดังกล่าว  ส่วนผู้ต้องหาไม่สามารถจับกุมได้เพราะจุดที่โยนมือถือเข้าไปนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิด โดยทางเรือนจำจะได้มีการแก้ไขปัญหาและจัดหางบประมาณมาซื้อกล้องวงจรปิดติดเพิ่มเติมให้รอบเรือนจำอีกต่อไป แต่ขณะนี้ยังขาดงบประมาณสนับสนุนอยู่
นายวิรัตน์ ปานศรี ผู้บัญชาการเรือนจำรัตนบุรี กล่าวว่า หลังจากที่มีคนพยายามลักลอบนำโทรศัพท์มือถือโยนเข้าเรือนจำ

ก็ได้รีบดำเนินการขยายผลหาตัวผู้บงการในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด โดยให้นักโทษในเรือนจำช่วยกันบีบกดดันกันเอง คาดว่า ภายในวันนี้จะได้ตัวผู้บงการอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการในการป้องกันนั้น ก็ได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง ผกก.สภ.รัตนะบุรี ให้ช่วยส่งสายตรวจมาช่วยดูแล เนื่องจากทางเรือนจำมีบุคลากรน้อย มี รปภ.เพียงแค่คนเดียว จึงดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งช่วงที่อันตรายที่สุดคือตอนกลางวัน ถ้าสามารถโยนโทรศัพท์เข้ามาได้ ก็จะมีแก๊งที่เป็นนักโทษรับจ้างที่มีความสามารถในการซ่อนโทรศัพท์ โดยการเอายัดไว้ในก้น ซึ่งผู้คุมไม่สามารถตรวจเจอ เนื่องจากไม่มีเครื่องสแกน และถ้าโยนในช่วงกลางวันนักโทษจะเห็นได้เร็วและชัดเจนว่าโทรศัพท์ถูกโยนเข้ามาจุดใดก็จะรีบซุกซ่อน  หากว่าโยนในช่วงกลางคืนเป็นเวลาที่นักโทษทั้งหมดถูกให้เข้าไปพักผ่อน โทรศัพท์ก็จะตกค้าง ซึ่งในช่วงเช้าผู้คุมจะออกเดินตรวจตราและจะพบเห็นก่อนนักโทษอยู่แล้ว  แก๊งค์ดังกล่าวจึงได้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมมาโยนในช่วงกลางวันที่จะเห็นได้ชัดเจนแทน ซึ่งแก๊งนี้จะได้รับค่าจ้างในการเก็บโทรศัพท์ 3,000 บาท ต่อเดือน ส่วนผู้รับจ้างโยนโทรศัพท์เข้าเรือนจำหน้าจะเป็นคนพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง

ผบ.เรือนจำรัตนะบุรี กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทางเรือนจำต้องการมากที่สุดตอนนี้คือ อุปกรณ์ในการตรวจจับ เช่นเครื่องสแกนร่างกาย และกล้องวงจรปิด
 
เพื่อง่ายในการตรวจหาตัวผู้กระทำผิด แต่ยังขาดงบประมาณสนับสนุน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากโทรศัพท์มือถือถูกโยนเข้าไปถึงขาใหญ่ภายในเรือนจำจะมีราคาสูงถึงเครื่องละ 6-7 หมื่นบาทเลยทีเดียว  และผู้ที่โยนเข้าไปจะเลือกโทรศัพท์ที่มีความทนทานต่อแรงกระแทกโดยเฉพาะยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ ที่ทนทานต่อแรงกระแทกและมีราคาถูกดังกล่าวอีกด้วย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น